logo-heading

เมื่อสัปดาห์ก่อนทีม "ราชันโคขาว" ลำพูน วอริเออร์ เพิ่งจะสร้างความฮือฮาด้วยการคว้าตัว "อเล็กซานเดร กาม่า" กุนซือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเมืองไทย มาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ในเลกที่ 2 ซึ่งนี่ถือเป็นบทพิสูจน์และความท้าทายครั้งใหม่ของกุนซือชาวแซมบ้ารายนี้ กับการกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง

เพราะอย่าลืมว่าทีม ลำพูน วอริเออร์ นั้นไม่เหมือนกับ 3 สโมสรที่เขาเคยคุมมาก่อน ที่บอกว่าไม่เหมือนกันก็คือ นี่คือการรับงานคุมทีมที่เป็นน้องใหม่ครั้งแรก และถือเป็นทีมที่อยู่ในโซนหนีตกชั้น ไม่ใช่ทีมที่มีลุ้นแชมป์เหมือนบุรีรัมย์, เชียงราย หรือ เมืองทอง ที่กาม่า เคยคุมมาก่อนหน้านี้

มันจึงน่าสนใจว่ากุนซือวัย 54 ปี รายนี้ จะสามารถเสกทีมราชันโคขาว ให้เป็นยอดทีมในเวทีไทยลีกได้หรือไม่ แต่นั่นคงเป็นเป้าหมายในระยะยาว แต่เป้าหมายระยะสั้นในตอนนี้ งานแรกและสำคัญที่สุดของกาม่า ก็คือการพาทีมลำพูน อยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดฤดูกาลนี้ให้ได้ก่อน ถือถ้าเป็นไปได้ก็ขอจบเลขตัวเดียว แล้วฤดูกาลหน้าค่อยวางแผนการสร้างทีมเพื่ออนาคตกันใหม่

ครั้งแรกที่กาม่า มาคุมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2014 ก็สามารถพาทีมเซราะกราวคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เลย แถมยังสร้างปรากฎการณ์ต่างๆ มากมายทั้งการคว้าทุกถ้วยในปีเดียว การพาทีมบุรีรัมย์ ป้องกันแชมป์ลีก แชมป์บอลถ้วย

และต่อมาก็สร้างเชียงรายให้กลายเป็นแชมป์ไทยลีกเมื่อปี 2018 แถมด้วยบอลถ้วยอีกทั้งลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ ซึ่งถือเป็นการสร้างรากฐานให้ทีมเชียงรายกลายเป็นทีมหัวตารางของไทยลีกเวลานี้

หลังทำเชียงรายมีอยู่ช่วงนึงที่ กาม่า โดดไปรับงานคุมทีมชาติชุด ยู23 เพื่อหวังจะไต่เต้าขึ้นไปเป็นกุนซือทีมช้างศึกชุดใหญ่ แต่ทุกอย่างไปเป็นไปตามเป้า บวกกับผลงานที่ไม่ดีกับช้างศึกชุดเล็ก ทำให้ต้องแยกทางกันไป

ก่อนที่ กาม่า จะกลับมาคุมสโมสรอีกครั้งกับเมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2019 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการที่จะพาทีมกิเลนผยอง กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และก็ต้องแยกทางกันไปในที่สุด

ซึ่งทีมต่อมาก็ไม่ใช่ใครคือทีมที่สร้างเขาขึ้นมานั่นเองอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่การกลับมาคุมทีมปราสาทสายฟ้ารอบนี้ ดูจะไม่ราบรื่นเท่าไหร่ และสุดท้ายก็อยู่ได้ไม่ถึงปีต้องออกจากทีมไป และไม่สามารถพาทีมกลับมาเป็นแชมป์ได้อย่างที่เคยทำได้

เมื่อต้นไปเจ้าตัวไปรับงานคุมทีมแดกู ในเคลีก เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่เขาเคยไปทำงานอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานก่อนจะมารู้จักเมืองไทย แต่การกลับไปแดนกิมจิรอบนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน จึงต้องกลับมาในลีกที่เขาน่าจะรู้จักดีที่สุดอย่างไทยลีก

และทีมที่เจ้าตัวเลือกกลับมาก็คือ "ลำพูน วอริเออร์" ที่ดูจะมีกำลังในการจ่ายค่าเหนื่อยระดับกาม่า ได้ แม้จะมีหลายสโมสรที่อยากจะได้ตัวเฮดโค้ชบราซิลผู้นี้ไปคุมทีม แต่ด้วยเรื่องค่าตัว และการเจรจาที่ติดๆ ขัดๆ นี่แหละ ทำให้สุดท้าย กาม่า ก็เลือกจบที่ลำพูนในที่สุด

จากนี้คงต้องรอดูว่ากาท่า จะสร้างลำพูนออกมาเป็นแบบไหน ซึ่งทีมชุดปัจจุบันนั้นไม่ได้มีนักเตะชื่อดังอะไรมากมาย ถ้าไม่นับ อาลี ซิสโซโก้ นักเตะส่วนใหญ่ก็ถือเป็นระดับกลางๆ ในไทยลีก ดังนั้นจึงเป็นงานยากพอสมควรในการจะขุนโคขาวตัวนี้ให้ขึ้นมาเป็นยอดทีมดั่งที่ตั้งใจไว้

แต่ที่มั่นใจแน่ๆ ก็คือ ในเลกสอง ลำพูน จะดีขึ้นกว่านี้แน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปแบบการเล่น แผนการเล่นที่เปลี่ยนไป และที่เราจะได้เห็นชัดๆ เลยก็คือ เลกสองลำพูน จะมีนักเตะบราซิลเข้ามาแน่ๆ อย่างน้อย 2 คน และแข้งแซมบ้าวองตัวนี้แหละที่น่าจะเข้ามาช่วยทีมได้

และก็ด้วยความมั่นใจอีกแหละว่า กาม่า จะสามารถพาทีมลำพูนรอดตกชั้นได้แน่นอน ซึ่งฤดูกาลหน้าถึงจะถึงเวลาของการสร้างทีมที่แท้จริงของกาม่า กับลำพูน วอริเออร์ เวอร์ชั่นใหม่!!! ซึ่งจะไปได้ไกลแค่ไหน คงต้องรอดูกัน

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline