logo-heading

ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2023/24 ผ่านพ้นไปแล้ว 3 นัด ไม่มีทีมไหนที่เก็บชัยชนะได้ทั้ง 3 นัดติดต่อกัน ดีที่สุดคือ ชนะ 2 เสมอ 1 เก็บได้ 7 คะแนน นั่นก็คือ 4 ทีมนำหัวตารางในตอนนี้อย่าง ทรู แบงค็อก, การท่าเรือ, บุรีรัมย์ และเชียงราย

มีอยู่ทีมนึงที่ชื่อชั้นไม่เป็นรอง 4 ทีมที่เอ่ยชื่อไป แต่ผลงานกลับน่าผิดหวังมาก นั่นก็คือ "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่แพ้ไปถึง 2 นัด เสมอ 1 นัด เก็บได้แค่แต้มเดียว ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือยิงได้ประตูเดียวแล้วก็มาจากจุดโทษด้วย

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ผลงานของอดีตแชมป์ไทยลีก 4 สมัย ออกสตาร์ทได้น่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ ไปวิเคราะห์พร้อมกัน 

สาเหตุที่ทำให้ผลงานของเมืองทอง 3 นัดแรก ไม่ดีอย่างที่คิดไว้ มีอะไรบ้างไปดูกัน

1.โปรแกรมหนัก

โปรแกรม 3 นัดแรกของเมืองทอง ถือว่าหนักถึงหนักมากเพราะเจอกับทีมหัวตารางหมดเลย ไล่ตั้งแต่เกมแรกกับเชียงราย แพ้คาบ้าน 0-1 ต่อด้วยเกม 2 บุกไปเจ๊าบียู 0-0 และเกมล่าสุดพ่ายในบ้านต่อท่าเรือ 1-3 เดี๋ยวกลับมาเตะต่อนัดสี่ต้องออกไปเยือนบีจี ที่กำลังมั่นใจอีก บอกเลยว่าเหนื่อยแทนแฟนเมืองทอง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเป้าหมายคือต้องการจบหัวตารางการเจอทีมเหล่านี้คุณต้องผ่านให้ได้ แต่ก้น่าเห็นใจที่ต้องมาเจอทีมใหญ่ติดๆ กัน ดีไม่มีบุรีรัมย์มาอยู่ใน 4-5 นัดแรกด้วย 

2.ยังหาทีมที่ลงตัวไม่ได้

เท่าที่ดูมา 3 เกมแรก เหมือนเมืองทอง จะยังหา 11 ผู้เล่นที่ลงตัวไม่ได้ สับเปลี่ยนไปเรื่อย โดยเฉพาะกองกลาง จริงๆ ผู้รักษาประตู กับ 4 กองหลังเหมือนจะลงตัวแล้วเพราะใช้ชุดเดิมมาตลอด แต่ผลงานมันก็ไม่ดี กองกลางมี วีระเทพ กับ พิชา เป็นตัวยืน แต่อีกคนก็ยังไม่เวิร์ค ขณะที่ 3 แนวรุกลงตัวแล้ว พ็อพพ์, เจริญศักดิ์ และ เชโปวิช แต่ก็ยังไร้ประสิทธิภาพ 

3.มาริโอ้ ดื้อเกินไป

ต่อเนื่องมากจากข้อ 2 ที่ยังหาทีมไม่ลงตัว มาว่ากันที่แผนของ มาริโอ ผมก็ไม่เข้าใจกับตำแหน่งแบ็กซ้ายทำไมถึงไม่ใช่แบ็กอาชีพ แต่กลับเป็น ธีรภัทร เลาหบุตร กองกลางมาเล่นแทน ทั้งๆ ที่ซื้อแบ็กอาชีพมาสองคนทั้ง ณัฐวัฒน์ โทบ้านซ้ง กับ สุวิทย์ ไปพรมราช

