logo-heading

นับถอยหลังอีกเพียง 5 วันเท่านั้นทีมชาติไทย ของเราก็จะลงสนามนัดแรกในศึกฟุตบอลในมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ซึ่งจริงๆ แล้ว เอเชี่ยนเกมส์ หนนี้มันเป็นการแข่งขันของปีที่แล้ว 2022 แต่ต้องเลื่อนมาจัดกันในปีนี้ 2023 เนื่องจากสถานการณ์โควิด (อันนี้เรียนให้ทราบเพื่อใครไม่รู้)

กลับมาที่เรื่องทีมชาติไทย ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือทีมชาติไทยชุดยู23 นั่นแหละ เพราะครั้งนี้เราไม่มีนักเตะอายุเกินไปแข่งขันเลย เนื่องจากมันไม่ใช่ฟีฟ่าเดย์ และในเวลาเดียวกันไทยลีกก็มีโปรแกรมแข่งขันอยู่ด้วย ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะไปเอานักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่มาช่วย เพราะขนาดนักเตะชุดยู23 เอง เรายังไม่ได้ชุดเต็มมาเลย เนื่องจากสโมสรต้องใช้งานในไทยลีก

ซึ่งนักเตะช้างศึก ชุดเอเชี่ยนเกมส์ หนนี้ ส่วนใหญ่จึงเป็นนักเตะตัวสำรองของทีมไทยลีก หรือบางคนก็เป็นนักเตะจากลีกรอง ถ้าให้บอกตามตรง นี่คือทีมชาติไทย ชุดเอเชี่ยนเกมส์ ที่ขี้เหร่ที่สุดก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตาม น้องๆ ที่มีชื่อติดทีมชุดนี้ ก็ไม่ได้ไก่กาอาราเล่ บางคนก็มีดีกรีอยู่ ดังนั้นก็เอาใจช่วยทุกคนเต็มที่

ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่านักเตะชุดเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งนี้มีใครบ้าง ตามไปอ่านได้ที่ลิงค์นี้ สมาคมฯ แบโผ 21 ขุนพล ช้างศึก U23 ชุดสู้ศึก เอเชียนเกมส์ ที่หางโจว ประเทศจีน

พูดถึงกุนซือที่จะลงคุมทีมชาติไทยในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือ "โค้ชหระ" อิสระ ศรีทะโร เฮดโค้ชทีมชาติไทย ชุดยู23 ที่ลงคุมทีมมาต่อเนื่องเป็นทัวร์นาเม้นท์ที่ 3 ติดต่อกันในเวลา 2-3 เดือนนี้

เริ่มจากศึกฟุตบอลยู23 ชิงแชมป์อาเซียน ที่ไทยเราเป็นเจ้าภาพที่จังหวัดระยอง เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งทีมช้างศึกของเราจบด้วยอันดับที่ 3 หลังไปพ่ายอินโดนิเซีย ในรอบรองฯ ก่อนจะชนะจุดโทษมาเลเซีย ในนัดชิงที่ 3 ซึ่งตอนจบทัวร์นาเม้นท์นั้น "โค้ชหระ" ก็โดนวิพากษ์วิจารณ์เยอะพอสมควรที่ไม่สามารถพาทีมไปถึงแชมป์ได้ ทั้งๆ ที่ทำผลงานดีมาตลอดในรอบแรก

ต่อด้วยทัวร์นาเท้นท์ที่ 2 ที่เพิ่งจบไปนั่นคือ ฟุตบอลยู23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ซึ่งเราก็เป็นเจ้าภาพของกลุ่ม H ที่จังหวัดชลบุรี สุดท้ายแล้วเราเก็บชัยชนะรวดทั้ง 3 นัด คว้าแชมป์กลุ่มตีตั๋วไปลุยศึกยู23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ ในปีหน้า

และก็มาถึงรายการนี้ นั่นคือเอเชี่ยนเกมส์ ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ที่จะเตะกันในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

ดูถึงตรงนี้อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องดีที่ทีมชาติไทยได้ลงเตะต่อเนื่องในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาก่อนเตะเอเชี่ยนเกมส์ ได้เตรียมทีมกันมายาวๆ แต่จริงๆ แล้ว นักเตะที่ใช้ในแต่ละรายการแทบจะเป็นคนละชุดกันเลย

อย่างในชิงแชมป์อาเซียน ส่วนใหญ่ก็เป็นนักเตะจากไทยลีก 2 ขณะที่ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ถือว่าได้ชุดเต็มมาลงเตะ เพราะถือเป็นรายการสำคัญและตรงกับฟีฟ่าเดย์ด้วย  

แต่พอมาในเอเชี่ยนเกมส์ อย่างที่บอกไปว่าส่วนใหญ่ก็เป็นนักเตะที่ทีมไทยลีกเขาไม่ได้ใช้งานเป็นตัวหลักก็เลยปล่อยมาให้ทีมชาติไทย แล้วก็เป็นนักเตะจากลีกรองที่มารวมตัวกันไปลุยเอเชี่ยนเกมส์

ซึ่งทีมชุดนี้ก็มีเวลาเตรียมทีมกัน 2-3 วัน ก่อนจะบินไปเมืองจีนในวันที่ 16 ก.ย.นี้ มีเวลาปรับตัวที่จีนประมาณ 2-3 วันก่อนลงสนามนัดแรก

ดังนั้นสิ่งที่อยากจะบอกก็คือผมค่อนข้างเห็นใจโค้ชอิสระ ถ้าไปถามแน่นอนว่าโค้ชหระคงต้องการนักเตะที่มันชุดเต็มกว่านี้ มีหลายคนที่เขาอยากได้ตัวไปช่วย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ ก็เลยต้องก้มหน้าก้มตาเอานักเตะเท่าที่ได้ไปแข่งขัน

และที่อยากจะบอกอีกอย่างก็คือ เราอย่าไปตั้งความหวัง หรือคาดหวังอะไรให้มันใหญ่เกินตัว อย่าไปคิดว่าเราจะต้องชนะ ต้องเข้ารอบน็อคเอาท์ ซึ่งถ้าทำได้มันสุดยอด แต่บอกเลยว่ามันยากมาก เพราะเราต้องเจอทั้ง บาห์เรน, เกาหลีใต้ และ คูเวต ถ้าผ่านได้ผมนี่นับถือเลย

เพราะฉะนั้นอย่าคาดหวังสูง ถ้าผลลัพธ์มันออกมาไม่น่าพอใจ ก็อย่าเพิ่งไปด่าไปวิจารณ์กันในโซเชี่ยล ให้ดูจากที่ไปที่มาด้วย ว่าศักยภาพของเราเป็นอย่างไรก่อนเดินทางไปครั้งนี้

แล้วคราวนี้ถามว่าแล้วเราจะคาดหวังหรือจะเชียร์ทีมชาติไทยอย่างไร ในเมื่อบอกไม่ให้คาดหวังแบบนี้ ส่วนตัวผมแค่อยากเห็นเราเล่นได้ดี สู้ได้อย่างไม่เป็นรองมาก สู้กันเต็มที่ ถ้าแพ้ก็ขอให้แพ้แบบสู้ได้ หรือถ้าชนะได้มันก็ยิ่งดี เพราะยังไงแล้วเมื่อลงสนามเราก็อยากเห็นทีมชาติไทยชนะอยู่แล้ว

ดังนั้นอยากจะบอกว่ามันไม่ง่ายเลยกับการที่จะคุมทีมชาติไทย ที่เป็นทีมเดียวกัน แต่นักเตะเป็นคนละชุดสามรายการติดแบบนี้ 

สุดท้ายก็ขอเอาใจช่วยโค้ชหระ และน้องๆ นักฟุตบอลทีมชาติไทย ไปสู้อย่างเต็มที่ และอย่าลืมว่ามีธงไตรรงค์ติดอยู่ที่อกข้างซ้าย จงสู้อย่างสมศักดิ์ศรี และภูมิใจที่ได้ติดทีมชาติไทย ยังไงคนไทยทั้งประเทศก็พร้อมเชียร์อยู่แล้ว

ปิดท้ายที่โปรแกรมของทีมชาติไทยในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งนี้ เผื่อใครจะรอเชียร์ทีมชาติไทยของเรา

  • วันที่ 19 กันยายน 2566 
    15.00 น. บาห์เรน พบ ทีมชาติไทย ที่ จินหัว สเตเดียม (ถ่ายทอดสด THAI PBS3)

  • วันที่ 21 กันยายน 2566 
    18.30 น. ทีมชาติไทย พบ เกาหลีใต้ ที่ จินหัว สเตเดียม (ถ่ายทอดสด 5 HD1)

  • วันที่ 24 กันยายน 2566 
    18.30 น. ทีมชาติไทย พบ คูเวต ที่ สนาม มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงตะวันออก (NBT 2HD)

#ชิชาริเต่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline