"โค้ชกล่ำ" จากเบื้องหลัง สู่กุนซือขัดตาทัพ จุดความหวังอยู่รอด “พญาไก่ชน”

หากเอ่ยถึงหนึ่งในทีมที่กำลังดิ้นรนหนีตกชั้นและกำลังโชว์ฟอร์มได้เซอร์ไพรส์ในขณะนี้ หนีไม่พ้นชื่อของ หนองบัว พิชญ เอฟซี อย่างแน่นอน

"พญาไก่ชน" ภายใต้การคุมทัพของ ธีระเวคิน สีหะวงศ์ ปัจจุบันกำลังทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ "โค้ชกล่ำ" เข้ามารับเผือกร้อนกับตำแหน่งกุนซือขัดตาทัพ

จากที่ก่อนหน้านี้ในช่วงเลกแรกและต้นเลกที่ 2 หนองบัว พิชญ เรียกว่าคือทีมที่เก็บคะแนนแต่ละเกมได้ค่อนข้างน้อยมาก โดยหนักไปที่ผลแพ้ซะมากกว่า มีการเปลี่ยนแปลงโค้ชไปแล้ว 2 รายหลังทำผลงานไม่เป็นไปตามเป้า และสถานการณ์ของทีมสุ่มเสี่ยงจะต้องตกชั้นกลับไปเล่นลีกรอง

ตลอดที่ผ่านมา ธีระเวคิน สีหะวงศ์ คือผู้อยู่เบื้องหลังการวางระบบต่างๆ ของสโมสรตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงทีมชุดใหญ่ ให้มีความเป็นมืออาชีพและยั่งยืน กระทั่งได้รับความไว้วางใจจาก สุเทพ ภู่มงคลสุริยา ประธานสโมสร และ "มาดามจอย" กฤษยา ภู่มงคลสุริยา รองประธานสโมสร ที่เล็งเห็นถึงความทุ่มเทและมุ่งมั่นการทำงานของเขา จึงเปิดโอกาสให้เข้ามาคุมทัพจนจบฤดูกาล เพราะเชื่อมั่นว่าเขาคึอคนที่ใช่ที่จะเข้ามากอบกู้วิกฤตของทีมได้

ภารกิจอยู่รอดบนลีกสูงสุด จึงถือเป็นงานที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของ "โค้ชกล่ำ" เชื่อว่าตัวเขาเองยังมีไฟกับงานนี้ ต้องการอยากพิสูจน์ฝีมือการคุมอีกสักครั้งเช่นกัน หลังจากห่างหายการคุมทัพหลายปี

การหวนกลับมาครั้งที่ 2 ของเขา สร้างความแตกต่างให้กับทีมอย่างเห็นได้ชัด ผลงาน 2 เกมหลังสุด สามารถเก็บได้ 6 คะแนนเต็ม โดยเกมล่าสุดเพิ่งบุกไปยัดเยียดความปราชัย "เดอะแรบบิท" บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่น 3-1 นั่นคือผลงานที่ดีที่สุดของทีมในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้

หากมองถึงจำนวนคะแนนทั้งหมดที่เก็บได้ตั้งแต่ยุค "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กับ เอเมอร์สัน เปไรร่า คุมทีมอยู่ แล้วนำมารวมกันนั้น เก็บได้เพียง 5 คะแนนเท่านั้น แต่ถ้านำมาเปรียบเทียบช่วงที่ "โค้ชกล่ำ" เข้ามาขัดตาทัพครั้งแรกและครั้งที่ 2 รวมกันเก็บได้ถึง 12 คะแนน

ปัจจุบัน หนองบัว พิชญ อยู่อันดับที่ 15 ของตาราง มี 17 คะแนน ปฏิเสธไม่ได้ว่าคะแนนที่สามารถเก็บได้ส่วนมาก ล้วนมาจากผลงานของ "โค้ชกล่ำ" ทั้งสิ้น

สำหรับผลงานของ "โค้ชกล่ำ" ธีระเวคิน สีหะวงศ์ ยังคงยึดสถิติคุมทัพ หนองบัว พิชญ ไม่เคยแพ้ใครในไทยลีกฤดูกาลนี้ แบ่งเป็น

- เปิดบ้านเอาชนะ พีที ประจวบ 2-1

- เปิดบ้านเสมอ เมืองทอง 2-2

- บุกไปเสมอ สุโขทัย 0-0

- เปิดบ้านเสมอ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 1-1

- เปิดบ้านเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี 2-1

- บุกไปเอาชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 3-1

แน่นอนว่าเขาคืออีกหนึ่งคนที่รักสโมสรแห่งนี้ที่สุด และเป็นสโมสรที่สร้างมากับมือ และไม่อยากเห็นทีมมีอันต้องตกชั้นไป การเข้ามาของเขาช่วยปลุกเร้าทีมให้กลับมามั่นใจ ทุกคนพร้อมที่จะสู้แบบถวายหัว ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน และมีความเชื่อมันกับสิ่งที่ต้องทำให้ได้

ท้ายที่สุดนี้ ธีระเวคิน สีหะวงศ์ กับภารกิจนำพา หนองบัว พิชญ เอฟซี อยู่รอดบนเวทีไทยลีก และกลับมาเป็น "พญาไก่ชน" น่าเกรงขามอีกครั้งตลอดช่วงที่เหลือในเลกที่สองนี้ได้หรือไม่ มาร่วมติดตามไปพร้อมกันครับ