logo-heading

จบไปอีกหนึ่งรายการสำหรับทีมชาติไทย กับการคว้ารองแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 49 ด้วยการแพ้การดวลจุดโทษให้กับอิรักไปหวุดหวิด 4-5 หลังเสมอกันในเวลา 2-2 ซึ่งในเกมล่าสุดถึงแม้ทีมชาติไทยจะแพ้ แต่ก้ได้รับคำชื่นชมมากมาย เพราะเป็นฝ่ายตามหลังถึง 2 ครั้ง แล้วก็สามารถตามตีเสมอได้

หลายคนชื่นชมพัฒนาการที่ดีขึ้นของทีมชาติไทย ใน 2 เกมที่ผ่านมา ทั้งเกมที่เแอนชนะเลบานอน 2-1 รวมทั้งเกมเสมออิรัก 2-2 ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับทีมช้างศึกชุดนี้ ส่วนนึงต้องยกเครดิตให้ มาโน่ โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทยคนปัจจุบัน ที่สามารถทำทีมให้เล่นได้สนุก และประทับใจแฟนบอลในคิงส์ คัพ ครั้งนี้ 

แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า นั่นก็คือ อนาคตของกุนซือชาวเยอรมันรายนี้ กับทีมชาติไทย จะเป็นอย่างไรต่อไป หลังมีข่าวหนาหูว่าอาจจะต้องแยกทางกับทัพช้างศึกหลังจบทัวร์นาเม้นท์ อนาคตของกุนซือทีมชาติไทยจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในขอบสนามอินไซด์วันนี้ครับ

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีนะครับว่าตอนนี้ทีมชาติไทยเหมือนมีโค้ชอยู่ 2 คน หนึ่งคือ มาโน่ โพลกิ้ง ที่ทำหน้าที่คุมทีมอยู่ที่ข้างสนาม อีกหนึ่งคือ มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่นที่ทำหน้าที่เป็นประธานเทคนิค ซึ่งหลายคนบอกว่าเป็นคนที่มารอเสียบนั่งเก้าอี้กุนซือทีมชาติไทยคนต่อไป

จะอย่างไรก็แล้วแต่เรื่องทั้งหมดที่ลือกันมันยังไม่เกิดขึ้น และทั้งสองคนก็ยังทำหน้าที่ตามตำแหน่งที่เป็นอยู่ขณะนี้ แต่ในโลกของฟุตบอลไทย มันมีอะไรเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่คาดคิด

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหลังจบเกม "มาดามแป้ง" ในฐานะผู้จัดการทีมก็ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พอใจกับผลงานของทีมชาติไทย และผลงานของ มาโน่ ในศึกคิงส์ คัพ ครั้งนี้ และก็บอกด้วยว่า มาโน่ จะยังคงทำหน้าที่เฮดโค้ชทีมชาติไทยต่อไปตามสัญญาที่มีอยู่กับสมาคมกีฬาฟุตบอลจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า 

ซึ่งมันก็อาจจะบอกได้ว้า ณ เวลานี้ ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อีกทั้งกระแสแฟนบอลตอนนี้ก็หันมาหนุนหลัง มาโน่ มากขึ้น กับผลงานล่าสุด ทำให้ทีมชาติไทยก็ยังคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในเวลานี้ 

แต่ในเวลาเดียวกัน มาโน่ เองก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเองยังไม่แน่ใจว่าจะได้ทำทีมต่อไปหรือเปล่า แต่ตามหน้าที่ก็ได้มีการวางแผนเตรียมทีมเอาไว้สำหรับโปรแกรมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ในเดือนตุลาคมนี้ ที่จะต้องออกไปเยือนจอร์เจีย และเอสโตเนีย ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบกี่ปีไม่รู้กับการไปเตะอุ่นเครื่องที่ทวีปยุโรปของทีมชาติไทย

โดยกุนซือลูกครึ่งเยอรมัน-บราซิล บอกว่าตอนนี้ได้ลิสต์รายชื่อไว้แล้วประมาณ 40 คน ที่อยู่ในข่ายจะเรียกตัวไปยุโรปครั้งนี้ แล้วก็มีแผนวางเอาไว้รวมไปถึงโปรแกรม 2 นัดแรกในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ในเดือน พ.ย.ด้วย 

ส่วนเรื่องการทำงานกับ อิชิอิ ยอมรับว่ายังไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก แต่ก็มีการแบ่งงานกันทำอย่างชัดเจน ซึ่งอนาคตจะเป็นอย่างไรคงต้องรอดูกันต่อไป" นี่คือคำให้สัมภาษณ์ของกุนซือทีมชาติไทยคนปัจจุบัน

ส่วนทางฝั่งของ อิชิอิ เอง ก็ยังไม่ได้มีการออกมาให้สัมภาษณ์หรือบอกอะไรในเรื่องนี้ ซึ่งเขาก็ยังคงทำงานของตัวเองต่อไป โดยมี จเด็จ มีลาภ คอยให้ข้อมูลและคำปรึกษา

ซึ่งก็อย่างที่ มาโน่ บอกว่าตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ "มาดามแป้ง" หรืออาจจะมีคนอื่นๆ คอยให้คำปรึกษาอยู่ด้วย

คราวนี้เราลองมาวิเคราะห์ดูว่าแนวนางหลังจากนี้ มันจะมีความเป็นไปได้ในรูปแบบไหนบ้าง สำหรับการทำงานร่วมกันของ มาโน่ และ อิชิอิ กับทีมชาติไทย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 5 แนวทางด้วยกัน

1.ให้ มาโน่ คุมทัพต่อจนครบสัญญา

อย่างที่ มาดามแป้ง ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า มาโน่ ยังมีสัญญาจนถึงเดือน ก.พ.ปีหน้า ดังนั้นก็ให้เจ้าตัวได้คุมทีมต่อไปจนครบสัญญา ถ้าผลงานดีทำได้ตามเป้า โดยเฉพาะฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เก็บชัยชนะได้ เอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้ายได้เข้ารอบน็อคเอาท์ ก็อาจจะมีการต่อสัญญาออกไป หรือถ้าผลงานไม่ดี จะรายการไหนก็ตาม ก็อาจจะแยกทางกันหลังหมดสัญญา แล้วก็แต่งตั้ง อิชิอิ ขึ้นมาคุมทีมแทน

2.มาโน่ คุมทีม อิชิอิ เป็นประธานเทคนิคต่อไป

หรือแนวทางต่อมาก็คือทำทุกอย่างเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้ ก็คือ มาโน่ ก็คุมทีมข้างสนามของตัวเองไป อิชิอิ ก็ทำหน้าที่ประธานเทคนิคของตัวเองไป แต่ทั้งสองคนจะต้องคุยกันและประสานงานกันในการพาทีมชาติไทยไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปทีละสเต็ป

3.คุมทีมร่วมกัน เป็นโค้ชคู่

หรืออาจจะเป็นแนวทางที่ให้ทั้งสองคนคุมทีมร่วมกันเป็นกุนซือคนคู่ไปเลย เรื่องนี้คุณเนวิน ชิดชอบ เคยพูดไว้ในงานแถลงข่าวร่วมกันกับมาดามแป้ง ว่าทำไมทีมชาติไทยจะใช้โค้ชคู่ไม่ได้ การท่าเรือก็ยังใช้โค้ชคู่เลย หรือทีมอื่นๆ ก็มีโค้ชสองคน ซึ่งดูแล้วก็มีทางเป็นไปได้ เพียงแต่ว่าทั้งสองคนจะโอเคหรือเปล่ากับช้วยส์นี้ มีความเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปได้ยากอยู่เหมือนกัน

4.ให้ อิชิอิ เป็นโค้ช มาโน่ เป็นผู้ช่วย

แนวทางที่ 4 นี้เป็นแนวทางแบบหักดิบไปเลย คือถ้าสมมติว่าอยากจะให้ อิชิอิ ขึ้นมาเป็นกุนซือใหญ่อยู่แล้ว ก็แต่งตั้งไปเลย แล้วให้ มาโน่ เป็นผู้ช่วยหรือมือขวา คล้ายๆ กุนซือคู่แต่อันนี้จะแยกชัดเจนว่าใครเป็นโค้ชใหญ่ ใครเป็นผู้ช่วย แต่บอกเลยว่าตัวเลือกนี้ไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้ เพราะมาโน่ ที่เป็นเฮดโค้ชอยู่แล้วคงจะไม่อยากไปเป็นมือขวาแน่นอน

5.สลับตำแหน่ง อิชิอิ เป็นโค้ช มาโน่ ปธ.เทคนิค

หรือแนวทางสุดท้ายก็คือสลับตำแหน่งกันไปเลย อิชิอิ มาเป็นเฮดโค้ช และให้ มาโน่ ไปเป็นแระธานเทคนิค เหมือนกับหลายๆ สโมสรในไทยลีก ที่พอเวลาจะเปลี่ยนโค้ชทีก็มักจะสลับตำแหน่งกันแบบนี้ แต่ดูแล้วถ้าสลับจริง มาโน่ ก็คงขอลาออกดีกว่า แทนที่จะไปเป็นประธานเทคนิค ที่เหมือนเป็นตำแหน่งที่ถูกแขวนไว้เฉยๆ

ทั้งหมดนี้ขอย้ำว่าเป็นเพียงแค่การวิเคราะห์จากความน่าจะเป็นเท่านั้น อนาคตยังไม่มีใครรู้ว่าตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทยมันจะลงเอยอย่างไร แต่ที่แน่ๆ การเอา อิชิอิ มาเป็นประธานเทคนิค นั้นก็เพื่อจะให้มารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทยคนต่อไปนั่นเอง อยู่ที่ว่ากุนซือชาวญี่ปุ่น จะได้ขึ้นมารับตำแหน่งตอนไหน และจะรออยู่ในตำแหน่งประธานเทคนิคแบบนี้ต่อไปแบบอดทนได้นานแค่ไหน คงต้องรอดูกัน

ชิชาริเต่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline