logo-heading

ธีรศิลป์ แดงดา ในวัย 35 ปี ยังคงมีชื่อเป็นหนึ่งใน 23 ขุนพลช้างศึก ทีมชาติไทย ชุดล่าสุดที่ มาโน่ โพลกิ้ง เรียกตัวมาในการเตรียมทีมลงอุ่นเครื่อง 2 นัดตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์เดือนมิถุนายนนี้

ก่อนหน้านี้เคยมีกระแสของแฟนบอลบางส่วนที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเรียก ธีรศิลป์ แดงดา มาติดทีมชาติไทย เพราะมองว่าอายุเยอะแล้ว น่าจะเปิดโอกาสให้รุ่นน้องได้ขึ้นมาติดทีมชาติบ้าง จนเกิดวลีที่ว่า "มุ้ย หมดแล้ว" แต่สุดท้าย ธีรศิลป์ ก็แสดงให้เห็นว่าเขายังไม่หมด และยังเป็นหัวใจสำคัญของทีมชาติไทย ด้วยการคว้าดาวซัลโวอาเซียน คัพ ล่าสุด โดยยิงไปถึง 6 ประตู แถมผลงานในไทยลีก ฤดูกาลนี้ก็ซัดไปถึง 11 ประตู รวมทุกรายการฤดูกาลนี้ยิงไป 21 ประตู ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ถึงตอนนี้คำว่า "มุ้ย หมดแล้ว" ก็ค่อยๆ หายไปแล้ว เพราะผลงานในสนามมันก็เป็นที่ประจักษ์ คราวนี้เราจะมาว่ากันที่เหตุผลอื่นๆ ที่บอกว่ายังไงซะทีมชาติไทย ก็ยังจำเป็นต้องมีกองหน้าอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ต่อไป โดยเฉพาะในศึกเอเชี่ยน คัพ 2023 ต้นปีหน้า

ทีมชาติไทย ชุดนี้เรียกกองหน้าตัวเป้ามาแค่ 2 คน นอกจาก ธีรศิลป์ แล้วก็ยังมี ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ซึ่งในซีเกมส์ที่ผ่านมา ทำผลงานได้โดดเด่นมากๆ และก็ถูกนำไปเปรียบเทียบว่ามีลีลาการเล่นคล้ายพี่มุ้ยอยู่เหมือนกัน รูปร่างหน้าตาก็คล้าย ชื่อก็ขึ้นต้นด้วย "ธีร" เหมือนกัน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

ประเด็นก็คือว่าการมีพี่มุ้ย ในทีมบอกเลบว่า ธีรศักดิ์ จะได้เรียนรู้อะไรมากมายจากกองหน้ารุ่นพี่คนนี้แน่นอน และพี่มุ้ยเองก็น่าจะเป็นพี่เลี้ยงที่ดีของ ธีรศักดิ์ ซึ่งถ้าเราได้ซ้อมได้เล่นกับคนเก่งๆ ฝีเท้ามันก็จะเก่งขึ้นแน่นอน

อีกสาเหตุที่ มาโน่ ต้องเรียก ธีรศิลป์ เข้ามาในชุดนี้ ก็เพราะว่าในต้นปีหน้าจะมีศึกเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้ายลงเตะที่กาตาร์ ช่วงเดือนมกราคมปีหน้า 2024 ซึ่งรายการระดับเอเชี่ยน คัพ คุณต้องมีนักเตะที่ประสบการณ์สูงอยู่ในทีม โดยเฉพาะกองหน้า ซึ่งก็ไม่มีใครดีไปกว่า ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งรับรองได้เลยว่าเราจะได้ประโยชน์จากพี่มุ้ยแน่นอนในเอเชี่ยน คัพ ขออย่างเดียวพี่อย่าเจ็บแล้วกันก่อนถึงทัวร์นาเม้นท์

จริงๆ ทีมชาติไทย ชุดนี้ยังมีกองหน้าอีก 2 คน จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ครั้งนี้ไม่ได้เรียกมาเพราะมาโน่ ต้องการให้นักเตะบุรีรัมย์ ได้มีเวลาพักหลังลงกรำศึกมาต่อเนื่องในฤดูกาลที่ผ่านมา เราเลยไม่เห็น ศิวรักษ์, พรรษา, ธีราทร, พีรดนย์ เข้ามาติดทีมชุดนี้ ส่วนกองหน้าอีก 2 คนที่ผมเอ่ยถึงก็คือ ศุภชัย ใจเด็ด ดาวซัลโวไทยลีก และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

ซึ่งเชื่อว่า 4 คนนี้ จะเป็น 4 กองหน้าของทีมชาติไทย ในเอเชี่ยน คัพ 2023 ซึ่งก็จะมีพี่มุ้ยนี่แหละเป็นลูกพี่ใหญ่คอยประคองน้องๆ 

และจริงๆ แล้วไม่เฉพาะแค่กองหน้าเท่านั้น นักเตะในทีมทุกตำแหน่งก็คงจะอยากให้มีพี่มุ้ยอยู่ในทีม อย่างน้อยๆ เมื่อลงสนามไปและเห็นว่ามีพี่มุ้ยคือกองหน้า ก็อุ่นใจ 

เดี๋ยวเรามารอดูแล้วกันว่าในแมตช์อุ่นเครื่อง 2 นัดของทีมชาติไทย ที่จะพบไต้หวัน 16 มิ.ย. และพบ ฮ่องกง 19 มิ.ย.นี้ พี่มุ้ยจะยิงได้กี่ประตู และยังดีพอสำหรับทีมชาติไทยไหม ไว้มารอดูกันครับ!!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline