ขอบสนาม x SoccerGate รายการ "Young ไง คัพ" รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ณ ขอบสนาม อารีน่า พระราม 9 จบลงไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยเป็น Sport Soccer จากจังหวัดกำแพงเพชร โชว์ผลงานอย่างยอดเยี่ยม เล่นเกมรับอย่างอดทน ก่อนจะใช้ทีเด็ด ยิงปลิดชีพเฉือนเอาชนะ พระแม่มารีสาทร ไปแบบสุดมันส์ 1-0 คว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง
ส่วนรูปเกม หรือ มีประเด็นอะไรต้องพูดถึงของคู่ชิงชนะเลิศ "Young ไง คัพ" รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี" ไปติดตามกันเลยครับ
เกมคุณภาพระดับห้าดาว
หลังจากเสียงนกหวีดเริ่มเกมดังขึ้น ทั้ง Sport Soccer กับ พระแม่มารีสาทร ก็ได้เข้าไปบู๊ใส่กันอย่างดุเดือด ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว ทั้งฝ่ายเปิดเกมรุกใส่กันแบบไม่มีกั๊ก โต้กันกลับไปกลับมา ทำให้เกมเดินต่อเนื่องตลอดเวลา สมศักดิ์ศรีกับการเป็นคู่ชิงชนะเลิศ
ด้วยความมันหยดย้อยของแมตช์นี้ มันช่วยปลุกเร้าอารมณ์ของคนดู และเพิ่มเสียงเชียร์ให้ดังขึ้นไปอีก ทำให้ผู้ชมแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ ทุกการส่งบอล การเลี้ยงบอล และการเข้าสกัด ต่างเต็มไปด้วยอารมณ์และความกระหายในชัยชนะ
เสียงเชียร์ดังกึกก้องไปทั่วสนาม สะท้อนถึงการเล่นอันน่าตื่นเต้น เสียงคำรามอันดังกึกก้องของผุ้ชนเป็นการแสดงออกถึงความยินดี ความตื่นเต้น และความหลงใหลอันบริสุทธิ์ต่อการแสดงอันตระการตาที่กำลังปรากฏบนสนาม
บุกเพลินจนโดนโต้กลับ
ท่ามกลางการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างทีม โรงเรียนพระแม่มารีสาทร และทีม Sport Soccer กำแพงเพชร ช่วงเวลาสำคัญก็ได้อุบัติขึ้น และเปลี่ยนเส้นทางของเกมไป ซึ่งจุดเปลี่ยนเกมของแมตช์นี้เกิดขึ้นเมื่อทีม พระแม่มารีสาทร เสียบอลและทางคู่ต้อสู้ก็ได้ฉวยโอกาสนี้ การโต้กลับอย่างรวดเร็ว
เกมดำเนินไปเรื่อยๆและดูเหมือนว่า ทีมโรงเรียนพระแม่มารีสาทร จะมีโอกาสในการทำเกมรุกมากกว่าทีม Sport Soccer กำแพงเพชร โดยทีมพระแม่มารีสาทรบุกมาถึงหน้ากรอบประตูของอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ไม่สามารถเจาะผ่านทะลุแนวหลังคู่แข่งเข้าไปได้
เมื่อคุณมีโอกาสและความได้เปรียบอยู่ในมือ แต่ไม่สามารถคว้าความได้เปรียบนั้นมาครอบครองได้ คุณก็จะถูกลงโทษจากคู่ต่อสู้ได้เช่นกัน โดยจังหวะที่ทางฝั่งของ พระแม่มารีสาทร ยิงออกไปและกลายเป็นว่าทีม Sport Soccer ฉวยโอกาสเล่นบอลสวนกลับเร็ว โดยจ่ายบอลทะลุช่องไปให้กองหน้าและจบสกอร์ได้ทำให้ช่วยให้ทีมขึ้นนำคู่แข่งและกลุ่มความได้เปรียบเอาไว้ได้
รับแน่นทุกจุด
ด้วยผลสกอร์ที่เฉือนชนะกันไปได้เพียง 1 ประตู แม้ว่าโอกาสยิงหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครสามารถยิงประตูได้เลย ซึ่งเกิดจากการที่ทั้งสองทีมมีเกมรับที่ยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ยากที่จะหาโอกาสหรือช่องว่างในการทำประตูได้
ทีมโรงแรียนพระแม่สาทร อาศัยการกดดันแดนบน เพื่อที่จะได้แย่งบอลจากคู่ต่อสู้ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ คล้ายๆกับสไตล์การเล่นของลิเวอร์พูลในปัจจุบันที่ เน้นการดันไลน์เกมรับให้สูง เพื่อเอาบอลกลับมาครองไห้ได้
ส่วนทางทีม Sport Soccer ก็อาศัยการบีบพื้นที่เร็วเหมือนคู่ต่อสู้ แต่จะแตกต่างกันตรงที่ว่าเวลาการเข้าบอล หรือเวลาเล่นเกมรับ ทีมนี้จะใช้ผู้เล่น 2 คนไล่บีบช่วยกัน ตรงกันข้ามกับฝั่งนั้นที่ใช้ผู้เล่นเพียงคนเดียวในการไล่บีบ
พักน้อยแต่เต็ม 100 %
Sport Soccer เพิ่งจะเตะเกมในรอบรองชนะเลิศจบ ทำให้มีเวลาพักน้อยกว่าทีม โรงเรียนพระแม่สาทรแต่ในเกมนี้ทั้ง 2 ทีมก็เล่นได้อย่างสูสีไม่ได้มีภาพของการหมดแรงใดๆเกิดขึ้น ซึ่งสไตล์การเล่นของ ทีม มันช่วยในการแบ่งเบาภาระของทีมได้ในระดับหนึ่ง จากสไตล์การเล่นแบบตั้งรับแล้วรอสวนกลับ ไม่ได้กดดันคู่แข่งสูงเกินไปทำให้เซฟพลังงานของนักเตะได้
ในขณะที่ทีมโรงเรียนพระแม่มารีสาทรเล่นบอลสไตล์ ไดเร็ค พาสซิ่ง หรือเอาที่เข้าใจง่ายๆก็คือ การจู่โจมคู่ตัวสู้ด้วยการโยนบอลยาวขึ้นหน้า แล้วให้กองหน้าเก็บบอลลงเล่น ซึ่งตลอดทั้งเกมเนี่ยทั้ง 2 ทีมสู้กันได้อย่างสมศักดิ์ศรีกับคำว่ารอบชิงชนะเลิศ
