logo-heading

ศึกฟุตบอล ยู23 ชิงแชมป์อาเซียน 2023 เพิ่งจะจบลงไปหมาดๆ เมื่อวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพ ที่จังหวัดระยอง โดยแชมป์ตกเป็นของเวียดนาม ที่ดวลจุดโทษเอาชนะอินโดนิเซีย ไปได้ ขณะที่ทีมชาติไทย ของเราได้อันดับที่ 3 โดยเอาชนะจุดโทษมาเลเซีย ในนัดชิงที่ 3 ไป

ทัวร์นาเม้นท์นี้จริงๆ ก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรมาก เหมือนเป็นทัวร์นาเม้นท์อุ่นเครื่องเตรียมทีมก่อนลงเตะศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกซะมากกว่า และจะว่าไปจริงๆ แล้ว มันก็วัดอะไรไม่ได้มาก เพราะเราเองก็ไม่ได้ใช้ชุดใหญ่แบบฟูลทีม เพราะตัวหลักส่วนใหญ่ก็ต้องรับใช้สโมสรในไทยลีก ที่มาก็จะเป็นชุด 2-3 ซะมากกว่า

อีกทั้งศึกชิงแชมป์อาเซียน มาตรฐานการจัดการแข่งขันก็ต่ำถึงต่ำมาก มีที่ไหนเตะกันแบบวันเว้นวัน นักเตะบางคนวันนี้เล่นให้ทีมชาติ อีกวันไปโผล่ลงสนามเล่นไทยลีก ถามว่าในความเป็นจริงมันทำได้ไหม มันก็ทำได้แหละ เพราะเตะที่บ้านเรา แต่มันไม่เป็นสากล ฟุตบอลระดับมาตรฐานไม่มีใครเขาทำกัน

แต่ก็เข้าใจเพราะทัวรืนาเม้นท์มันมาเตะชนกับโปรแกรมลีก ทีมชาติก็อยากได้นักเตะที่ต้องการ สโมสรเองก็ต้องการใช้นักเตะของตัวเอง มันก็เลยอย่างที่เห็นว่าผลงานมันเลยออกมาแบบไม่เป็นสัปรดแบบนี้

อย่างที่บอกไปว่ารายการยู23 ชิงแชมป์อาเซียน นั้นมันวัดอะไรไม่ได้มาก แต่ถ้าพูดถึงผลงานโดยรวมของทีมชาติไทย ก็ต้องบอกว่าน่าผิดหวังเหมือนกันในฐานแฟนบอลที่ตามเชียร์และเอาใจช่วย

เราผ่านรอบแรกมาด้วยชัยชนะ 3 เกมรวด เข้ารอบมาเป็นแชมป์กลุ่ม ซึ่งฟอร์มโดยรวมก็ถือว่าน่าพอใจ จะมีก็แต่เกมสุดท้ายที่อาจจะเล่นได้ไม่ดี อาจจะเพราะใช้ตัวสำรองเป็นหลักด้วย แต่ก็เอาชนะกัมพูชามาได้

ของจริงอยู่ที่รอบรองชนะเลิศ เมื่อต้องดคจนมาเจอกับคู่ปรับในรอบชิงซีเกมส์ครั้งล่าสุดก็คือ อินโดนิเซีย ที่คุมทัพโดย คิม แต ยัง กุนซือชาวเกาหลีใต้ ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจว่าอินโดเอาชุดเต็มมาเลยหรือเปล่า 

แต่เกมรอบตัดเชือกที่เจอกันต้องบอกว่าเราสู้เขาไม่ได้เลย โดยเฉพาะครึ่งหลัง สุดท้ายพ่ายไป 1-3 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายกับฟอรืมการเล่นและผลงาน

ส่งผลให้ทีมชาติไทยต้องไปชิงอันดับ 3 กับมาเลเซีย ในเวลาทำอะไรกันไม่ได้เสมอกัน 0-0 ต้องดวลจุดโทษตัดสิน โชคดีที่เราเฉือนเอาชนะไปได้ คว้าอันดับ 3 เป็นรางวัลปลอบใจ

มีหลายคนวิจารณ์การทำทีมของโค้ชอิสระ ว่าควรรับผิดชอบกับผลงานชิงแชมป์อาเซียนในครั้งนี้ ที่เราไปไม่ถึงแชมป์

แต่ถ้าถามผมส่วนตัวคิดว่าไทยก็เล่นได้ไม่ดีจริงๆ นั่นแหละ แต่การจะปลดโค้ชในเวลานี้ แล้วต้องหาโค้ชใหม่มาคุมทีมก่อนที่เราจะลงเตะรอบคัดเลือกชิงแชมป์เอเชีย ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ผมว่ามันเสี่ยงเกินไป 

เมื่อมันมาถึงจุดนี้ก็ต้องให้โค้ชอิสระ ได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะรายการสำคัญอย่างชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่เราจะเป็นเจ้าภาพเองด้วยในกลุ่ม H มีทีมร่วมสายอย่าง มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และ บังคลาเทศ จะแข่งขันกันที่ชลบุรี สเตเดี้ยม ระหว่างวันที่ 6-12 กันยายนนี้

ซึ่งล่าสุดเมื่อเห็นรายชื่อที่ทีมชาติไทยประกาศออกมา ต้องบอกว่าจัดเต็ม ตัวท็อปๆ ทั้งนั้น อยากรู้ว่ามีใครบ้าง คลิ๊กอ่านได้ที่ สมาคมฯ ประกาศ 23 ขุนพล ชุดลุยศึก ยู23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก

โดยรายการนี้จะเอาแชมป์กลุ่มทั้ง 11 กลุ่ม เข้ารอบสุดท้ายอัตโนมัติ และอันดับ 2 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีมเท่านั้น แต่บอกเลยว่าแค่เข้ารอบคงไม่พอสำหรับทีมชาติไทย ต้องเป็นแชมป์กลุ่มเท่านั้น หากต้องไปลุ้นอันดับ 2 แบบหืดจับเหมือนครั้งก่อนในยุคโค้ชโย่งฟ้าประทานอีกละก็ รับรองว่าแฟนบอลคงรับไม่ได้แน่นอน

ครั้งนี้ทุกอย่างเป็นใจ ได้นักเตะชุดที่ดีที่สุด เล่นในบ้านตัวเอง เราเหนือกว่าคู่แข่งทุกทีม (ไม่ได้ดูถูกทีมอื่น แต่ว่ากันไปตามเนื้อผ้า) เราต้องชนะแบบประทับใจทั้ง 3 นัด และต้องเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มเท่านั้น

นี่คือโจทย์ที่โค้ชอิสระ และทีมงานต้องทำให้ได้ หากหวังจะได้คุมทีมชุดนี้ต่อไปจนถึงปีหน้า และเพื่อลบเสียงวิพากษ์วิจารณ์กับ 2 ทัวร์นาเม้นท์ล่าสุดที่ผ่านมา ที่เราไปไม่ถึงฝัน

สุดท้ายจะลงเอยอย่างไร เรามารอดูกัน ส่วนตัวเอาใจช่วย ยังไงก็เชียร์ทีมชาติไทยอยู่แล้ว สู้ๆ ครับน้องๆ ทุกคน 

#ชิชาริเต่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline