หลังจากที่แฟนบอลไทยได้ชื่นมื่นกับความสำเร็จของทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยที่ผงาดคว้าแชมป์ อาเซียน คัพ 2022 กันไปแล้ว มาถึงคราวที่ต้องกลับมาสู่โหมดสโมสรกันอีกครั้ง กับ ศึก รีโว่ ไทยลีก 2022/23 เลกที่สอง ที่จะลงเตะกันในสุดสัปดาห์นี้
การกลับมาของเวทีที่เปี่ยมไปด้วยสีสัน การแข่งขันที่ดุเดือดเร้าใจ ดังนั้นทีมงานขอบสนามบอลไทย ได้จัดการคัดมา 5 ข้อเน้น ๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสก่อนการรับชมตลอดเลกสองที่เหลือให้สนุกยิ่งขึ้น มีอะไรน่าสนใจบ้างมาดูกัน
จับตาสถานการณ์ทีมหัวตาราง-ท้ายตาราง
สถานการณ์กลุ่มทีมหัวตารางที่ยังขับเคี่ยวกันได้สนุก ขณะนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือทีมเดียวที่ผลงานยอดเยี่ยมมากที่สุด ครองตำแหน่งจ่าฝูง มี 39 คะแนน ยังไม่แพ้ใคร ส่วนสองทีมที่ทำผลงานออกมาได้เซอร์ไพรส์อย่าง ชลบุรี เอฟซี รองจ่าฝูง มี 30 คะแนน, ราชบุรี เอฟซี อันดับ 3 มี 29 เช่นเดียวกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อันดับ 4 มี 28 คะแนน ซึ่งถือเป็นอีกทีมที่ประมาทไม่ได้
พวกเขาจะยังคงรักษามาตรฐานความคงเส้นคงวาต่อไปได้มากน้อยแค่ไหน หรือจะมีทีมใดพลิกสถานการณ์แย่งอันดับได้ ยังต้องลุ้นกันยาว ๆ
ส่วนโซนท้ายตารางก็เช่นกันแต้มสูสียังไม่ห่างกันมากตั้งแต่อันดับที่ 12 ถึง 16 ไล่ตั้งแต่ ลำพูน วอริเออร์ (13 คะแนน), พีที ประจวบ (13 คะแนน), ขอนแก่น ยูไนเต็ด (11 คะแนน), หนองบัว พิชญ (10 คะแนน) และลำปางเอฟซี (9 คะแนน) โดยรวมมองว่าโอกาสยังเปิดกว้างสำหรับหลาย ๆ ทีมให้ได้ลุ้นทำแต้มหนีเอาตัวรอดออกจากโซนแดง
เปิดหัวด้วยศึกบิ๊กแมตช์
เลกที่สองเปิดฉากด้วยศึกบิ๊กแมตช์ ระหว่าง การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 7 มีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อันดับ 5 วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม เวลา 17.30 น. ซึ่งแมตช์นี้สำคัญต่อทั้งสองทีม ในการไต่อันดับลดช่องว่างในตำแหน่งท็อปโฟร์
ด้วยแนวทางการทำทีม-การเสริมทัพในเลกที่สอง และทั้งสองทีมเป็นเจ้าบุญทุ่มทีมใหญ่มาดวลกัน จึงเป็นคู่หลักในการที่จะดึงดูดความน่าสนใจต่อแฟนบอลชาวไทยประจำสัปดาห์นี้
ตำแหน่งดาวซัลโว ยังคั่วกันได้ดุเดือด
ปัจจุบัน ศุภชัย ใจเด็ด คือแข้งไทยหนึ่งเดียวที่นำดาวซัลโวเดี่ยว ด้วยจำนวน 10 ประตู ตามมาด้วย แฮมิลตัน ซัวเรซ กับ โกรัน เคาซิซ เป็นรองดาวซัลโวยิงเท่ากันที่ 9 ประตู และมี วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ ยิงไป 7 ประตู
เรียกว่าเป็นฤดูกาลที่โอกาสใกล้เคียงที่สุดให้แข้งไทยได้ลุ้นยาว ๆ อีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปหลายฤดูกาล และส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะต่างชาติที่แทบผูกขาดการลุ้นตำแหน่งนี้มากกว่า
ประเดิมโค้ชใหม่
นัดแรกในเลกสอง มีหลายทีมที่เปลี่ยนแปลงในตำแหน่งกุนซือใหญ่ ได้โอกาสประเดิมแกะกล่องใช้ครั้งแรก ทั้ง "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน (โค้ชขัดตาทัพ ทรู แบงค็อก), กาเบรียล มากัลเญส (ลีโอ เชียงราย), อเล็กซานเดร กาม่า (ลำพูน วอริเออร์), ปฏิพัทธ์ รอบรู้ (ขอนแก่น ยูไนเต็ด) และ เอเมอร์สัน เปไรร่า (หนองบัว พิชญ)
มาลุ้นกันว่าใครประเดิมเก็บชัยได้ก่อนในเกมแรก และใครที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทีมได้
นักเตะใหม่น่าจับตามอง
มีดีลที่น่าสนใจและน่าจับตามองหลายคน ซึ่งเราขอเริ่มจาก ฮาริส วุซคิช แข้งใหม่จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ทำผลงานโดดเด่นในเกมอุ่นเครื่องกับ กลันตัน เอฟซี
ส่วนในรายอื่น ๆ ที่ยกให้น่าจับตามอง ไล่ตั้งแต่ โก ซุล กิ ที่ย้ายมาร่วมทัพ ชลบุรี เอฟซี, ยูสึเกะ มารุฮาชิ แบ็คซ้ายจอมเก๋าชาวญี่ปุ่นของ บีจี ปทุมฯ, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ของการท่าเรือ เอฟซี, วิลเลี่ยน พ็อพพ์ ของเมืองทอง ยูไนเต็ด, เนลสัน โบนีญ่า ของลีโอ เชียงราย, ลุคก้า แข้งอิมพอร์ตจากบราซิลของลำพูน วอริเออร์ และปิดท้ายด้วยการคัมแบ็คสู่ สุโขทัย เอฟซี อีกครั้ง ของ จอห์น บาจโจ้
ด้วยการลงทุนที่มากขึ้นของแต่ละทีม ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าผลลัพธ์จะออกมาได้ดีตามที่ตั้งเป้าเอาไว้หรือไม่ และคุ้มค่าแค่ไหน