นับเป็นข่าวสุดช็อกเมื่อช่วง 1 วันที่ผ่านมากับการประกาศแยกทางกันระหว่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และ เชลซี ทั้งที่พาทีมจบอันดับ 6 ได้โควต้าไปเล่นฟุตบอลยุโรปแน่ๆ และก็มีฟอร์มที่ดีในช่วงท้ายของซีซั่น
เราไปดูเรื่องไทม์ไลน์กันหน่อยดีกว่าว่ามันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างก่อนจะมีการประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ และไปดูกันว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ไม่ได้ไปต่อ ?
เส้นทางการแยกทางระหว่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และ เชลซี เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 พ.ค.) โดยตัวของ กุนซือใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์ ไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกับเจ้าของทีม ท็อดด์ โบห์ลี่ แต่จากแหล่งข่าววงในระบุว่าไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องอนาคต แต่เป็นแค่การพูดคุยเรื่องความพร้อมก่อนเกมนัดสุดท้ายเท่านั้น
หลังจากนั้นในเกมวันอาทิตย์ เชลซี ลงสนามนัดสุดท้ายของฤดูกาลโดยการเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ บอร์นมัธ ซึ่งเกมนั้น เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ พาทีมเก็บ 3 คะแนนได้ตามคาดจากการเอาชนะ 2-1 โดยได้ 2 ประตูจาก มอยเซส ไกเซโด้ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
เชลซี จบอันดับ 6 ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก การันตีว่าได้โควต้าไปเล่นฟุตบอลยุโรปแน่นอนแแต่ก็ต้องลุ้นว่าจะได้ไป ยูฟ่า ยูโรปา ลีก หรือ ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ขึ้นอยู่กับเกมนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ แมนฯ ซิตี้
วันต่อมาจากการรายงานของ เดอะ เทเลกราฟ ว่ากันว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ถูกเรียกตัวไปที่สนามซ้อมค็อบแฮม เพื่อพูดคุยเรื่องกันถึงเรื่องต่างๆ ซึ่งในวันนั้นก็มีทั้งผู้อำนวยการกีฬา พอล วินสแตนลี่ย์ และ ลอเรนซ์ สจ๊วร์ต ซึ่งได้มีการพูดคุยกับเจ้าของทีมร่วมอย่าง เบห์ดัด เอกห์บาลี ด้วย
ในช่วงท้ายของการประชุมได้มีการตัดสินใจถึงอนาคตของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และก็มีจดหมายส่งไปถึงเขาในเช้าวันรุ่งขึ้น ทางฝั่งของ ท็อดด์ โบห์ลี่ ก็ได้ต่อสายโทรไปหา กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ทั้งวันจันทร์และวันอังคาร เพื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้
ตามรายงานระบุว่า ไม่ได้มีการไล่ออกหรือมีข้อโต้แย้งอะไรกัน ต่างฝ่ายต่างยินยอมที่จะแยกทางกัน ส่วนเหตุผลในการจากไปของ โปเช็ตติโน่ ว่ากันว่าหลักๆ ก็มาจากเรื่องปรัชญา, แนวทางและโครงสร้างของทีมที่ไม่ได้แมตช์กัน
มันอาจจะมีเรื่องความไม่ลงรอยที่สะสมมานานอยู่บ้างไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเฟ้นหาทีมงานใหม่ๆ ยกตัวอย่างโค้ชลูกตั้งเตะที่สโมสรมองว่าสำคัญ แต่ โปเช็ตติโน่ คิดอีกอย่างว่าสิ่งสำคัญมันขึ้นอยู่กับนักเตะ ตลอดจนเรื่องปัญหาอาการบาดเจ็บที่มักถูกพูดถึงบ่อยๆ แต่ทาง โปเช็ตติโน่ ก็มองว่าเป็นเรื่องของความโชคร้ายมากกว่า
จริงๆ ภาพรวมใหญ่ๆ มาจากเรื่องของแนวคิดและปรัชญาที่ไม่ลงเข้ากันมากกว่า ก็เลยนำมาสู่การแยกทางกันแบบยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย โดย โปเช็ตติโน่ มองว่าแยกกันตรงนี้ดีกว่า ในเมื่อแนวคิดมันไปด้วยกันไม่ได้ถ้าฝืนต่อไปก็อาจเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างกันมากกว่า
ทางฝั่งของ เชลซี เองก็ไม่ปฏิเสธโอกาสถ้าหากวันหนึ่งจะได้กลับมาร่วมงานกับ โปเช็ตติโน่ อีกครั้งในอนาคต ก็เลยมองว่าแยกทางกันไปตอนนี้น่ะดีแล้ว ถ้าเกิดฤดูกาลหน้าปัญหาต่างๆ มันหนักหรือเพิ่มมากขึ้นจะยิ่งมองหน้ากันไม่ติด และพวกเขาก็ไม่อยากให้มีการสั่งปลดหรือเปลี่ยนโค้ชใหม่ในระหว่างซีซั่นเหมือนที่ผ่านๆ มาด้วย
ถึงแม้ โปเช็ตติโน่ จะมาเร่งเครื่องและทำผลงานได้ดีกับ เชลซี ในช่วงโค้งสุดท้าย หลายๆ สิ่งเริ่มเข้าที่เข้าทาง นักเตะเริ่มเข้าใจแท็คติก เล่นกันได้ไหลลื่นมากขึ้นจนแฟนๆ หลายคนก็รู้สึกว่าอยากให้อยู่ต่อ
การพาทีมจบอันดับ 6 ได้ถือว่าไม่ได้เลวเลยสำหรับฤดูกาลแรกที่ต้องเรียนรู้และสร้างทีมขึ้นมาใหม่ แต่บอร์ดบริหารของ เชลซี เองก็ตั้งความคาดหวังเอาไว้สูงกว่านั้น
ส่วนคำถามเรื่องโค้ชคนใหม่ทาง แมตต์ ลอว์ เองก็ยืนยันว่า เชลซี ไม่ได้ต้องการพวกบิ๊กเนม และจะไม่กลับไปหา โธมัส ทูเคิ่ล ที่เปรยๆ ว่าคิดถึงงานที่ อังกฤษ จะไม่กลับไปหา โชเซ่ มูรินโญ่ ที่มีแฟนๆ เรียกร้องให้กลับมาไม่น้อยเช่นกัน รวมไปถึง อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ด้วย
ว่ากันว่า เชลซี ได้โมเดลและแรงบันดาลใจมาจาก ชาบี อลอนโซ่ ของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น นั่นคือการหาโค้ชหน้าใหม่ไฟแรง โดยคนที่กำลังมีข่าวตอนนี้ก็จะมี เซบาสเตียน เฮอเนส ของ สตุ๊ตการ์ท, มิเชล ซานเชซของ จีโรน่า รวมไปถึง คีแรน แม็คเคนน่า ของ อิปสวิช ทาวน์
สุดท้ายจะลงเอยที่ใครก็คงต้องติดตามกันต่อไป เพราะ เชลซี ก็ตั้งเป้าว่าจะรีบหาโค้ชคนใหม่ให้ไวและด่วนที่สุด เพราะจะได้มีเวลาศึกษาและเตรียมทีมได้มากพอก่อนที่ฤดูกาลใหม่จะเปิดฉากขึ้น
HaMu Dos Santos