ครั้งแรกของ "จิรวัฒน์ วังทะพันธ์" และ "เบน เดวิส" กับทีมชาติไทย ชุดใหญ่

ถ้าถามถึงความใฝ่ฝันสูงสุดของนักฟุตบอลอาชีพคนนึงการได้มีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่สักครั้งในชีวิต มันคงเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ เช่นเดียวกับสองนักเตะหน้าใหม่ของทีมช้างศึกชุดใหญ่ที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ ก็คือ จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ นายทวารวัย 25 ปี จากสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด

ที่โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟแบบมือเป็นระวิงมาในศึกไทยลีก 3 เกมล่าสุด จนมาโน่ ต้องเขียนชื่อเขาติดทีมชาติมาในชุดนี้ด้วย

อีกคนนึงคือ เบนจามิน เดวิส กองกลางตัวรุกพรสวรรค์สูงวัย 22 ปี ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ จากชลบุรี เอฟซี ที่มีชื่อเข้ามาแทนที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ถอนตัวไป ซึ่งในรายของ เบน แฟนบอลทีมชาติไทยคงจะรู้จักกันดี เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเล่นให้กับชุดยู23 มาแล้วหลายรายการ แต่นี่จะเป็นการติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ครั้งแรก

อย่างไรก็ดีในรายของ เบน เดวิส ยังไม่มีข่าวการเรียกตัวมาติดทีมชาติอย่างเป็นทางการ ก็ไม่รู้ว่าไปติดขัดอะไรตรงไหน ซึ่งตามปกติแล้วเมื่อมีคนถอนและเรียกคนใหม่เข้ามา ถ้านักเตะไม่ได้อยู่ต่างจังหวัดที่ไกลมาก ก็จะมาเข้าแคมป์ทันที แต่คิดว่าไม่น่าพลาด ยังไงแล้วก็น่าจะเป็น เบน เดวิส ที่มาแทนที่เมสซี่เจ

เรามาว่ากันทีละคนดีกว่า เริ่มที่ จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ ในตำแหน่งผู้รักษาประตู ถ้าใครได้ติดตามเรื่องราวของนายทวารหนุ่มคนนี้จะเห็นมานี่คือความฝันของเขากับการได้ติดธงที่หน้าอกเป็นครั้งแรก 

สมัยที่ยังเป็นนักเตะระดับเยาวชน เคยไปดูทีมชาติไทย เคยถ่ายรูปคู่กับพี่ตองกวินทร์ และบอกตัวเองว่าวันนึงผมจะติดทีมชาติให้ได้ และวันนี้ก้มาถึงจริงๆ

สำหรับนายด่านวัย 25 ปี ถือว่าสร้างชื่อให้กับตัวเองแบบจริงจังมาได้ 2 ฤดูกาลแล้วกับขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุด โดยก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงแค่ผู้รักษาประตูโนเนมคนนึง แต่ก็มักจะโชว์ซูเปอร์เซฟสวยๆ หลายครั้ง

จนกระทั่งมาในฤดูกาลนี้กับ 3 นัดแรกในไทยลีก โดยเฉพาะสองเกมแรกที่พบกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และชลบุรี เอฟซี เซฟรวมกันไปกว่า 20 ครั้ง คู่แข่งยิงยังไงก็ยิงไม่เข้า จนมีกระแสเรียกร้องว่าต้องติดทีมชาติแล้วแบบนี้ แล้วเขาก็มีชื่อมาจริงๆ

ถ้าให้เทียบฟอร์มกับทั้งสามคนในทีมชาติตอนนี้เอาจริงก็เด่นกว่าทั้ง ฉัตรชัย บุตรพรม ที่เป็นมือหนึ่งชุดนี้ และ ปฏิวัติ คำไหม มือสองจากบียู นับเฉพาะผลงานในลีก 3 เกมแรก

แต่ก็ต้องยอมรับว่าการเล่นทีมชาติกับสโมสรมันต่างกัน บางทีเกมระดับทีมชาติ โดยเฉพาะชุดใหญ่อาจต้องใช้ประสบการณ์เข้ามาช่วยด้วย ซึ่งนักเตะบางคนแม้ว่าจะเก่ง แต่ขาดประสบการณ์พอเจอเกมใหญ่กลายเป็นเล่นไม่ออก และเสียความมั่นใจไปก็มี ฃ

ดังนั้นสำหรับ จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ทำหน้าที่ของตัวเองไป ถ้ามันถึงเวลา และโค้ชมองว่าดีกว่าคนอื่นจริงๆ เดี๋ยวก็ได้ลงสนามแน่นอน 

มาต่อกันที่ เบนจามิน เดวิส กองกลางลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ซึ่งจริงๆ ก็ทำผลงานได้ดีกับชลบุรี เอฟซี ใน 3 เกมแรก เขากลายเป็นตัวหลักและจอมทัพในการทำเกมบุกของทีมฉลามชลในยุคของ มาโกโตะ เทกุระโมริ เพียงแต่ว่ายังไม่สามารถทำประตู และช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะนัดแรกได้

ทันทีที่มีกระแสข่าวว่า ชนาธิป ได้รับบาดเจ็บและอาจต้องถอนตัวจากทีมชาติไทย (ซึ่งตอนนี้ถอนไปเรียบร้อย) ก็มีเสียงเชียร์จากแฟนบอลทุกหมู่เหล่าว่าอยากเห็น เบน เดวิส ได้ถูกเรียกไปแทนเมสซี่เจ ด้วยตำแหน่งและลีลาการเล่นที่คล้ายๆ กัน

และสุดท้ายก็เป็น เบน จริงๆ ตามข่าวที่ออกมา แต่ตอนนี้ยังไม่มีข่าวอย่างเป็นทางการ ส่วนนึงก็อาจจะเป็นเพราะ มาโน่ เองก็เคยใช้งาน เบน มาแล้วในซีเกมส์ ก็รู้มือกันอยู่ว่าจะใช้ เบน ยังไง

และอีกอย่างเมื่อไม่มีเจในทีม นักเตะที่จะแทนได้ก้มี สุภโชค ที่ตอนนี้ก็จะถูกดันไปเล่นด้านข้างซะมากกว่า ที่เหลือก็ วรชิต กับ ปกเกล้า ที่เป็นตำแหน่งเดียวกับเจ แต่ถ้าถามว่าใครที่ลีลา และฝีเท้าดูจะคล้ายเจที่สุด ก็คงต้องบอกว่าเป็น เบน ที่เป็นนักเตะครองบอลดี จ่ายบอลดี และลีลาการเล่นตื่นตาตื่นใจ

ซึ่งมีโอกาสมากทีเดียวที่เผลอ เบน เดวิส หากทำผลงานได้ดีในการฝึกซ้อม อาจจะได้ออกสตาร์ทในฐานะ 11 คนแรก ในเกมพบกับเลบานอนก็เป็นได้ แต่ก็ต้องรอดูอีกทีว่าจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า

สุดท้ายก็ขอเอาใจช่วยทั้งสองคน ที่มีโอกาสได้ติดทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก ได้ทำหน้าที่และผลงานของตัวเองอย่างเต็มที่ ถ้าฝีเท้าเข้าตา โชว์ฟอร์มได้ดีในคิงส์ คัพ ที่กำลังจะมาถึง ก็อาจจะได้เป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยต่อไปในอนาคต

เพราะอย่าลืมว่าปีนี้ยังมีฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก และเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้ายรออยู่ ซึ่งเป็นทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ระดับเมเจอร์ ถ้าสอบผ่านในคิงส์ คัพ และได้ลงเล่นฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก และเอเชี่ยน คัพ ก็คงจะเป็นความฝันอันสุดยอดของทั้งสองคนด้วย

#ชิชาริเต่า