เมื่อ "มาดามแป้ง" ประกาศตัวท้าชิงเก้านายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

จากการประกาศตัวของ "มาดามแป้ง" ครั้งนี้จะมีเอฟเฟกต์อะไรตามมากับวงการฟุตบอลไทย รวมทั้งถ้านายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนใหม่มีชื่อว่านวลพรรณ ล่ำซำ จริงๆ ฟุตบอลไทยจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในขอบสนามอินไซด์วันนี้ครับ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่ของวงการฟุตบอลไทยเกิดขึ้น เมื่อ 3 บิ๊กไทยลีก นำโดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี และผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย มีนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ คุณปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าวแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ซึ่งหลักใหญ่ใจความมีอยู่ 2 ประเด็นหลักๆ หนึ่งคือเรื่องทีมชาติไทย ที่ทั้งสามบิ๊กจะมาจับมือร่วมกันเพื่อเป้าหมายพาทีมชาติไทยไปบอลโลก และอีกหนึ่งคือการประกาศลงสมัครชิงเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ของ “มาดามแป้ง” โดยที่มี คุณเนวิน และ คุณปวิณ หนุนหลัง

เรื่องของทีมชาติไทย เดี๋ยวเราค่อยว่ากันทีหลัง ส่วนเรื่องใหญ่ที่ต้องพูดถึงก็คือการประการท้าชิงตำแหน่งประมุขบอลไทยของ “มาดามแป้ง” นี่แหละ ที่นี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ของฟุตบอลไทยในอนาคตก็เป็นได้

เรื่องของ “มาดามแป้ง” กับตำแหน่งนายกสมาคมฯ จริงๆ มีการพูดถึงมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมามีตอนนี้ จริงๆ “มาดามแป้ง” ก็มักจะมีเอี่ยวและถูกโยงกับทั้งเรื่องการเมืองทั้งภายนอกและภายในมาตลอด ตั้งแต่การเลือกตั้งผู้ว่า กทม. การลงสมัคร ส.ส.พรรคนู้นพรรคนี้ รวมถึงการเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็มีคนแอบเชียร์ มาตั้งแต่ตอนที่ขึ้นมารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทยแล้ว 

แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม “มาดามแป้ง” ก็จะปฏิเสธมาโดยตลอด จนมาถึงการลงสมัครนายกสมาคมฯ ในครั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นคุณแป้งก็เคยออกมาบอกว่าจะไม่ลงสมัคร เนื่องจากทางครอบครัวก็เป็นห่วงเรื่องสุขภาพร่างกาย รวมทั้งหน้าที่การงานที่มีทั้งงานด้านธุรกิจที่ต้องดูแลอยู่แล้ว งานทางฟุตบอลก็มีทั้งทีมชาติไทย ชุดใหญ่ และสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ที่ก็ต้องดูแลด้วยเช่นกัน ครั้งนั้นมาดามแป้งก็เลยบอกว่าตัวเองไม่พร้อม

แต่จากการแถลงข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เหตุผลหลักที่ทำให้คุณแป้ง ต้องมาลงสมัครก็เพราะว่า วิกฤษปัญหาที่มันเกิดขึ้นกับฟุตบอลไทยในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่ส่งผลต่อเงินทำทีมของทุกสโมสรไม่เฉพาะไทยลีก 1 ไทยลีก 2 ไทยลีก 3 ประสบปัญหากันทั้งหมด

เรื่องของกระแสทีมชาติก็ยังทรงๆ ตัว ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนแต่ก่อนทแม้จะคว้าแชมป์อาเซียนกลับมาได้ 2 สมัย แต่กับรุ่นอื่นๆ ก็ถือว่าผลงานยังน่าผิดหวัง

“มาดามแป้ง” เล่าว่าก่อนที่จะประกาศตัวลงสมัคร ได้เข้าไปพบกับ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ คนปัจบัน โดยบอกว่าตนต้องการจะวางมือ และอยากให้คนรุ่นใหม่ มีความสามารถอย่างคุณแป้งเข้ามารับช่วงต่อ และตนก็พร้อมจะสนับสนุนอย่างเต็มที่

บวกกับแรงสนับสนุนแบบจากสองบิ๊กยักษ์ใหญ่ของวงการอย่าง คุณเนวิน ชิดชอบ และคุณปวิณ ภิรมย์ภักดี ก็เลยทำให้สุดท้ายตัดสินใจที่จะลงสมัคร นี่ถือว่าสำคัญมากนะครับกับเสียงสนับสนุน เพราะระดับ “มาดามแป้ง” ถ้าลงสมัครแล้ว สุดท้ายไม่ได้รับเลือกก็คงจะเสียหน้ามากๆ ดังนั้นเชื่อว่ามาดามแป้งก็น่าจะมั่นใจระดับนึงว่าถ้ามีคุณเนวิน และคุณปวิณ อยู่เคียงข้างโอกาสจะชนะเลือกตั้งก็มีสูง

แม้ว่า “มาดามแป้ง” จะออกตัวว่าที่ลงสมัครนั้นไม่ได้ต้องการมาแข่งขันกับใคร และไม่ว่าใครจะได้เป็นนายกสมาคมฯ คนใหม่ ก็พร้อมสนับสนุนเพื่อให้บอลไทยเดินหน้า ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นแน่นอน เพียงว่าอย่างที่บอกระดับมาดามแป้ง ลุยเองแบบนี้ ก็คงต้องการที่จะเป้นนายกสมาคมฯ ให้ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ลงสมัคร

จุดแข็งของมาดามแป้งก็คือเป็นคนที่เข้าได้กับทุกฝ่าย ไม่ได้เอียงขวาหรือเอียงซ้าย เพราะถ้าจำกันได้ ครั้งแรกที่มาดามแป้งเข้ามาสู่วงการฟุตบอลคือการมาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จากคำชักชวนของ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี และก็มีเสียงสนบัสนุนจากขั้วอำนาจเก่า

พอมายุคนี้ก็กลายมาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จากคำชวนของ “บิ๊กอ๊อด” และล่าสุดก็มาจับมือกับคุณเนวิน ชิดชอบ ก้บโปรเจกต์นี้ มันแสดงให้เห็นว่ามาดามแป้งเข้าได้กับทุกฝ่ายจริงๆ

รวมทั้งเรื่องของคอนเนคชั่น ในการที่เป็นนักธุรกิจใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงเลยกับการจะหาผู้สนับสนุน สปอนเซอร์เข้รมาสู่สมาคมฯ และอีกอย่างเมื่อวานนี้ “มาดามแป้ง” ก็ประกาศว่าถ้าได้เป็นนายกฯ ก็พร้อมจะเชิญคู่แข่งอย่าง “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงย์ ผิวอ่อน เข้ามาช่วยกันทำงานด้วย

ซึ่งมันไม่เคยมีมาก่อนที่ผู้ลงสมัครเลือกตั้งนายกสมาคมฯ จะเชิญคนที่ลงสมัครด้วยกันมาร่วมกันทำงาน เพราะอดีตที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนจากสองขั้วอำนาจที่มาลงแข่งขันกันและไม่น่าจะร่วมงานกันได้

อย่างไรก็ดียังมีเวลาเหลืออีกประมาณ 7-8 เดือนกว่าที่จะมีการเลือกตั้ง ซึ่ง พล.ต.อ.สมยศ จะหมดวาระลงในวันที่ 11 ก.พ.ปีหน้า และจะมีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ซึ่งอาจจะมีขึ้นในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.ปีหน้า ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องรอดูท่าทีว่ามาดามแป้ง จะมีใครเข้ามาเป็นทีมงานบ้าง และจะมีนโยบายอะไร รวมทั้งอาจจะต้องเคลียร์เรื่องของการท่าเรือ เอฟซี ให้ชัดเจน

และจากการประกาศตัวของมาดามแป้ง ครั้งนี้ อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจก็คือจากนี้จะมีใครเสนอตัวมาอีกหรือไม่ ตอนนี้เท่าที่มีประกาศออกมาชัดเจนก็มีแค่ พี่ตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน และ มาดามแป้ง สองคนเท่านั้น ขณะที่ พอลลีน งามพริ้ง แม้จะมีการเสนอนโยบายต่างๆ ออกมา แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะสมัครหรือไม่ ส่วนคนอื่นๆ ไม่รู้จะมีใครกล้าลงมาท้าชิงอีกหรือเปล่า รวมทั้งคนที่ประกาศตัวไปแล้ว จะสู้ต่อ หรือจะถอนตัวก็ต้องรอติดตามกัน บอกได้คำเดียวว่า “แม่มาแล้ว”!! 

#ชิชาริเต่า