logo-heading

หลังจากที่ "ทีมชาติไทย" ประเดิมสวยหรูในเกมอุ่นเครื่องนัดแรกก่อนเล่น เอเอฟเอ มิตซูบิชิ อิเลคทริค คัพ ด้วยการถล่ม เมียนมาร์ ไปแบบเลอะเทะ 6-0

เกมนัดดังกล่าวถือเป็นเกมที่ มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้ลองผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะเป็นชุดใหญ่ที่ใช้ในรายการ อาเซียน คัพ นี้ เพราะจัดเต็มเรื่องตัวผู้เล่นที่มีทั้ง พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, เอกนิษฐ์ ปัญญา และ ธีรศิลป์ แดงดา

ซึ่งตลอดเกมเราเห็นถึงความแตกต่างในระดับการเล่นกับ เมียนมาร์ ที่ ทีมชาติไทย เล่นกันอย่างเนียนตาและเหนือกว่าในทุกๆ มิติ ด้วยผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด คลาสบอลแต่ละคนทันกัน ทุกคนต่างเข้าใจวิธีและรูปแบบในการเล่น แม้จะเปลี่ยนจากระบบหนัาตัวเดียวมาเป็น "หน้าคู่" ก็ตาม เรียกได้ว่าหายห่วงถ้าเป็นชุดนี้ ... 

ขยับให้หลังมาแค่ 2-3 วัน เกมอุ่นเครื่องนัดที่ 2 เจอกับทีมที่ไม่ใช่ระดับอาเซียน แต่ก็ยังเป็นทีมที่ช่วงหลังๆ ของเราข่มด้วยชัยชนะตลอดอย่าง ไชนิช ไทเป (ไต้หวัน)

ซึ่งเกมนัดที่สอง มาโน่ โพลกิ้ง เลือกลองผู้เล่นแบบเต็มๆ เพราะเลือกเปลี่ยนแบบยกชุดตั้งแต่ หน้า ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ลงคู่กับ ธีรเทพ วิโนทัย กลางมี พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กับ สรรวัชญ์ เดชมิตร และ สุมัญญา ปุริสาย หลัง เฉลิมศักดิ์ อักขี และ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ รวมไปถึง ผู้รักษาประตู เป็นคิวของ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล

แม้ภาพรวมจะมี ธีรเทพ วิโนทัย ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับทีมชุดนี้เล่นด้วยถึงเกือบๆ ครึ่งชั่วโมง แต่หลังจากนั้นก็เป็นผู้เล่นใหม่ทั้งหมด พร้อมกับที่ มาโน่ เลือกที่จะส่งผู้เล่นจากเกมแรกลงสนามเลย คาดว่าน่าจะเพราะด้วย 2 เหตุผลใหญ่ๆ หนึ่งคือไม่อยากเสี่ยงให้ผู้เล่นในทีมชุดที่ดีที่สุดบาดเจ็บก่อนทัวร์นาเมนต์ และสองต้องการลองผู้เล่นแบบเต็มๆ 

และพอได้ลองแบบเต็มๆ ทำให้เห็นเลยว่าจุดบอดของ ทีมชาติไทย ในชุดนี้อาจจะเป็นทีมสำรองที่ยังไม่ดีพอที่จะแทนชุดใหญ่แบบเต็มๆ แต่เรื่องนี้เข้าใจได้เพราะนี่คือการเอาผู้เล่นชุดสำรองลงสนามพร้อมกันทั้งหมด ทำให้เห็นความต่างจากผู้เล่นในทีมชุดแรกแบบชัดเจน 

ถ้ากลับกันลองจิตนาการเอาผู้เล่นในทีมชุดสำรอง 2-3 คนเข้าไปเปลี่ยนในทีมชุดแรกดู มันก็ไม่ถึงกับแย่ ยกตัวอย่าง วีระเทพ ป้อมพันธุ์ เล่นกับ ธีราทร บุญมาทัน หรือ เฉลิมศักดิ์ อักขี จับคู่กับ กฤษดา กาแมน หรือ ปรเมศย์ อาจวิไล เล่นหน้าคู่กับ ธีรศิลป์ แดงดา

ดังนั้นเมื่อมองแบบนี้แล้วพอจะเห็นภาพว่า ทีมชาติไทย ชุดนี้แม้จะไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด หรือชุดที่ดีไปกว่าปีที่แล้วที่เราคว้าแชมป์มาได้ แต่ชุดนี้ก็ไม่ถึงกับขี้เหร่จนมองไปถึงแชมป์อาเซียนไม่ได้

อีกอย่างการเล่นในรอบแรกที่กลับมาเล่นในรูปแบบเดิม (ไม่มีเจ้าภาพ) ทำให้ความได้เปรียบเสียเปรียบมันแทบไม่มี ประกอบกับโปรแกรมในรอบแรก (ด้านล่าง) ที่ไม่ได้หนักมาก 

วันที่ 20 ธันวาคม 2565 : บรูไน พบ ทีมชาติไทย (เยือน)
วันที่ 26 ธันวาคม 2565 : ทีมชาติไทย พบ ฟิลิปปินส์ (เหย้า)
วันที่ 29 ธันวาคม 2565 : อินโดนีเซีย พบ ทีมชาติไทย (เยือน)
วันที่ 2 มกราคม 2566 : ทีมชาติไทย พบ กัมพูชา (เหย้า) 

ดังนั้น ดูยังไง มองเหลี่ยมไหน ความพร้อมระดับนึงที่เรามี อย่างน้อยๆ เราก็ต้องเข้าไปถึงในรอบชิงชนะเลิศ ...

ส่วนจะไปถึงป้องกันแชมป์ได้หรือไม่ได้นั้นอันนี้รอดูกันเอาเอง และที่สำคัญต้องไปถามพวก เวียดนาม, มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ด้วยเพราะปีนี้ด้วยระบบการแข่งขันแบบนี้ พวกเขาหวังถึงแชมป์แบบ ทีมชาติไทย ได้เหมือนกัน ...

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline