logo-heading

หลังจากที่ "คุณเดียร์" วทันยา บุนนาค อดีตผู้จัดการทีมทีมชาติไทย ชุดยู23 ได้ออกมาโพสต์ให้กำลังใจรุ่นพี่ในการทำทีมชาติอย่าง "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่กำลังโดนกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง

ล่าสุด ทีมงานขอบสนามบอลไทย ถือโอกาสขอพาไปพูดคุยกับ "คุณเดียร์" แบบเต็มๆ อีกครั้งในฐานะของอดีตคนที่อยู่ในวงการฟุตบอลไทยว่าจะมองฟุตบอลไทยในปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรบ้าง

รวมไปถึงกำลังใจที่ตัวของ "คุณเดียร์" อยากมอบให้กับ "มาดามแป้ง" และ "นักเตะ" ทีมชาติไทยในช่วงเวลาที่ต้องเจอกับอะไรที่ย่ำแย่แบบนี้ 

“ตอนนี้เราดูในฐานะแฟนบอลเราอยากให้ทีมชาติไทยชนะ แต่พอสกอร์มันจบมาด้วยความพ่ายแพ้ เราก็เสียดาย และพอเราเคยเป็นคนที่อยู่ข้างใน มันก็อาจจะมีความรู้สึกที่เข้าใจในอีกมุมนึงที่ทับซ้อนขึ้นมาอีกว่า คนที่อยู่ข้างในทีมเสียใจยิ่งกว่า เวลาที่ทุกๆ คนทำงานมาไม่มีใครอยากแพ้หรอก มันก็เหมือนกับแฟนบอลที่ไม่อยากเห็นทีมชาติไทยแพ้ แต่ต้องนึกถึงคนที่อยู่ข้างในที่เขาซ้อมมา เขาลงสนาม เขาเตรียมตัวมา เขาก็หนักมากๆ เหมือนกัน”

“อย่าง คุณแป้ง (นวลพรรณ ล่ำซำ) คงมีอะไรมากกว่าการทำงานแน่ๆ เพราะเขามีค่าใช้จ่ายที่ต้องออกเงินอีกด้วย เขาเป็นคนทุ่มเท เขาเป็นคนที่อยู่ในงานด้วย ไม่มีใครอยากแพ้หรอก แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามอันนั้นก็ต้องว่ากันไป”

“แต่สำหรับตัวเดียร์ตอนที่ทำงานเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย (ยู 23) ก็อ่านคอมเมนต์นะ ยอมรับเลยว่าเจอคอมเมนต์ไหนที่ไม่ดีมากๆ ก็ต้องฝึกจิตเยอะอยู่เหมือนกัน แต่จะพยายามสกรีนอ่านคอมเมนต์ที่เขียนด้วยเหตุและผล ซึ่งก็จะเก็บมาอ่านทั้งหมดเผื่อเราจะได้เข้าใจว่าปัญหาอยู่ตรงไหน เป็นเสมือนการรับฟังมุมมองที่สะท้อนมาจากคนข้างนอก ที่อาจจะทำให้เราได้เห็นภาพของปัญหาได้กว้างกว่าเดิม”

“และพอเห็นคอมเมนต์จากแฟนบอลและกระแสในโซเชียลในหลายๆ ทางเลยเข้าใจความรู้สึกของคนที่แพ้ และอย่างยิ่งคนที่อยู่ในทีมแล้วแพ้ แค่เขาแพ้ก็เจ็บปวดจะตายอยู่แล้ว ส่วนตัวยังจำโมเมนต์ตอนที่ ทีมชาติไทย แข่งเสมอกับ อินโดนีเซีย ในซีเกมส์ ซึ่งแค่เสมอนะ แต่พวกเราเดินคอตกกันเหมือนแพ้ มันเหมือนอะไรๆ ก็เฟลห่อเหี่ยวไปหมดในช่วงเวลาแบบนั้น”

"จริงๆ ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วที่เห็นข่าวและเห็นกระแสเลยโทรไปหาคุณแป้ง และได้คุยกันได้ให้กำลังใจกันไปแล้ว เราฟังจากเสียงก็รู้เลยว่าหนักพอสมควร และได้ยินมาว่าคุณแป้งถึงขั้นนอนไม่หลับเลยกับผลการแข่งขันที่มันออกมาเมื่อวานนี้ ก็บอกไปว่าเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”

“สำหรับเดียร์เองมองว่าคุณแป้งเป็นผู้หญิงนักสู้คนนึง และเขาก็ทำอะไรกับฟุตบอลไทยมาเยอะ ตั้งแต่ระดับลีกไปจนถึงระดับทีมชาติ ทางที่เขาเข้ามาเขาต้องทุ่มเทและเสียสละทั้งเวลา รวมไปถึงทุนทรัพย์ต่างๆ ด้วย ถ้าคนใจไม่ใหญ่พอทำมาถึงจุดนี้ไม่ได้ ดังนั้นมองว่าในเวลาแบบนี้ต้องให้กำลังใจกันมากกว่า เราอาจจะติติงกันได้ แต่ต้องเป็นการติเพื่อก่อเพื่อเอาความผิดพลาดไปปรับปรุง แต่การมาด่ากันว่ากันแบบสาดเสียเทเสียแบบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลยมันไม่ใช่เวลาในตอนนี้ เพราะเอาจริงๆ คุณแป้ง ไม่ต้องลงมาทำอะไรแบบนี้ให้โดนว่าก็ได้ แต่เพราะใจรักในฟุตบอลไทยเลยลงมือลงแรงมาจนถึงตอนนี้” 

“ส่วนน้องๆ อยากให้กำลังใจทุกคนเพราะเชื่อว่านักฟุตบอลทุกคนเวลาซ้อมอย่างหนัก แล้วต้องลงไปเล่นไม่มีใครอยากแพ้หรอก แต่ที่สำคัญคือทุกคนแบกรับความกดดันเพื่อเอาความสุขกลับมาให้คนไทย แต่ฟุตบอลมันคือ 90 นาทีในสนาม ถึงจะแพ้แต่ก็ไม่อยากให้น้องๆ เอา 90 นาทีตรงนั้นมาเป็นตัวตัดสินความสามารถหรือมาลดทอนกำลังใจของตัวเอง เพราะเมื่อมันจบเกมตรงนั้นก็คือจบ แต่มันยังมีโอกาสหน้าเสมอ ขออย่าให้ลดละความพยายามและจงตั้งใจต่อไป”

“สำหรับเกมกับ สิงคโปร์ ยังมั่นใจในทีมฟุตบอลของเราเสมอ แน่นอนเมื่อเราเจอกับเขาที่หลายๆ อย่างเป็นรองเราทั้งจำนวนทางเลือกผู้เล่น, การแข่งขันลีก ซึ่งเราได้เปรียบกว่าและมีแต้มต่อมากกว่าเขา และที่ผ่านมาช่วงหลังๆ ตอนเจอกันเราก็ชนะมาตลอด แม้ว่าในสมัยนี้เรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬาจะทำให้ฟุตบอลของทั้งสองชาติมีความใกล้เคียงกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เชื่ออยู่เสมอตั้งแต่ได้ทำฟุตบอลไทยมาคือ ความคิดและจิตใจของนักเตะของเราดีกว่า ดังนั้นเราจงใช้ประโยชน์ตรงนี้ในการเอาชนะ สิงคโปร์ ให้ได้เหมือนที่เคยทำได้ก่อนหน้านี้ ขอให้นักบอลทุกคนลงสนามไปด้วยความมั่นใจ และจงอย่าเอา 90 นาทีที่แล้วมาบั่นทอน 90 นาทีที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป”

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทย จะต้องบุกไปเยือน สิงคโปร์ ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline