logo-heading

ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2023/24 ผ่านพ้นไปแล้ว 4 นัดด้วยกัน ใครจะเชื่อว่าทีมอย่าง "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ไทยลีก 4 สมัย ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น 4 เกมที่ผ่านมาเก็บได้เพียงคะแนนเดียว จากการเสมอ 1 แพ้ไป 3 ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเสียไปถึง 9 ประตู และยิงได้ 3 ประตูเท่านั้น

โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่พวกเขาบุกไปพ่ายให้กับบีจี ปทุมฯ แบบหมดรูป 5-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จนทำให้ล่าสุด มาริโอ ยูรอฟสกี้ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งอีกครั้ง แต่ก็ต้องรอดูอีกทีว่าสุดท้ายจะได้กลับมาคุมทีมอีกรอบไหม เพราะที่ผ่านมาพอเจ้าตัวขอลาออกแต่สุดท้ายบอดร์ดบริหารก็จะเบรกไว้ก่อนแล้วหาคนมาช่วยอย่างก่อนหน้านี้มี มิโลวาน ราเยวัช รวมไปถึง มิลอส โจซิค ที่เคยเข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษาแล้วทำให้ทีมมีผลงานดีขึ้น

จะอย่างไรก็แล้วแต่ ในช่วง 4 เกมแรกอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ผลงานของกิเลนผยองที่ตอนนี้เหมือนจะผยองไม่ออก และออกสตาร์ทได้น่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ ไปวิเคราะห์พร้อมกันในขอบสนามอินไซด์วันนี้ครับ 

โดย 4 เกมแรกที่เมืองทอง มีผลการแข่งขันที่ไม่ดี หลักๆ น่าจะมาจากเหตุผลดังต่อไปนี้

1.โปรแกรมที่หนักถึงหนักมาก

โปรแกรม 4 นัดแรกของเมืองทอง ยูไนเต็ด ถือว่าหนักถึงหนักมากเพราะต้องเจอกับทีมหัวตารางหมดเลย ไล่ตั้งแต่เกมแรกกับเชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่งเมืองทองก็แพ้คาบ้าน 0-1 ต่อด้วยเกม 2 บุกไปเจ๊ากับทรู แบงค็อก 0-0 ต่อด้วยแพ้คาบ้านเกมที่สองต่อการท่าเรือ 1-3 และเกมล่าสุดก็บุกไปโดนบีจี ปทุมฯ ถลุงถึง 5-2 ทั้งๆ ที่เกมนี้กิเลนผยองบุกไปนำได้ก่อนด้วย แต่สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว นัดต่อไปจะต้องเปิดบ้านเจอนครปฐม จะว่าเบาก็เบา จะว่าหนักก็หนัก เพราะนครปฐมทีมน้องใหม่ทพผลงานได้ไม่ธรรมดา

จากนั้นแม้ว่าโปรแกรมจะไม่หนักเท่าช่วงแรกแต่พวกเขาต้องเล่นเกมเยือนถึง 8 นัดติด เนื่องจากสนามธันเดอร์โดมติดงานคอนเสิร์ต ทำให้ต้องสลับโปรแกรมในบ้านไปเล่นทีมเยือน และโปรแกรมที่ออกมาก็คือเยือน 8 เกมติด หนึ่งในนั้นคือเกมบุกเยือนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วย แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว

2.ยังหาทีมที่ลงตัวไม่ได้

เท่าที่ดูมา 4 เกมแรก เหมือนมาริโอ และเมืองทอง จะยังหา 11 ผู้เล่นที่ลงตัวไม่ได้ สับเปลี่ยนไปเรื่อยในแต่ละเกม กองหลังตอนนี้ก็หาชุดที่ลงตัวไม่ได้ โดยเฉพาะแบ็กซ้ายที่ก่อนหน้านี้ 3 นัดแรก เอากองกลางอย่าง ธีรภัทร เลาหบุตร ไปเล่นจนแฟนบอลถามว่าจะซื้อแบ็กซ้ายใหม่มา 2 คนทำใหม่ นั่นก็คือ ณัฐวัฒน์ โทบ้านซ้ง กับ สุวิทย์ ไปพรมราช โดยในรายแรกมาทราบภายหลังว่ามีอาการบาดเจ็บ

