ความจริงอีกมุม!! ดราม่า "ผู้ช่วยโค้ช" ช้างศึกในห้องแถลง

หลังจากมีรายงานว่า เวียดนาม ได้ส่งเรื่องความวุ่นวายหลังเกม อาเซียน คัพ รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ที่ ทีมชาติไทย บุกไปเสมอ ทีมชาติเวียดนาม 2-2 ที่เกิดในช่วงของการแถลงข่าวหลังเกม

โดยเป็นเหตุการณ์ของ วสพล แก้วผลึก ผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไทยที่ได้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในห้องแถลงข่าว ที่ มีดินห์ สเตเดี้ยม ให้กับ AFF ก่อนมีจดหมายเตือนมาถึงทีมชาติไทย และว่าจะมีแม้สื่อเจ้าถิ่นที่ทั้ง ถ่ายรูปและวีดีโอให้กับ ตัวแทนของ เอเอฟเอฟ แต่ทั้งนี้ทีมงานขอบสนามที่ไปเกาะติดทีมชาติไทยและได้เห็นการณ์หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นได้เรียบมาให้รับทราบดังต่อไปนี้ ...

เริ่มที่ ทีมชาติไทย ได้เข้าห้องแถลงล่าช้า แต่มันมีเหตุผลเพราะทางเราไม่ได้รับการแจ้งทีมว่าใครคือ MOM ซึ่งปกติจะมาแจ้งทันทีเมื่อจบการแข่งขัน และเมื่อไม่ได้รับแจ้ง ก็คิดได้ว่า MOM คงเป็นนักเตะเจ้าบ้าน นักบอลทุกคนจึงไปขอบคุณแฟนๆ และกลับเข้าห้องอาบน้ำปกติ

แต่หลังจากนั้น จนท.ของฝ่ายจัดการแข่งขันได้มาแจ้งที่ห้องแต่งตัวให้โค้ชและนักเตะ MOM ของเรา (สารัช อยู่เย็น) ให้เข้าแถลงข่าวหลังทันที แถมแสดงท่าทีไม่พอใจและมาสั่งให้นักเตะหยุดอาบน้ำและแถลงไปแถลงข่าว แต่ด้วยความไม่พร้อมของทีมไทยที่นักกีฬายังต้องใช้เวลาอีกสักพักจึงมีการต่อว่ากันไป ทำให้สุดท้ายแล้วทางนั้นจึงได้ให้ฝั่งเจ้าบ้านมาแถลงก่อนแทน (ขอบคุณข้อมูลจากพี่ฮีโร จนท.ประสานงานของทีมชาติไทย)

เรื่องมันควรจะจบแค่นี้ แต่มันไม่จบเพราะ ???

ทีมชาติเวียดนาม ของ โค้ชปาร์ค ฮัง ซอ ใช้เวลาแถลงข่าวหลังเกมที่เสมอกับ ไทย ในวันนั้น ย้ำกว่าหลังเกมมากกว่า 45 นาที !!!

ทำไมถึงรู้ว่ามากกว่า 45 นาที ???

เพราะทีมงานสื่อของไทยได้เข้าไปรอก่อนหน้านั้นสักพัก แม้ว่าจะไม่ได้เข้าไปตั้งแต่แรก (เพราะสื่อไทยติดสัมภาษณ์ที่ Mix Zone) แต่ด้วยรู้สึกที่มันนานกว่าปกติ จึงเข้าไปดูหลังกล้องของสื่อเวียดนามที่อัดอยู่จึงรู้ว่าถูกเรคคอร์ทมาแล้วมากกว่า 40 นาที ...

ในระหว่างนั้น โค้ชมาโน่, โค้ชเอ็กซ์ (วสพล) และ สารัช ก็ได้ออกจากห้องแต่งตัวมายืนรออยู่ด้านนอกห้องแถลงข่าว และด้วยความที่รอมานานและนานมาก จึงพยายามมองเข้ามาด้านใน (ผ่านช่องประตูตามที่สื่อเวียดนามเขียนถึง) ว่าทำไมถึงยังแถลงไม่แล้วเสร็จสักที แม้จะมีการวนเวียนเดินผ่านหน้าประตูแต่ก็ไม่มีการเตะประตูหรือแสดงความไม่พอใจออกมาแต่อย่างใด 

 

จนเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทย (พี่ฮีโร) ได้ตัดสินเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของเวียดนาม โดยไถ่ถามว่าทำไมถึงปล่อยให้มีการแถลงข่าวหลังเกมนานขนาดนี้ เพราะทีมชาติไทยรออยู่ด้านนอกมากกว่า 40 นาทีแล้ว ซึ่งหลังจากการทวงถามแล้ว ควรจะจบการแถลงข่าวทันที โดยให้คำถามที่ถูกตอบอยู่เป็นถามคำถามสุดท้าย เนื่องจากมันสมควรแก่เวลามากๆ แล้ว 

แต่มันยังไม่จบ !!! เพราะสื่อเวียดนามยังคงยกมือถามต่อไป และเจ้าหน้าที่บนสแตน (Media officer ผู้หญิงทั้ง 2 คน) ก็ให้แถลงถามตอบกันต่ออีก 2-3 คำถาม ...

และไม่เท่านั้นยังไม่จบพิธีรีตรอง ทีมงานขอบสนามขอยืนยันด้วยภาพเลยล่ะกัน (ภาพด้านล่าง) ว่ามันยังไม่จบ !!!

เพราะ สื่อเวียดนาม และ โค้ชปาร์ค ยังได้ขอถ่ายรูปร่ำลากันอีกสักพัก ซึ่งก่อนจะถ่ายรูปได้มีการเดินจับมือจับไม้กันทั้งห้องอีกยกนึงก่อนถ่ายภาพตามด้านบนที่เห็น

หลังจากนั้น โค้ชปาร์ค และทีมงานจึงเดินออกไปอีกทางนึง เบ็ดเสร็จคาดว่าการแถลงข่าวหลังเกมของ ทีมชาติเวียดนาม ในวันนั้นน่าจะกินเวลาไปร่วมๆ หรือมากกว่า 1 ชม. ด้วยซ้ำ !!!

ทำให้พอ ทีมชาติไทย เข้ามาในห้องแถลงข่าว ภาพของ โค้ชเอ็กซ์ ยืนประจันหน้ากับสื่อตามที่เห็นจึงปรากฎขึ้น แม้จะมีบ่นบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับใช้คำสบถหรือคำเสียหายอะไรที่แสดงออกมา แม้มันเป็นการแสดงออกที่อาจจะดูดึงดันพอสมควร แต่มาจากความไม่พอใจที่ให้ ทีมชาติไทย ต้องรอร่วมๆ 1 ชม. กับแค่การแถลงข่าวหลังเกม

แน่นอนในฐานะคนรอแล้วรออีกด้วยกันจึงเข้าใจสถานการณ์นี้มากๆ เพราะมันไม่ใช่แค่ 3-4 คนที่รอ แต่เป็นการรอทั้งทีมชาติไทยเพราะนักเตะ, สต๊าฟฟ์ และ ทีมงาน ทีมชาติมารถบัสคันเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องกลับพร้อมกัน

ซึ่งเอาตรงๆ เราควรได้พักตั้งนานแล้ว แต่ทั้งทีมต้องมาเสียเวลารอ 1 ชม. กับการกระทำที่ไม่มีมารยาทของทีมชาติเวียดนาม

แม้จะเข้าใจว่าอยากร่ำลา โค้ชปาร์ค ในฐานะการคุมทีมเกมในบ้านนัดสุดท้าย มีวิธีลงสวยๆ ทั้งไปอำลากันเท่ๆ ที่สนาม หรือเชิญมาต่อที่ Mix Zone ก็ได้ ...

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพแบบชัดๆ ผู้จัดการทีมชาติไทย รีบบึ่งมา Mix Zone ก่อนเลยเพราะไม่อยากรบกวนเวลาทีมชาติที่ต้องแถลงข่าวหลังเกมต่อจาก ทีมชาติเวียดนาม โดย "มาดามแป้ง" พูดๆๆๆ ที่ Mix Zone จบแยกย้าย 

ที่ผม (บอล ขอบสนาม) โพสต์ทั้งหมดเพราะอยากให้เห็นอีกมุมนึง เนื่องจากเท่าที่อ่านการสื่อสารของเวียดนามมันไม่ครบจริงๆ เขียนแต่ฝั่งตัวเอง ซึ่งนี่คือข้อมูลทั้งหมดที่ผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และผมคือนึงในคนที่ไปยืนกดดันหัวโด่ๆ ในห้องแถลงข่าวให้โค้ชปาร์คหยุดตอบคำถามได้แล้วเพราะเวลาของพวกคุณมันเกินไปมากๆ แล้ว

เดี๋ยวจากนี้ถ้าผมขอคลิปจากพี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชนคนอื่นๆ มาได้จะเอาตอนที่ โค้ชปาร์ค ไล่จับมือและถ่ายรูปรวมให้ดูกันอีกทีนะครับ อยากให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องจริงที่ เวียดนาม เล่นแง่กับเราในวันั้น ...

โค้ชปาร์ค และ สื่อเวียดนาม ลองนั่งรอดูนะครับ แล้วพวกคุณจะรู้ว่าแมร่งโคตรน่ารำคาญเลย !!!!