ปิดฉากได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับ "ทีมชาติไทย" ที่สามารถป้องกันแชมป์ฟุตบอลอาเซียน คัพ ไว้ได้อีกสมัย ด้วยการปราบคู่อริเบอร์หนึ่งอย่างเวียดนามลงได้ในนัดชิงชนะเลิศ รวมผลสองนัดเราเอาชนะไปได้ 3-2 นี่คือแชมป์อาเซียน คัพ สมัยที่ 7 ของทีมชาติไทย และต่อไปนี้คือบทสรุปทั้งหมดของทัพช้างศึก ในทัวร์นาเม้นท์นี้
ผลงานทีมชาติไทย
เริ่มกันที่ภาพรวมผลงานของทีมชาติไทยในรายการนี้ ลงเล่นไปทั้งหมด 8 นัด รอบแรก 4 นัด รอบรอง 2 นัด และรอบชิง 2 นัด โดยชนะได้ 5 เกม เสมอ 2 เกม และแพ้ไป 1 เกม โดยเกมที่แพ้คือรอบรองนัดแรกที่บุกไปพ่ายมาเลเซีย 1-0 โดยไทย ยิงประตูไปได้ทั้งหมด 19 ประตู เสียไป 5 ประตู
แชมป์ 7 สมัย
แชมป์อาเซียน คัพ ครั้งนี้เป็นสมัยที่ 7 ของทีมชาติไทย ต่อจากปี 1996, 2000, 2002, 2014, 2016, 2020 และ 2022 ล่าสุด จาก 4 โค้ช คือ ธวัชชัย สัจจกุล, ปีเตอร์ วิธ, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และ มาโน่ โพลกิ้ง
ธีรศิลป์ ดาวซัลโว
ธีรศิลป์ แดงดา คือนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดของทีมชาติไทยในครั้งนี้ 6 ประตูด้วยกัน รองลงมามี อดิศักดิ์ ไกรษร, บดินทร์ ผาผลา, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, สารัช อยู่เย็น ที่ยิงไปคนละ 2 ประตู ที่เหลือยิงได้ 1 ประตู มี ธีราทร บุญมาทัน, สุมัญญา ปุริสาย, ศุภนันท์ บุรีรัตน์ และ ปรเมศย์ อาจวิไล
นอกจากนี้ ธีรศิลป์ ยังคว้าดาวซัลโวของการแข่งขัน ร่วมกัน เหงียน เทียน ลินห์ กองหน้าตัวเก่งของเวียดนาม ที่ยิงได้ 6 ประตูเท่ากัน และยิ่งไปกว่านั้นคือ ธีรศิลป์ ครองตำแหน่งดาวซัลโวอาเซียน คัพ ตลอดกาลในเวลานี้ โดยยิงรวมไปแล้วถึง 25 ประตู
ธีราทร คว้า MVP
ขณะที่ในรายของ ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมของเรา ถือเป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดของทีมชาติไทย สามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์ หรือ (MVP) ไปครอง ด้วยผลงาน 1 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์
ไม่ได้ลงสนาม 2 คน
ในอาเซียน คัพ ครั้งนี้ มีนักเตะสองคนของไทยที่ไม่ได้ลงสนาม นั่นคือ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ แบ็กซ้ายวัย 20 ปีจากชลบุรี และ สรานนท์ อนุอินทร์ นายทวารมือ 3 จากเชียงราย ยูไนเต็ด
โดนใบแดง 2 ใบ
ทีมชาติไทยโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป 2 คน คนแรกคือ สรรวัชญ์ เดชมิตร ที่โดนไล่ออกในเกมบุกไปเสมออินโดนิเซีย 1-1 และอีกคนคือ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่โดน 2 เหลืองในนัดชิงชนะเลิศเกมที่สองกับเวียดนาม
มาโน่ สร้างประวัติศาสตร์
มาโน่ โพลกิ้ง เป็นกุนซือทีมชาติไทยคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่พาทีมป้องกันแชมป์อาเซียนคัพได้สำเร็จ ต่อจาก ปีเตอร์ วิธ 2000, 2002 และ "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง 2014, 2016
อัดฉีด 35 ล้าน
หลังจากป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ทีมชาติไทยได้เงินรางวัลบวกอัดฉีดไปทั้งหมด 35 ล้าน ณ เวลานี้ จากเงินรางวัลแชมป์ 10 ล้านบาท, เงินอัดฉีดจากมาดามแป้ง ผู้จัดการทีม 20 ล้านบาท และเงินอัดฉีดจากนายกสมาคมฯ 5 ล้านบาท
