ศึกฟุตบอลรีโว่ ไทยลีก 2022/23 เดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของเลกแรก เหลืออีกเพียง 2 นัดเท่านั้น วันนี้เราจะมาสรุปสถานการณ์ของทั้ง 16 สโมสรว่าอยุ่จุดไหน แต่มีอะไรให้ลุ้นกันบ้าง
เริ่มที่กลุ่มลุ้นแชมป์
เอาจริงๆ การลุ้นแชมป์มีลุ้นอยู่เพียง 4-5 ทีม แต่ถ้าจะมองถึงความเป็นไปได้น่าจะลุ้นอยู่แค่ 2-3 ทีมเท่านั้น หรือบางทีอาจจะแค่ทีมเดียว แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงเลกแรกเท่านั้น เลกสองยังมีโอกาสที่สถานการณ์ต่างๆ จะเปลี่ยนไป แต่ถ้าเราดูจากตารางคะแนนตอนนี้ เต็งหนึ่งอย่างบุรีรัมย์ มีโอกาสที่จะนำม้วนเดียวจบ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยังไร้พ่าย และผลงานดีต่อเนื่อง แต่ถ้าถามว่ามีทีมไหนบ้างที่มีโอกาสจะสอดแทรกขึ้นมาสู้กับบุรีรัมย์ เอาตามตารางคะแนนมีอยุ่ 3 ทีม คือ ชลบุรี, ทรู แบงค็อก และ ราชบุรี
ขณะที่ทีมที่ตามมาอย่าง การท่าเรือ กับ บีจี ปทุม รองแชมป์เก่า เต็มที่คงได้ลุ้นท็อปทรีหรืแท็อปโฟร์ การจะไปลุ้นแชมป์ค่อนข้างยาก แต่อาจจะมีโอกาสขึ้นไปจบรองแชมป์ได้ ถ้าหากฟอร์มดีจัดๆ ในเลกสอง แล้วบรรดาทีมหัวตารางฟอร์มสะดุดตามกันไป แต่โอกาสเกิดขึ้นยากมาก
กลุ่มกลางตาราง
ในกลุ่มนี่ก็จะตีวงตั้งแต่อันดับ 5 ถึงอันดับ 9 ซึ่งตอนนี้ก็มีสองทีมใหญ่ที่เกาะกลุ่มนี้อยู่อย่าง การท่าเรือ และ บีจี ปทุม ที่ต้องรอดูว่าเลกสองจะถีบตัวเองขึ้นไปได้ไหม แต่สำหรับเลกแรกที่เหลืออีก 2 นัดก็น่าจะจบในโซนนี้ไปก่อน ขณะที่ทีมอย่าง เชียงราย, โปลิศ เทโร, สุโขทัย เหล่านี้ถือว่าฟอร์มดีขึ้นมา มีเพียงเชียงรายที่อันดับตกลงมา ส่วนอีกทีมที่มีลุ้นจบเลกตัวเดียวก็คือ เมืองทอง ทีมอันดับ 10 ถ้า 2 นัดที่เหลือชนะรวดก็มีโอกาสอันดับพุ่งเหมือนกัน
โซนรอดตกชั้น
ก่อนไปถึงดซนท้ายตาราง มันก็จะมีกลุ่มก้อนบรรดาทีมที่อยุ่ในอันดับเลกสองตัว 10-13 แต่ไม่ได้อยู่ในโซนตกชั้น ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีทีมไหนอยากไปอยู่เท่าไหร่ เพราะมันสุ่มเสี่ยงที่จะต้องไปหนีตาย ซึ่งทีมที่อยุ่ในกลุ่มนี้อย่าง เมืองทอง, โคราช, พีที ประจวบ, ขอนแก่น มีโอกาสที่จะถีบตัวเองขึ้นไปเลขตัวเดียวก่อนจบเลกแรก แต่ต้องเก็บ 6 แต้มให้ได้ ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสตกไปโซนตกชั้นหากเก็บแต้มไม่ได้ และทีมท้ายตารางเกิดชนะรวดขึ้นมา เพราะฉะนั้นเป็นกลุ่มที่อันตรายมากๆ ขึ้นอยู่กับฟอร์มตัวเองล้วนๆ
โซนตกชั้น
สามทีมที่อยู่ในโซนตกชั้นตอนนี้คือ หนองบัว พิชญ, ลำปาง เอฟซี และ ลำพูน วอริเออร์ ยังมีโอกาสที่จะหนีโซนแดงหลังจบเลกแรก เพราะแต้มก็ไม่ไเด้ห่างกันมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับผลงานของตัวเองในสองเกมที่เหลือว่าจะทำได้ดีแค่ไหน ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องจมอยู่ท้ายตารางในเลกแรกต่อไป แล้วไปว่ากันใหม่เลกสอง
นี่เป็นเพียงสถานการณ์ ณ ปัจจุบันก่อนจบเลกแรก ซึ่งพบจบเลกแรกแล้ว ทุกอย่างก็จะชัดเจนมากขึ้น ว่าแต่ละทีมอยู่ในจุดไหน แต่เป้าหมายจะเป็นอย่างไรในเลกสอง ซึ่งถึงตอนนั้นเราคงได้มาว่ากันอีกที
