logo-heading

ทีมงานขอบสนามบอลไทย ขอพามาดูหน่อยว่าเห็นอะไรบ้างหลังเกมดราม่าของ ทีมชาติไทย ที่ต้องเล่น 10 คน และตามตีเสมอ ทีมชาติอินโดนีเซีย ได้อย่างหวุดหวิด 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้มและยังทำให้ ช้างศึก ยังครองจ่าฝูงของกลุ่ม เอ ได้ต่อไป 

 

"ธีรศิลป์" โดนตัดออกจากเกมในครึ่งแรกในระบบกองหน้าคนเดียว : แน่นอนว่าข้อนี้ต้องชื่นชมเกมรับของ อินโดนีเซีย ที่เล่นอย่างมีระเบียบและเอาอยู่ในทุกๆ จังหวะการบุกของทีมชาติไทย โดยเฉพาะการตามติดเป็นเงาในทุกการเคลื่อนไหวของ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวอันตรายที่สุดของทีมชาติไทยที่วันนี้มายืนกองหน้าในระบบหัวหอกตัวเดียว ซึ่งแน่นอนว่าพอ "มุ้ย" โดยประกอบจนทำอะไรไม่ได้ ก็เหมือน อินโดฯ ตัดบอลจังหวะสุดท้ายของเราได้หมด แถม เอกนิษฐ์ ที่วันนี้ถูกใส่มาให้เล่นหน้าต่ำ พ่วงด้วย ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ไม่สามารถช่วยเกมรุกได้มากเท่าที่ควร 

 

จุดเปลี่ยนที่ 1 กิตติพงษ์ พลาด แต่ อินโดฯ หมูหกกว่า : นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งแรกของเกมนี้ที่ทำให้ ทีมชาติไทย ยังอยู่ในเกม เพราะจังหวะพลาดช็อตหลุดเดี่ยวแถมโกล์โล่งๆ แบบนี้ใครเห็นก็ว่าเข้า แต่สุดท้ายมันไม่เข้า ซึ่งพอไม่เข้าและจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0 ก็เท่ากับความเสียหายไม่เกิดขึ้นและเราได้ผลประโยชน์แบบเหลือจะเชื่อ 

 

จุดเปลี่ยนที่ 2 จุดโทษ + แฮนด์บอล ของ โก๋อุ้ม : แน่นอนลูกแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะบอลจากการยิงพุ่งตรงมาโดนแขนแบบไม่มีข้อแก้ตัวและเถียงไม่ได้จริงๆ ที่สำคัญมันเกต่อหน้าต่อตาของผู้ตัดสิน ซึ่งการเป่าในนัดนี้ของกรรมการจากซาอุฯ ชัดเจนและเคลียร์คัททุกจังหวะ ก่อนที่จุดเปลี่ยนที่สองตรงนี้จะทำให้เราเสียประตู 1-0 

จุดเปลี่ยนที่ 3 ทีมชาติไทย เสียหายกับใบแดงของ สรรวัชญ์ : ถือเป็นการเปลี่ยนเกมอย่างรวดเร็วของ มาโน่ โพลกิ้ง ที่จริงๆ เรามักไม่ค่อยได้เห็นการเปลี่ยนผู้เล่นในช่วงพักครึ่งของกุนซือรายนี้เท่าไหร่ แต่ด้วยการเล่นของ ชาญณรงค์ ที่ยังไม่ตอบโจทย์ในครึ่งแรกกับบทบาทตัวริมเส้น จึงตัดสินใจถอดและส่ง สรรวัชญ์ เดชมิตร ดาวเตะที่เคยใช้และรู้ฝีไม้ลายมือกันดีอยู่แล้วลงสนาม ซึ่งถ้าดูจากการเปลี่ยนตัวและการจับ แคมป์ ยืนอยู่หลัง ธีรศิลป์ แน่นอนว่าอยากให้เขาปั้นเกมและเป็นตัวพลิกเกมไปในตัวด้วย แต่แผนทุกอย่างใช้ได้แค่ 17 นาที (ของครึ่งหลัง) ก่อนที่ สรรวัชญ์ จะมาโดนไปแดงจากการตัดเกมใส่ผู้เล่น อินโดนีเซีย ซึ่งเท่ากับ ช้างศึก เสียหาย 2 ต่อทันที ทั้งเหลือผู้เล่นน้อยกว่าเกือบ 30 นาที และยังตามหลังอยู่ 1 ประตูเหมือนเดิม 

 

จุดเปลี่ยนสุดท้ายการเปลี่ยนตัว AK9 นำไปสู่ประตูของ สารัช : ต้อมยอมรับว่า ช้างศึก เล่นเสี่ยงไม่น้อยหลังเห็น มาโน่ โพลกิ้ง เลือกเปลี่ยน ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าเบอร์ 1 ของเราออกไป แล้วส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงมาเล่นแทน ถึงแม้ว่าภาพรวมของ มุ้ย จะหายไปตลอดทั้งเกม แต่เขาก็ยังคงอันตรายเมื่อเทียบกับ AK9 แต่ใครจะไปเชื่อว่าการ "เปลี่ยนตัว" ครั้งนี้ จะเป็น "จุดเปลี่ยน" สำคัญและส่งท้ายนัดนี้ไปเลย เพราะการลงมาของ อดิศักดิ์ ในนาทีที่ 73 เขาวิ่งสู้ฟัดทุกลูก และลูกตีเสมอก็มาจากความขยันของเขาที่ไปแย่งบอลมาได้ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ บดินทร์ ส่งต่อให้ สารัช ยิงไกลเข้าไปในนาทีที่ 79 เท่ากับว่าเขาเปลี่ยนเวลา 6 นาทีในสนามให้เป็น 1 ประตู เซฟ 1 แต้มสำคัญแต้มนี้ให้กับ ทีมชาติไทย ได้อย่างยอดเยี่ยม นับเป็นจุดเปลี่ยนจุดสุดท้ายที่ทำให้ ช้างศึก 10 คนไม่แพ้ในรัง อินโดนีเซีย ในนัดนี้ 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline