logo-heading

อย่างแรกที่สามารถบอกได้เลยคือ ไม่ใช่เพราะเห็นความสำเร็จกับ นครปฐม ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน แล้ว บีจี ถึงเซ็นเข้ามาร่วมทีม แต่ บีจี ได้ติดตามผลงานของ "โค้ชธง" มานานแล้ว ดังนั้นการเข้ามาเป็น โค้ชใหม่บีจี ครั้งนี้ทุกอย่างเกิดขึ้นก่อนที่ "เสือป่า" จะก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ไทยลีก 2 เสียอีก ดังนั้นแฟนๆ บีจี หายห่วงไม่ใช่เพราะแค่ความสำเร็จในลีกรองแล้วบีจีค่อยเอามาคุมทีม แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นอย่างเช่นในข้อต่อไป ...

 

อย่างต่อมา "โค้ชธง" สอบผ่าน?? ขออธิบายเพิ่มต่อจากข้อแรกที่บอกว่าติดตามผลงานโค้ชธง แน่นอนว่าส่วนนึงคือผลงานกับ นครปฐม ที่เขาได้ "ทำอยู่ ทำแล้ว ทำต่อ" แต่อีกส่วนนึงที่หลายคนไม่รู้คือ ก่อนรับงานนี้ โค้ชธง ได้ถูกให้วิเคราะห์ บีจี ปทุม ในทุกๆ แง่มุมมาแล้ว รวมถึง โค้ชธง ต้องวิเคราะห์เกมทุกเกมของ บีจี ด้วย เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เท่ากับว่า โค้ชธง ได้ใช้เวลาร่วมๆ 3 เดือนในการพิสูจน์ฝีมือและทำให้บอร์ด บีจี ได้เห็นว่าเขามีของก่อนที่จะได้รับสัญญาเป็นโค้ชใหม่บีจี ...

ข้อสามอันนี้สำคัญ "โค้ชธง" ไม่ใหม่สำหรับ บีจี ?? เพราะเขารู้จักสต๊าฟฟ์เกือบทุกคนที่นี้ การเป็นอดีตนักเตะ "กรุงไทย" ยุคก่อนที่จะเป็นบางกอกกล๊าส ทำให้เขารู้จักกับ โค้ชอ่ำ อำนาจ, โค้ชบอย ศุภชัย และอีกหลายๆ คนที่เล่นมาด้วยกันตอนเป็น ธ.กรุงไทย ดังนั้นเขาจึงไม่ใหม่สำหรับทีมและแทบไม่ต้องปรับอะไรเยอะแยะ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาจะเป็นผู้ช่วยของเขาในการคุมทีม บีจี ปทุม ด้วย ...

 

สุดท้าย "โค้ชธง" สามารถคุมทีมข้างสนามได้ ?? ข้อนี้หลายคนคงสงสัยเพราะ โค้ชธง เคยบอกว่าถ้าไม่มีโปรไลเซนส์ในฤดูกาลหน้าก็ไม่สามารถคุมทีมได้ แต่มันมีอยู่ 1 ทางที่เรียกว่า Fast track อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ เจ้าหน้าที่ที่เป็นคนอบรบโค้ช (จนท.จากต่างประเทศ) จะเป็นผู้ประเมินโค้ชคนนั้นควรได้ Fast track หรือไม่ โดยประเมินจากผลงานการทำงานต้องมีอย่างต่อเนื่องและชัดเจน รวมไปถึงต้องมีทีมใหม่ในระดับไทยลีกรับรอง และที่สำคัญโค้ชคนนั้นต้องมีการพัฒนาตัวเองอย่างมีระดับขั้น และสามารถต่อยอดการทำงานในอนาคตได้ ซึ่งทุกข้อตรงนี้ โค้ชธง ผ่านหมด เลยคิดว่าไม่น่ามีปัญหากับการได้ Fast track ในการคุมไทยลีกฤดูกาลหน้า ...

บททดสอบใหม่ที่มาเร็วของ "โค้ชธง"

จากการเป็น "แชมป์ไทยลีก 2"

สู่ทีมที่โคตรท้าทายใน "ไทยลีก 1"

"บีจี ปทุม" × "ธงชัย สุขโกกี"

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline