ทีมชาติไทย จบภารกิจลงอุ่นเครื่องช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนมีนาคมไปเรียบร้อยทั้งสองนัด ที่ประเทศยูเออี ซึ่งก็พบกับความปราชัยทั้งสองเกม ต่อซีเรีย 1-3 และนัดล่าสุดพ่ายเจ้าภาพยูเออี 0-2
ซึ่งถ้าดูจากผลจากการแข่งขันหรือดูสกอร์เพียงอย่างเดียวอาจจะคิดว่าไทยเราสู้ไม่ได้หรือเล่นไม่ดี แต่ถ้าใครได้ดูเกมเต็มๆ ทั้งสองนัด ต้องบอกว่าเราเล่นได้ดีเกินคาด สู้ได้สูสี แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรายังมีข้อผิดพลาดในเรื่องของการจบสกอร์ที่ใช้โอกาสเปลือง รวมทั้งเกมรับที่ยังมีจุดอ่อนให้เห็นในเกมระดับนี้
เกมแรกกับซีเรีย เราแทบจะครองเกมได้หมด แต่จากข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งความผิดพลาดส่วนบุคคล ที่ซีเรีย เขาใช้โอกาสไม่เปลืองก็สามารถลงโทษเราได้ทันที
ขณะที่เกมกับยูเออี ครึ่งแรกเราบุกทั้งเกมแต่ยิงไม่ได้ ครึ่งหลังมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น และมาเจอทีเด็ดจากลูกเปิดจากด้านข้างเข้าไป ก็ถึงกับหงายเงิบ แต่หลังจากนั้นเราก็ยังครองบอลบุกได้ดีกว่า เพียงแต่จบไม่คมเท่านั้น
อย่างไรก็ดีแม้ผลงานจะไม่โสภาสถาพร แต่เราก็ยังได้เห็นนักเตะหลายๆ คนที่ทำผลงานได้โดดเด่นมากๆ ในเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดที่ผ่านมา
มีนักเตะอยู่ 2 คนที่ถือว่าเด่นมากๆ และได้รับคำชื่นชมจากแฟนบอลเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ นิโคลัส มิคเคลสัน แบ็กขวาลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ที่เล่นได้ดีมากๆ ทั้ง 2 เกมที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริง เด่นทั้งเกมรุกและเกมรับ มีจังหวะประสานงานกับรุ่นพี่ได้ดี และมีความหวือหวาปราดเปรียว นี่น่าจะเป็นแบ็กขวาที่ทีมช้างศึกกำลังตามหาอยู่ก็เป็นได้
คนต่อมาก็คือ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ที่ถือเป็นพระเอกของทีมชาติไทยครั้งนี้ โดยกองกลางจากเมืองทอง ลงเล่นเป็นกองกลางตัวห้องเครื่องทั้งสองนัด เกมแรกเล่นร่วมกับ พีรดนย์ เกมที่สองเล่นกับ ฐิติพันธ์ ซึ่ง วีระเทพ โดดเด่นมากๆ ในแดนกลาง เก็บบอลครองบอลดี จ่ายบอลทะลุทะลวงแม่นยำ แถมแย่งบอลก้เก่ง ตัดบอลตรงกลางก็เยี่ยม บางทีนี่อาจจะทำให้ วีระเทพ จะขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์ตัวเลือกแรกของ มาโน่ หลังจากนี้ เพราะดีจริงๆ
กองกลางอีกคนที่ทำได้ดีในเกมแรกคือ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่ได้ลงตัวจริงในเกมแรก เล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเองต่อเนื่องมาตั้งแต่อาเซียนคัพ รวมทั้งฟอร์มกับบุรีรัมย์ในซีซั่นนี้ก็ดีสุดๆ เกมกับซีเรีย พีรดนย์ ถือว่าทำได้ดีไม่แพ้ วีระเทพ ช่วยไล่บอลตรงกลาง แถมจ่ายบอลดี ช่วยให้เพื่อนๆ เล่นบอลง่าย
อีกคนที่ก็ต้องชื่นชมนั่นคือ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ดาวเตะวัย 20 ปี ที่เก่งเกินอายุ เป้นนักเตะคนเดียวที่ยิงประตูให้ทีมชาติไทยได้ในครั้งนี้ แม้จะยิงได้แค่ประตูเดียว แต่ต้องบอกว่าเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะมาก และสร้างโอกาสได้ดี น่าเสียดายถ้าได้เล่นหน้าเป้าเชื่อว่าจะทำประตูได้มากกว่านี้ ศุภณัฏฐ์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและพละกำลังที่เหลือล้น นี่แหละคือสิ่งที่ทีมชาติไทยต้องการ
คนสุดท้ายถือว่าเซอร์ไพรส์มากกับ ชานุกูล ก๋ารินทร์ ที่ลงเล่นเกมแรกให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ โดยลงมาเป้นสำรองในครึ่งหลังเกมพบยูเออี มีความกล้าเล่น เลี้ยงตะลุยเอาตัวรอดได้ดี มีจังหวะจบสกอร์ที่ได้ลุ้น 2-3 ครั้ง แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นประตู แต่โดยรวมกับเกมแรกถือว่าทำได้ดีเกินคาด และน่าจะเป็นตัวเลือกใหม่ๆ ให้กับทีมชาติไทยชุดนี้
ส่วนนักเตะคนอื่นๆ มีกลายคนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน และหลายคนก็ทำได้ในมาตรฐานตัวเองอย่าง ธีราทร บุญมาทัน ก็ถือว่ายังเป็นคนที่ทีมชาติไทยจะขาดไม่ได้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เองเกมแรกมีจ่ายบอลพลาดบ่อย อาจจะมาจากการที่ไม่ได้มีแมตช์เล่นบ่อย แต่เกมสองก็ดีขึ้น มีจังหวะจ่ายสวยๆ เยอะ
ขณะที่ สุภโชค สารชาติ ก้ทำได้ดี มีความขยัน มีความเร็ว เพียงแต่จังหวะสุดท้ายมันยังไม่เข้าที่เข้าทาง ซึ่งถ้าเป็น เช็ค เวอร์ชั่นบุรีรัมย์น่าจะมีสกอร์ไปแล้ว
หลักๆ ก็ประมาณนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่าแม้ผลการแข่งขันจะไม่ดี แพ้ทั้งสองนัด แต่ก็ได้เห็นทรงอะไรบางอย่างที่ดีขึ้นของทีมชาติไทยชุดนี้ ซึ่งที่เหลือก็ต้องนำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อการลงเตะระดับเอเชียที่กำลังจพมาถึง
