“กิตติไกร” โพสต์โต้หลังแยกทาง สมุทรปราการ ซิตี้ ยืนยัน “ไม่จริงทั้งหมด”

จากกรณีที่ สมุทรปราการ ซิตี้ สโมสรจากศึก ไทยลีก 2 ออกมาประกาศผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจสโมสรว่าได้ตกลงยกเลิกสัญญากับ กิตติไกร จันทะรักษา กองกลางของทีม และเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูกนักเตะกล่าวให้ร้ายกับสโมสรจนทำให้เสียชื่อเสียง รวมไปถึงการได้เข้าไปพัวพันกับการเล่นพนันฟุตบอลนั้น

ล่าสุด อดีตมิดฟิลด์ ทีมชาติไทย ชุดรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ได้ออกมาโพสต์เคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวทันทีหลังสโมสรออกแถลงการณ์ได้ไม่นาน โดยยืนยันจากการแถลงนั้นว่าไม่ใช่ความจริงไปทั้งหมด

"เรียน..พี่ๆสื่อข่าวและแฟนบอลไทยที่นับถือ

ผม..นายกิตติไกร จันทะรักษา(นิว)

อดีตนักฟุตบอลทีมสมุทรปราการ ซิตี้ ที่กำลังเป็นข่าวทางลบแทบทุกสื่อกีฬาอยู่ในขนาดนี้ สิ่งที่ผมจะขออนุญาตออกมาพูด/เขียนผ่านFacebookสวนตัว เพื่อเป็นการปกป้องเกียรติศักดิ์ศรีของตัวผมเอง ครอบครัว และหน้าที่การงานของผม 

ผมอาจเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เคยพลาดผิด หลงใหลไปกับอบายมุขและยังคิดไม่ได้ในเมื่อก่อน แต่พอเกิดปัญหาที่ทำให้ได้บทเรียน ผมจึงคิดได้ และก้มหน้าก้มตาทำงานใช้หนี้มาตลอด และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่กลับไปทำอีก เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้ยุ่งกับมันอีกเลย

สิ่งที่ผมอยากขอชี้แจง

1. เรื่องที่ทางสโมสรบอกว่าได้จ่ายเงิน 300,000 บาท เพื่อใช้หนี้พนันให้ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และใช้ไปเพียงแค่ประมาณ 100,000 กว่าบาท ซึ่งทางสโมสรตกลงว่าจะใช้หนี้ดังกล่าวให้ และรับเงินเดือนปกติ จึงถือเป็น “หนี้บุญคุณ” ที่ต้องแยกแยะกับเงินเดือน ที่ผมมีสิทธิ์เรียกร้อง

2. เรื่องที่กล่าวหาว่าโพสต์ก้าวล่วงสโมสร ในวันที่ผมโพสต์ ผมเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ในเรื่องที่เคยสัญญากันไว้ ที่ว่าตกลงใช้หนี้ให้ ซึ่งถือเป็นบุญคุณกันไป และรับเงินเดือนปกติ และผมก็ลงเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้อย่างเต็มที่ อีกทั้งเซ็นสัญญาระยะยาว 2 ปี แต่สุดท้ายมาให้เหตุผลว่าไม่ให้เงินเดือน และถือเป็นการชดใช้หนี้

3. ผมไม่ได้โดนไล่ออกหรือโดนตะเพิดออกจากสโมสร ผมออกจากสโมสรด้วยการตกลงกันด้วยดีทั้งสองฝ่าย และได้ใบโอนย้ายมาเรียบร้อยแล้ว และในขณะนี้ได้เซ็นสัญญากับต้นสังกัดใหม่ในช่วงเลกที่ 2 ซึ่งผมยังไม่ขอเปิดเผย

ส่วนหลักฐานที่ทางสโมสรโพสต์ลงบนสื่อโซเชี่ยล ทางผมจะทำการลงบันทึกประจำวัน เพื่อเป็นหลักฐาน ว่าสิ่งที่สโมสรโพสต์นั้นไม่เป็นความจริงทั้งหมด และทำให้ผมเกิดความเสียหายและเกิดความเกลียดชังบนโลกโซเชี่ยล

ขอบคุณครับ"