ผมเข้าใจแท็กติกนะที่จะให้ ทริสตอง โด แบ็กขวา ดันขึ้นสูงไปเป็นเหมือนปีกอีกคนในเกมรุก ทำให้เกมรุกมีตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นทางซ้ายเลยต้องการให้ ธีรภัทร มาเล่นเป็นเหมือนเซ็นเตอร์คนที่สามไม่ต้องบุกเยอะ แต่มันก็เห็นแล้วว่าแผนนี้ไม่เวิร์ค น่าจะลองเปลี่ยนดูบ้าง รวมทั้งตรงกลางลองเปลี่ยนแผน เปลี่ยนตำแหน่งดู ยังมีนักเตะที่น่าเลือกใช้อีกหลายคน 

4.พ็อพพ์, เชโปวิช ยังไม่เข้าขา

ตัวต่างชาติที่เป็นความหวังในการทพประตูทั้ง วิลเลี่ยน พ็อพพ์ กับ สเตฟาน เชโปวิช ก็ยังจูนกันไม่ติด เล่นกันยังไม่เข้าขา โดยเฉพาะ พ็อพพ์ ที่เหมือนจะยังไม่ฟิต จริงๆ ก็ไม่ฟิตทั้งคู่อะ เหตุเพราะมาเข้าแคมป์ช้าสุดก่อนเปิดฤดูกาล ช่วง 3 นัดที่ผ่านมาก็เหมือนเป็นการเรียกความฟิตซะมากกว่า

5.ดาวรุ่งเยอะเกินไป

ในทีมเมืองทองตอนนี้ดูเหมือนจะดาวรุ่งเยอะเกินไป มันไม่มีตัวเก๋ามากประสบการณ์ที่มาคอยประคองน้องๆ จริงๆ ใช่ดาวรุ่งเป็นเรื่องดี แต่ใช้เยอะไปก็ไม่ดีถ้าดาวรุ่งคุณไม่ได้เก่งแบบโคตรเก่งอย่างที่บุรีรัมย์มี สุภโชค กับ ศุภณัฏฐ์ ซึ่งในทีมควรจะมีตัวเก๋าสัก 2-3 คน ที่คอยกระตุ้นและคอยประคองในทีมบ้าง

6.ขาดความกระหาย

สุดท้ายคงเป็นเรื่องความกระหาย ที่ดูเมืองทองชุดนี้เล่นได้ไม่สนุกเหมือน 2 ฤดูกาลก่อน มันยังดูเนือยๆ เฉื่อยๆ ไม่มีทีเด็ด หรือมีอะไรให้แฟนบอลได้ตื่นเต้น ซึ่งถ้ายังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แฟนบอลอาจจะหายก็ได้

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเหตุผลที่พอจะนึกออกกับผลงาน 3 เกมแรกที่ผ่านมาของกิเลนผยอง โชคดีที่ได้หยุดพักเบรกทีมชาติพอดี จะได้มีเวลากลับไปทบทวนและแก้ไขข้อผิดพลากที่ผ่านมา 

ซึ่งพอกลับมาแข่งขันอีก 2-3 นัดถ้ายังไม่ดีขึ้น อาจจะมีการเปลี่ยรแปลงเกิดขึ้นก็เป็นได้ มาริโอ จะประกาศลาทีมอีกหรือเปล่า แล้วค่อยกลับมาใหม่เหมือนครั้งก่อนๆ ที่พอบอกจะลาออกแล้วทีมก็จะผลงานดีขึ้นมา

นี่ต้องรอดูโปรแกรมหลังจากนี้อีกที่จะมีช่วงติดปัญหาใช่สนามไม่ได้ ต้องเล่นเยือน 8 นัดติด ถ้าเป็นเช่นนั้นบอกเลยว่าเหนื่อย ต้องรอดูว่าไทยลีกจะว่ายังไง

สุดท้ายก้เอาใจช่วยก็แล้วกันหวังว่าจะกลับมาทำผลงานได้ดีหลังจากนี้ สู้ๆ กิเลนผยอง!!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline