logo-heading

วันสองวันนี้ข่าวของ "ชนาธิป สรงกระสินธ์" ที่จะกลับมาเล่นไทยลีก กลับมากระพืออีกครั้ง ซึ่งจุดหมายปลายทางยังไม่มีใครรู้แจ้งว่าจะลงเอยที่ไหน โดยตัวเต็งเหมือนจะมีอยู่ 2 ทีมในเวลานี้ คือบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ล่าสุดมีข่าวว่ายื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการให้กับคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ได้พิจารณาแล้ว

ขณะที่ทางฝากของ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี ก็ไม่รอช้ามีการขยับเรื่องดีลนี้เหมือนกัน หลังจากที่เป็นสโมสรแรกที่ปล่อยข่าวเรื่อง "เมสซี่เจ" กลับไทยออกมา

ก็คงต้องรอดูกันว่าจุดหมายปลายทางของดาวเตะกัปตันทีมชาติไทยคนปัจจุบันจะลงเอยที่ไหน จะกลับมากินก๋วยเตี๋ยวเรือที่คลอง 3 หรือจะไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อหม้อไฟที่คลองเตย หรือท้ายที่สุดจะอยู่กันราเมงญี่ปุ่นต่อไป

สมมติว่ากองกลางวัย 29 ปี เลือกกลับมาเมืองไทย ซึ่งมีความเป็นไปได้มากกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ในเวลานี้ และไม่ว่าจะย้ายมาเล่นกับสโมสรไหนก็ตาม มันจะส่งผลดีอะไรตามมาบ้าง เราลองไปดูกัน 

1.ได้กลับมาลงสนามต่อเนื่อง

แน่นอนเลยว่าเรื่องแรกที่ ชนาธิป ต้องการ คือการกลับมาเป็นตัวหลักของทีมและได้ลงเล่นต่อเนื่อง ไม่ใช่นั่งตูดด้านอยู่ที่ญี่ปุ่น หรือรอลงเล่นแค่บอลถ้วยอย่างเดียวเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้ ซึ่งความสุขของเขาคือการเล่นฟุตบอล ดังนั้นเจ้าตัวน่าจะอยากได้อยู่ในสนามมากกว่านั่งอยู่ข้างสนาม และถ้าได้กลับมาลงเล่นต่อเนื่องเราคงจะเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเมสซี่เจ อีกครั้ง

2.เรียกความมั่นใจกลับมา

ต่อเนื่องมาจากข้อแรก เมื่อได้กลับมาลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ความมั่นใจก็จะกลับคืนมาด้วย เมื่อความมั่นใจกลับมา ฟอร์มการเล่นที่ดีมันก็จะกลับมาด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ต้องยอมรับว่าผลงานของชนาธิป ตกลงไปเยอะเมื่อเทียบกับตอนก่อนหน้านี้ และไทยลีกก็น่าจะเหมาะที่สุดที่จะเรียกความมั่นใจนั้นกลับคืนมา

3.ปลุกกระแสไทยลีก

การกลับมาของ เมสซี่เจ น่าจะช่วยปลุกกระแสฟุตบอลไทยให้กลับมาคึกคักได้พอสมควร หลังปีสองปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าค่อนข้างนิ่ง ซึ่งรวมไปถึงเม็ดเงินที่ลดลงไปด้วย ถ้าชนาธิป กลับมา ก้น่าจะทำให้คนหันมาสนใจไทยลีกเพิ่มขึ้น การถ่ายทอดาด สปอนเซอร์ต่างๆ ก็น่าจะกล้าลงทุนมากกว่าตอนแรกที่ยังกล้าๆ กลัวๆ ยิ่งช่วงนั้นถ้าได้รัฐบาลชุดใหม่ ก็น่าจะส่งผลดีต่อทุกวงการ

4.ทีมชาติไทยประโยชน์

ข้อดีอีกข้อที่เป็นผลพวงตามมาก็คือทีมชาติไทย ก่อนหน้านี้เราเคยเรียก ชนาธิป กลับมาเล่นทีมชาติเกมอุ่นเครื่อง พร้อมๆ กับ สุภโชค เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งคู่ไม่ค่อยมีแมตช์เล่นในเจลีก เห็นได้ชัดว่าสภาพร่างกายรวมทั้งฟอร์มการเล่นไม่เหมือนเดิม หากเจ้าตัวย้ายกลับมาเล่นไทยลีก ได้ลงสนามต่อเนื่อง มันก็จะทำให้ส่งผลดีต่อทีมชาติด้วย โดยเฉพาะต้นปีหน้าที่เราจะไปเตะเอเชี่ยน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ถ้าเจฟิตๆ ฟอร์มเปรี้ยงๆ ก็น่าดูน่าเชียร์มากขึ้น

5.ความสำเร็จส่วนตัว

สุดท้ายคงเป็นเรื่องความสำเร็จส่วนตัว แม้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะขึ้นชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลที่ดังที่สุด เก่งที่สุดคนนึง ประสบความสำเร็จสูงสุดในแง่ของการเป้นนักฟุตบอลอาชีพ ได้ไปค้าแข้งต่างประเทศ ได้เป็นตัวหลักของสโมสร แต่ในแง่ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม ความสำเร็จในการเป็นแชมป์ มีถ้วยรางวัล, หรียญรางวัลส่วนตัวนั้นยังไม่เยอะเท่าไหร่

ชนาธิป เคยเป็นแชมป์ไทยลีกกับเมืองทอง เมื่อปี 2016 และแชมปืลีก คัพ กับบีอีซี เทโร ปี 2014 เท่านั้นเอง ลองคิดดูตอน ธีราทร กลับมาเล่นไทยลีก 2 ปีหลังสุดได้ไปแล้ว 6 แชมป์ แต่ชนาธิป ก็คงจะได้ไม่เท่าธีราทร แน่นอน ถ้าอยากได้แบบนั้นคงต้องไปอยู่บุรีรัมย์ รับรองอย่างน้อยๆ มีถ้วยแน่นอน แต่การกลับมาครั้งนี้ก็น่าจะทำให้เขามีโอกาสคว้าแชมป์ในอาชีพการเป็นนักฟุตบอลมากกว่าเล่นอยู่ที่ญี่ปุ่นต่อไป

จากนี้ก็มารอดูกันครับว่า ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะได้กลับมาเล่นไทยลีกในฤดูกาลหน้าจริงๆ หรือเปล่า และถ้ามาจะเป็นสโมสรไหนที่คว้าเจ้าตัสวไปร่วมทัพได้สำเร็จ เชื่อว่าไม่นานเกินรอจะได้ข้อสรุป

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline