เมื่อช่วงคืนวันที่ 20 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา เกิดข่าวใหญ่ขึ้นอีกครั้งในวงการฟุตบอลไทย บรรดาสื่อใหญ่พากันตีข่าวพร้อมกันว่า ตำรวจ PCT ได้ดำเนินการจับกุม นายพงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก หรือที่รู้จักกันในนาม “บอสตาล” ประธานสโมสร ลำพูน วอริเออร์ ในข้อหาเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ และฟอกเงินซื้อสโมสรฟุตบอล
เหตุการณ์นี้นับว่าเป็นครั้งที่สองของบอสใหญ่แห่งทัพ “ราชันโคขาว” ที่ถูกจับกุมโดนตั้งข้อหา สำหรับเส้นทางเรื่องนี้มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร วันนี้เราจะพามาไล่ย้อนไทม์ไลน์กันให้เห็นชัดๆ ตั้งแต่ครั้งแรกกว่าจะเป็นประธานสโมสร มาสู่การถูกจับกุม
เทคโอเวอร์ “ราชันโคขาว” จุดเริ่มต้นสู่วงการฟุตบอลไทย
จากนักธุรกิจหนุ่มในแถบภาคเหนือคลั่งไคล้ฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ใฝ่ฝันอยากจะมีทีมฟุตบอลเป็นของตัวเองสักครั้ง โดยการก้าวเข้ามาสู่วงการลูกหนังไทยครั้งแรกของ "บอสตาล" คือการรับตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสร ลำพูน วอริเออร์ ก่อนมีบทบาทมากขึ้นจากการเข้ามารับไม้ต่อจากทีมบริหารชุดเดิมที่ไม่ได้ทำต่อ และได้ตัดสินใจเทคโอเวอร์ทีมอย่างเต็มตัวซึ่งเวลานั้นอยู่ในไทยลีก 3 พร้อมตั้งเป้าหมายเปลี่ยนจากทีมที่วนเวียนแต่ในระแวกลีกล่าง และกลายเป็นหนึ่งในทีมที่บินไปไกลสู่ระดับสูงที่สุดในอนาคตให้ได้
ผู้บริหารคลื่นลูกใหม่ เริ่มเป็นที่รู้จัก และน่าจับตามอง
“บอสตาล” เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงการ ไต่เต้าทำทีมตั้งแต่ระดับไทยลีก 3 ขึ้นมา ไทยลีก 2 จากนั้นในฤดูกาล 2021/22 จัดการลงทุนจ้างนักเตะระดับไทยลีกมากมายเข้ามาสู่ทีม หรือแม้กระทั่งเคยสร้างความฮือฮาดึงดึงตัวนักเตะต่างชาติที่เคยผ่านสโมสรระดับโลกอย่าง อาลี ซิสโซโก้ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล, แอสตัน วิลล่า กับ เจฟเฟรน ซัวเรซ อดีตแนวรุกของบาร์เซโลน่า มาแล้ว แน่นอนว่าการลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลทำให้เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มเจ้าบุญทุ่มที่น่าจับตามอง และกลายเป็นทีมเต็งขึ้นสู่ไทยลีกทันที
ถูกเชื่อมโยงเครือข่าย และพัวพัน “คดียาเสพติด”
เส้นทางชีวิตลูกหนังของ “บอสตาล” กำลังไปได้สวยปราศจากคำครหาใดๆ ทว่าได้เกิดเหตุการณ์ที่ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจภาค 5 นำกำลังเข้าตรวจค้น และยึดทรัพย์กลุ่มเป้าหมายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ ซึ่งมีชื่อของ นายพงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก พัวพันในคดีนี้ด้วย
โดยเจ้าตัวตัดสินใจเข้ามอบตัวสู้คดี พร้อมกับยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง และได้ชี้แจงว่าไม่ได้ถูกออกหมายจับเพราะเป็นผู้ค้า หรือบงการ ร่วมขบวนการยาเสพติดใดๆ ยืนยันว่า 22 คนที่ถูกจับ 1 ในนั้นมีคนที่รู้จักกันและเคยมีธุรกรรมทางการเงินกับคนดังกล่าว จึงถูกออกหมายจับในข้อหาสมคบกับเขา
ขณะที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในส่วนของสโมสร ลำพูน วอริเออร์ ก็ยังคงเดินหน้าทำทีมลุยไทยลีก 2 ต่อไปได้ไม่มีปัญหา และจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์ ได้ตั๋วไปเล่นบนลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรได้สำเร็จ
จากหมายค้น … สู่การออกหมายจับ ข้อหาเปิดเว็บพนัน-ฟอกเงินซื้อสโมสรฟุตบอล
สำหรับคดีแรกกำลังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการในชั้นศาล อย่างไรนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็มีการสืบสวนอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ โดยเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตำรวจ PCT นำหมายศาลอาญาบุกค้นบ้าน “บอสตาล” อีกครั้งหลังถูกเชื่อมโยงเกี่ยวกับพนันออนไลน์ โดยที่เจ้าตัวก็ให้การปฏิเสธครั้งแรก
ซึ่งการค้นหาก่อนหน้านี้พบหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงในคดี จนเสนอศาลออกหมายจับ และนำไปสู่การบุกจับกุมในข้อหาเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ รวมถึงฟอกเงินซื้อสโมสรฟุตบอลลำพูน วอริเออร์ พร้อม ทำธุรกิจหลายอย่างบังหน้า เตรียมยึดทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 1,000,000,000 ล้านบาท
โดยก่อนที่สื่อจะรายงานข่าวการถูกจับกุมครั้งนี้ออกไป ทาง ลำพูน วอริเออร์ มีแถลงการณ์สำคัญของสโมสรว่าได้ทำความร่วมมือกับ บริษัท แอลซี หินอ่อน (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับหินอ่อนแบบครบวงจร และส่งออกจำหน่ายไปทั่วโลก โดยจะเข้ามาในฐานะกลุ่มผู้บริหารหลักรายใหม่ และมีผลนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สุดท้ายนี้เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้เข้าสู่ขั้นตอนการสืบสวน กระบวนการยุติธรรม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องมาติดตามกันต่อว่าเคสนี้ ของ “บอสตาล” จะเป็นอย่างไร หรือจะส่งผลกระทบอนาคตของสโมสร ลำพูน วอริเออร์ ด้วยหรือไม่