ขณะที่ในรายของ สุวิทย์ ก็ได้ลงเล่นในเกมล่าสุด ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ อย่างกองกลางมี วีระเทพ ป้อมพันธุ์ กับ พิชา อุทรา เป็นตัวยืน ขณะที่ 3 แนวรุกลงตัวแล้วคือ วิลเลี่ยน พ็อพพ์ ทางขวา, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ทางซ้าย และ สเตฟาน เชโปวิช เป็นหน้าเป้า แต่ก็ยังไร้ประสิทธิภาพยิงไปได้แค่ 3 ประตูอย่างที่บอก 

3.วิลเลี่ยน พ็อพพ์ กับ เชโปวิช ยังไม่เข้าขากัน

สำหรับตัวต่างชาติที่เป็นความหวังในการทำประตูทั้ง วิลเลี่ยน พ็อพพ์ กับ สเตฟาน เชโปวิช ก็ยังจูนกันไม่ติด เล่นกันยังไม่เข้าขากัน และดูเหมือนว่าทั้งคู่จะไม่ค่อยฟิตด้วยในช่วงแรก ถึงตอนนี้แม้จะฟิตแล้วแต่มันก็ยังเล่นได้ไม่เข้าขากัน โดยเฉพาะ เชโปวิช ที่ยังยิงประตูแรกไม่ได้เลย

4.ดาวรุ่งเยอะเกินไป

ในทีมเมืองทองตอนนี้ดูเหมือนจะมีดาวรุ่งเยอะเกินไป มันไม่มีตัวเก๋ามากประสบการณ์ที่มาคอยประคองน้องๆ จริงๆ ใช่ดาวรุ่งเป็นเรื่องดี แต่ใช้เยอะไปก็ไม่ดี ซึ่งในทีมควรจะมีตัวเก๋าสัก 2-3 คน ที่คอยกระตุ้นและคอยประคองในทีมบ้าง

5.ขาดความกระหาย

สุดท้ายคงเป็นเรื่องความกระหาย ที่ดูเมืองทองชุดนี้เล่นได้ไม่สนุกเหมือน 2 ฤดูกาลก่อน มันยังดูเนือยๆ เฉื่อยๆ ไม่มีทีเด็ด หรือมีอะไรให้แฟนบอลได้ตื่นเต้น ซึ่งถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แฟนบอลอาจจะหายก็ได้

ถึงตอนนี้ที่ต้องตามกันต่อก็คือบอร์ดบริหารของเมืองทอง จะเอายังไงต่อไปหลังจากที่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ขอลาออก จะให้มาริโอได้ไปพัก แล้วหาคนใหม่เข้ามาคุมทีมแทน แต่ก็ต้องดูว่าในช่วงเวลานี้จะมีใครที่เหมาะสม หรือกล้ารับเผือกร้อนนี้หรือเปล่า

หรือบางที่อาจจะเบรกการลาออกของ มาริโอ เหมือนกับ 2 ครั้งที่ผ่านมา แล้วให้เจ้าตัวคุมทีมต่อไป หาคนมาช่วยทำทีมอีกแรง ทุกอย่างก็ยังเป็นไปได้ ทั้งหมดนี้ต้องรอดูความชัดเจนของทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด ว่าพวกเขาจะกลับมาทำผลงานได้ดีหรือไม่ และจะกลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นหัวตารางเหมือนที่ควรจะเป็นหรือเปล่า

สุดท้ายก็ขอเอาใจช่วยให้ทีมกิเลนผยอง กลับมาผยองได้อีกครั้ง และหวังว่าจะกลับมาทำผลงานได้ดีขึ้นหลังจากนี้


#ชิชาริเต่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline