นับถอยหลังเหลืออีกเพียงวันเดียวเท่านั้น ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติ "อาเซีบน คัพ 2022" หรือในชื่อรายการของผู้สนับสนุนใหม่คือ "เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2022" ก็จะเปิดฉากฟาดแข้งอย่างเป็นทางการ
โดยทีมชาติไทย ของเราในฐานะแชมป์เก่า และเป็นแชมป์รายการนี้มากที่สุด 6 สมัย จะลงสนามพบกับบรูไน ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ โดยจะออกไปเล่นเป็นทีมเยือนที่ประเทศมาเลเซีย (ถึงตรงนี้ยังไม่รู้ว่าแฟนบอลไทยจะได้ดูถ่ายทอดสดแบบถูกลิขสิทธิ์ไหม)
แน่นอนว่าในฐานะแชมป์เก่าและเป็นแชมป์รายการนี้มากที่สุด ทีมชาติไทย จึงถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งในรายการนี้ แต่กระนั้นศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนในปีนี้ ต่างออกไปจากปีที่แล้ว ดังนั้นการจะป้องกันแชมป์ให้ได้อีกสมัยของทีมชาติไทยคงไม่ใช่งานง่ายอย่างที่คิด
และต่อไปนี้คือปัจจัยต่างๆ ที่บอกว่าทำไม "มิตซูบิชิ คัพ" ครั้งนี้ถึงไม่ง่ายสำหรับทีมชาติไทย
1.การป้องกันแชมป์อยากเสมอ
วลีหนึ่งที่เรามักจะได้ยินเสมอในการแข่งขันฟุตบอลหรือการแข่งขันกีฬาต่างๆ นั่นก็คือ "การเป็นแชมป์นั้นยาก แต่การป้องกันแชมป์นั้นอยากกว่า" ซึ่งมันจริงเสมอ ต่อให้ทีมแชมปืนั้นจะเก่งกาจขนาดไหน แต่การจะป้องกันแชมป์อีกครั้งนั้นยากเสมอ ทีมชาติไทยของเราก็เช่นกัน เราเคยเป็นแชมป์ 2 สมัยติดมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2000, 2002 และ 2014, 2016 ยุคโค้ชซิโก้ ซึ่งก็ต้องมารอดูกันว่า มาโน่ โพลกิ้ง จะทำได้ไหมกับภารกิจครั้งนี้
2.กลับมาแข่งขันเหย้า-เยือน
อาเซียน คัพ ครั้งนี้ กลับมาเล่นระบบเหย้า-เยือน อีกครั้ง ซึ่งจะต่างจากอาเซียน คัพ เมื่อปีที่แล้ว ที่ไปเตะกันที่สิงคโปร์ประเทศเดียว เนื่องจากสถานการณ์โควิด ซึ่งระยะเวลาการแข่งขันมันจะไม่กินเวลานานเหมือนเล่นแบบเหย้า-เยือน โดยรอบแรกแต่ละทีมจะเล่นในบ้าน 2 เกม และออกไปเยือน 2 เกม ก่อนที่รอบรองและรอบชิงจะเล่นเหย้า-เยือน สองนัด
ซึ่งที่ผ่านมา การออกไปเล่นเป็นทีมเยือนของทีมชาติไทยนั้นไม่ง่ายเลย รอบแรกอาจจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้ารอบรองที่ต้องเจอกับทีมอย่างมาเลเซีย, อินโดฯ ซึ่งครั้งนี้เราไปเยือนอิเหน้าตั้งแต่รอบแรก ไหนจะมีเวียดนาม อีก ซึ่งเกมเหล้านี้ ยิ่งรอบน็อกเอาท์ เป็นงานที่ยากของทีมชาติไทย ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับเกมในบ้านด้วยว่าจะทำได้ดีแค่ไหน
3.ขุมกำลังทีมชาติไทย
ขุมกำลังของทีมชาติไทยชุดนี้อาจจะไม่ดีเท่าปีที่แล้ว ที่มีทั้ง ชนาธิป, สุภโชค, ธนวัฒน์ รวมทั้ง ศุภชัย ใจเด็ด ด้วย แต่ทีมชุดนี้ก็ไม่ถึงกับขี้เหร่ เพราะยังมีตัวเก๋าอย่าง ธีราทร, ธีรศิลป์ และ สารัช อยู่เย็น คอยนำทัพ แถมยังมี กฤษดา กาแมน ที่ถือเป็นหัวใจของทีมด้วยอีกคน ซึ่งชุดหลักคงไม่มีปัญหา อยู่ที่บรรดาตัวสำรองนี่แหละ ว่าจะทดแทนกันได้แค่ไหน
4.ทุกทีมจ้องจะล้มไทย
ฟุตบอลในระดับอาเซียน ไม่ว่าจะอาเซียน คัพ หรือ ซีเกมส์ ทุกทีมที่เจอกับไทยก็ต้องการจะเอาชนะให้ได้ทั้งนั้น เพราะเขารู้ดีว่าถ้าปล่อยให้ทีมชาติไทยเข้ารอบไปนั้นอันตราย ดังนั้นทุกเกมที่ทัพช้างศึกลงสนามจึงเป็นเกมที่ยากทุกนัด ต่อให้เจอทีมที่อ่อนกว่าอย่าง บรูไน หรือ ลาว, กัมพูชา ก็ไม่ใช่งานง่ายสำหรับทีมชาติไทยในชั่วโมงนี้
5.คู่แข่งที่พัฒนาขึ้น
และสุดท้ายบรรดาคู่แข่งของทีมชาติไทยนั้นพัฒนาขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย, อินโดนิเซีย หรือเวียดนาม ที่มาตรฐานสูงอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีทีมอย่าง สิงคโปร์, เมียนมา, ฟิลิปปินส์ และ กัมพูชา ที่เราก็ประมาทไม่ได้ด้วยเช่นกัน
จะอย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นภารกิจที่ยากในการป้องกันแชมป์ครั้งนี้ แต่ในฐานแฟนบอลทีมชาติไทยแบบสุดลิ่มทิ่มถูรู ก็ยังมั่นใจลึกๆ ว่าเราจะป้องกันแชมป์อาเซียน คัพ ครั้งนี้ไว้ได้อีกสมัย
แต่ก่อนอื่นตอนนี้อยากจะฝากไปยังบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ใครก็ได้ช่วยไปซื้อลิขสิทธิ์บอลมิตซูบิชิ คัพ ครั้งนี้มาที ผมอยากดูทีมชาติไทย!!!
