logo-heading

เมื่อต้องพูดถึงฟุตบอลชายในกีฬา "ซีเกมส์ 2023" ที่ประเทศกัมพูชาที่เพิ่งจบลงไป โดยบทสรุปสุดท้าย ทีมชาติไทย ของเราได้เพียงแค่เหรียญเงินอีกสมัย และเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันที่เราไม่สามารถคว้าเหรียญทองกลับบ้านได้ ...

แน่นอนถ้าอ้างอิงถึงความสำเร็จต้องบอกว่าเราผิดหวังกับการพลาดเหรียญทองในครั้งนี้ แต่ถ้าดูในรายละเอียดระหว่างทางทีมชุดนี้ทำได้ดีมากๆ ตั้งแต่เริ่ม จนถึงการแข่งขัน เรื่อยไปจนถึงนัดชิงฯ ...

แต่สุดท้ายเรื่องบานปลายในรอบชิงชนะเลิศทำให้การแข่งขันในครั้งนี้ ทีมชุดนี้น่าจะถูกจดจำว่า "การเล่นดี แต่ดีไม่เท่าจังหวะสาวมือชก" !!! 

วันนี้ ขอบสนามบอลไทย จะขอมาพูดถึงภาพรวมของการแข่งขันในครั้งนี้ว่ามีอะไรน่าจดจำและไม่น่าจะพูดถึงในการแข่งขันในครั้งนี้บ้าง ...

อย่างแรก ตัวผู้เล่นทีมชุดนี้ ไม่แน่นแต่ดีเกินคาด แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุดของเรา เพราะด้วยช่วงเวลาของการแข่งขันซีเกมส์ และการแข่งขันไทยลีกที่มันใกล้เคียงกัน ทำให้ ทีมชาติไทย ในมือของ อิสระ ศรีทะโร เป็นชุดผสมที่ดึงเอานักเตะที่ทีมไหนพร้อมปล่อยก็เอามา บวกกับนักเตะที่พร้อมเล่นก็ถูกดึงมา ขนาดตัวหลักอย่าง โจนาธาร เข็มดี และ เศรษฐสิทธิ์ สุวรรณเศรษฐ์ ยังตามมาสมทบตอนที่แข่งไปแล้วเลย แต่สุดท้ายด้วยตัวผู้เล่นแบบนี้พาเราเป็นทั้งแชมป์กลุ่ม และเข้าชิงฯ ได้แบบสวยๆ เลย 

อย่างต่อมา วิธีการเล่นที่ยอดเยี่ยมของโค้ชหระ ซึ่งอันนี้จะชมใครไม่ได้เลย นอกจากฝีไม้ลายมือของ อิสระ ศรีทะโร และทีมงานของเขา ที่น่าจะมาจากการรู้จักเด็กชุดนี้ดี และเข้าใจว่าจะใช้เด็กแต่ละคนเกมไหน หรือในช่วงเวลาไหนบ้าง จะเห็นได้ว่าเรามีทั้งทีมเซ็ตตัวจริงที่พอจะมองออกว่ามีใครบ้าง กับตัวสำรองที่ดีพอๆ กันหรือเปลี่ยนลงมาแล้วเล่นได้เลย ไม่เท่านั้นเรายังมีเกมที่ โค้ชหระ กล้าโรเตชั่นเพื่อรักษาสภาพความฟิตของนักเตะไว้ด้วย เพราะทัวร์นาเมนต์แบบนี้ถ้าร่างกายไม่ดีจริงมีแต่แย่กับแย่ ซึ่งภาพรวมตรงนี้ โค้ชหระ และ ทีมงาน ทำได้ดีมากๆ 

มาถึงอย่างสุดท้ายซึ่งเป็นบทสรุปของเรื่องทั้งหมดที่ว่า ถ้าไม่มีเหตุการณ์ในนัดชิงฯ มันคงเป็นเหรียญเงินที่เราต้องพูดถึง ทีมชาติไทย มากกว่ากว่านี้แน่นอน เพราะผลงานตั้งแต่รอบแรกจนถึงนัดชิงฯ มันดีมากๆ ตั้งแต่การเล่นที่สวยงาม การต่อบอลที่ยอดเยี่ยม จังหวะจะโคนที่เข้าขารู้ใจ รวมถึงผลงานการแข่งที่มันดีเกินความคาดหวัง จนมาถึงนัดชิงฯ ที่เล่นกับ อินโดนีเซีย แม้จะเล่นไม่ดีและโดนนำไปก่อน 2-0 แต่เรากลับมาตีเสมอ 2-2 ได้อย่างเหลือจะเชื่อ ซึ่งแค่นี้ก็พอเพียงสำหรับการพูดถึงเป็นอย่างมากๆ แล้ว แต่สุดท้ายเรื่องทั้งหมดมาจบลงที่เหตุชกต่อยกันที่มันบานปลายทั้ง สต๊าฟฟ์โค้ช (บางคน) รวมไปถึงนักบอล (บางคน) ที่ก่อเรื่อง ทำให้ภาพลักษณ์ที่ดีมากๆ ของเราในซีเกมส์ครั้งนี้พังทลายลงไปเสี้ยววินาที และเชื่อได้เลยว่าหลังจากนั้นไม่มีใครพูดถึงผลงานที่ดีๆ ก่อนหน้านี้ รวมไปถึงเหรียญเงินที่เราได้ในครั้งนี้แน่นอน

คงเป็นเหมือนที่บอกไว้ข้างต้นว่า ต่อให้ครั้งนี้เราจะทำกันได้ดีแค่ไหนก็ตาม คนจะจำว่าซีเกมส์ชุดนี้เราออกหมัดดีกว่าใช้เท้าเล่น !!!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline