“เชียงใหม่ เอฟซี กี่เดือนกี่ปี เอฟซี เชียงใหม่ เราจะยังรวมใจ เชียงใหม่ เอฟซี เราจะอยู่ตรงนี้ เอฟซี เชียงใหม่ เราจะก้าวต่อไป โฮ่ โฮ โฮ มาจากล้านนา … โฮ่ โฮ โฮ มาจากล้านนา …”
เราขอหยิบยกบทเพลงของสโมสรอันเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดเชียงใหม่อย่าง เชียงใหม่ เอฟซี ที่ชั่วโมงนี้แฟนคลับ “พยัคฆ์ล้านนา” ได้เปล่งเสียงร้องเพลงนี้ด้วยความภาคภูมิใจ หลังได้รับข่าวดีล่าสุดเปิดตัวทีมผู้บริหารชุดใหม่ที่จะเข้ามาให้การสนับสนุนเพื่อให้ทีมได้ไปต่อในฤดูกาลหน้า หลังจากที่กลุ่มทุน บีจี ได้ยุติการสนับสนุนหลังจบฤดูกาล
ทีมงานขอบสนามบอลไทย พามาเจาะเรื่องราว 3 ข้อใหญ่ๆ ของ เชียงใหม่ เอฟซี ในวันที่เปลี่ยนมือจากบอร์ดชุดเดิม เข้าสู่ยุคใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร ไม่รอช้ามาติดตามกันครับ
จากวันที่อุปสรรคถาโถม … สู่วันที่ต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเอง
ย้อนไปหลังจบฤดูกาล 2015 เชียงใหม่ เอฟซี ประสบปัญหาเรื่องเงินทุนในการบริหารทีมต่อในฤดูกาลถัดไป อาจถึงขั้นต้องยุบทีม แล้วก็ได้กลุ่มทุน บีจี ได้เข้ามาซัพพอร์ตทีมตั้งแต่ฤดูกาล 2016 ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งเคยพาทีมโลดแล่นบนลีกสูงสุดมาแล้ว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา “พยัคฆ์ล้านนา” ถูกมองเป็นทีมสาขาสอง ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เสมอ เรามักเห็นการย้ายเข้าออกของนักเตะและทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ซึ่งต้องขึ้นตรงกับ “เดอะแรบบิท” มาตลอดเรื่อย ๆ จนถึงฤดูกาล 2022/23 คุณ ปวิณ ภิรมย์ภักดี ปธ.สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยืนยันว่าจะยุติการสนับสนุน เชียงใหม่ เอฟซี ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป แล้วหันไปทำทีมใหญ่อย่างเต็มตัว
จากที่ผ่านมาเปรียบเสมือนยืมมือให้คนช่วยมาตลอด จึงถึงเวลาแล้วที่สโมสรต้องเชิดหน้าสู้และยืนด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้
“บิ๊กแซน” คนรุ่นใหม่ “ทายาทพ่อเลี้ยงอี๊ด” อาสาขี่ม้าขาวอุ้มทีมต่อ
เกิดคำถามจากแฟนบอลมากมายว่าอนาคตของสโมสรจะเป็นอย่างไรต่อไป หลังจากที่ “บอสปวิณ” ประกาศหาผู้ที่สนใจทำทีมต่อ ทำให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ ภายในจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการระดมทุนเพื่อนำทีมกลับคืนมาเป็นของชาวจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง ในท้ายที่สุดเป็นทาง “บิ๊กแซน” คุณยศเมธา จันทรวิโรจน์ ซึ่งเปรียบเสมือน อัศวินขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยให้ “พยัคฆ์ล้านนา” ได้ไปต่อ
สำหรับ "บิ๊กแซน" คุณยศเมธา จันทรวิโรจน์ ถือเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ และมีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ๆ ของ "พ่อเลี้ยงอี๊ด" ดร.อุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์ อดีตประธานสโมสร เชียงใหม่ เอฟซี ผู้ล่วงลับ นับเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ก้าวเข้ามาเป็นทีมบริหารสโมสรบ้านเกิดที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักและความผูกพันกับสโมสรมาอย่างยาวนาน
การเข้ามาของ “บิ๊กแซน” ครั้งแรก เรียกว่าได้ใจคนเชียงใหม่ไปเต็มๆ กับประโยคที่ว่า "ผมอยากขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่น้องแฟนฟุตบอลชาวเชียงใหม่เลือดสีน้ำเงินทุกท่าน เรามาจับมือกันเพื่อต่อยอดพัฒนาสโมสรท้องถิ่นบ้านเกิดอันเป็นที่รักของเราให้ก้าวหน้าและประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคตด้วยกันครับ"
วิสัยทัศน์มองการณ์ไกล ควบคู่พัฒนาอย่างยั่งยืน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟุตบอลไทยสมัยนี้เต็มไปด้วยเหล่าผู้บริหารที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น อย่างที่เรามักจะคุ้นกันคือ “เสี่ยฟลุ๊ค” ธนวัชร นิติกาญจนา ของ ราชบุรี เอฟซี หรือ “เสี่ยเขต” เขตพงศ์ กุลนาถสิริ ของ สุโขทัย เอฟซี และ “บิ๊กแซน” ก็คือหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่มีความผูกพันกับสโมสรแห่งนี้ เนื่องจากเขาคือแฟนบอลตัวยงของ “พยัคฆ์ล้านนา” ที่เคยเข้ามาชมเกมในสนาม และอยากเป็นส่วนหนึ่งร่วมพัฒนาวงการฟุตบอลไทยเช่นเดียวกัน
ปัจจุบัน เชียงใหม่ เอฟซี อยู่อันดับ 11 ของตารางคะแนน ไทยลีก 2 มีคะแนน 34 คะแนน โดยห่างจากพื้นที่เพลย์ออฟเพียง 4 คะแนนเท่านั้น หากมองสถานการณ์ขณะนี้ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุด ซึ่งเป็นเป้าหมายเบอร์หนึ่งที่ต้องทำให้ได้
การเข้ามาของ “บิ๊กแซน” คือการนำพาสโมสร เชียงใหม่ เอฟซี ให้กลับมาเป็นความภาคภูมิใจของคนเชียงใหม่อีกครั้ง ค่อยๆ ก้าวไปทีละสเต็ป ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างสโมสรให้ยั่งยืน และส่งเสริมนักเตะเลือดล้านนา ในขณะที่ปัจจุบันมีทีมร่วมเมืองอย่าง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ขึ้นมาแย่งชิงความเป็นหนึ่งในจังหวัด จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้บริหารหนุ่มอยากจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาให้กลับมายิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้ง
สุดท้ายการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ จึงเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจ เป็นขวัญกำลังใจที่ดีกับการเริ่มต้นความท้าทายใหม่ของ เชียงใหม่ เอฟซี ยุคผู้บริหารกลุ่มใหม่ เชื่อว่าหลายคนที่ติดตามฟุตบอลไทย รวมถึงแฟนคลับของทีมนั้นก็อยากเห็นพยัคฆ์แห่งถิ่นล้านนาตัวนี้กลับมาอาละวาด มีความน่าเกรงขามอีกครั้ง ในการเดินหน้าสร้างตำนานบทใหม่ให้กับทีม
มาร่วมติดตามไปพร้อมกันกับสโมสร “เชียงใหม่ เอฟซี” กันครับ