logo-heading

เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ ศึกฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2023 ที่มาแข่งขันกันในปี 2024 ก็จะเปิดฉากฟาดแข้งขึ้นที่ดินแดนแห่งทะเลทราย ประเทศกาตาร์ เจ้าภาพฟุตบอลโลก หนล่าสุด ซึ่งตอนนี้แต่ละชาติก็อยู่ในระหว่างการประกาศรายชื่อผู้เล่น 26 คน และเข้าแคมป์ฝึกซ้อม เตรียมทีม ลงอุ่นเครื่องกัน บางทีมก็เดินทางไปถึงที่กาตาร์แล้ว 

ขณะที่ทีมชาติไทยของเรา หลังเสร็จสิ้นภารกิจในเกมอุ่นเครื่องนัดพิเศษในวันขึ้นปีใหม่ ที่บุกไปพ่ายญี่ปุ่น 5-0 เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา และเดินทางกลับมาถึงไทยเมื่อวันที่ 2 มกราคม ในระหว่างนี้ก็ปล่อยให้นักเตะได้มีเวลาพักผ่อนกับครอบครัว หลังไม่ได้หยุดช่วงปีใหม่ และมีนักเตะของ ทรู แบงค็อก กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังมีภารกิจลงเตะนัดตกค้างไทยลีก เลกแรก ที่จะพบกันวันที่ 6 มกราคมนี้อีกหนึ่งนัด

ซึ่งหลังจบแมตช์ดังกล่าว นักเตะทีมชาติไทย ถึงจะเดินทางมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 มกราคมนี้ ก่อนจะเดินทางไปกาตาร์ ในวันที่ 11 มกราคมต่อไป เพื่อลงทำการแข่งขันเอเชี่ยน คัพ

โดยตอนนี้สิ่งที่กำลังเป็นประเด็นดราม่ากันในโลกโซลเชี่ยลก็คือ การเก็บตัวฝึกซ้อมของทีมชาติไทย ที่เว้นระยะถึง 5 วันหลังจบเกมอุ่นเครื่องถึงจะมาเก็บตัวฝึกซ้อม ซึ่งแฟนบอลส่วนใหญ่รวมทั้งกูรูในวงการฟุตบอลมองว่าควรจะเอาเวลานี้มาเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อเรียกความฟิตก่อนถึงทัวร์นาเม้นท์สำคัญ แทนที่จะปล่อยให้นักเตะพักนานขนาดนี้ แล้วต้องมาเรียกความฟิตกันใหม่ 

เทียบแผนเก็บตัว \"ทีมชาติไทย\" ในเอเชี่ยน คัพ 2019 กับ 2023 ต่างกันตรงไหน

ย้อนกลับไปในศึกเอเชี่ยน คัพ 2019 ที่ยูเออี โดยตอนนั้นทีมชาติไทยคุมทัพโดย มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบีย ซึ่งตอนนั้นไทยลีก ยังแข่งขันกันจบในปีเดียว ทำให้หลังจบฤดูกาลสามารถเรียกนักเตะมาเข้าแคมป์ซ้อมได้แบบไม่มีปัญหาเรื่องโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลลีก

โดยตอนนั้นทีมชาติไทยเริ่มซ้อมวันแรกคือ 20 ธันวาคม 2018 ก่อนจะลงสนามนัดแรกในเอเชี่ยน คัพ 2019 คือ วันที่ 6 มกราคม 2019 ซึ่งก็มีเวลาฝึกซ้อมกว่า 17 วัน โดยเป็นการซ้อมอยู่ที่ไทย 10 วัน และเดินทางวันที่ 29 ธันวาคม ถึงยูเออี วันที่ 30 ธันวาคม โดยมีเกมอุ่นเครื่องกับโอมาน 1 นัด ก่อนลงสนามเกมแรก

เทียบแผนเก็บตัว \"ทีมชาติไทย\" ในเอเชี่ยน คัพ 2019 กับ 2023 ต่างกันตรงไหน

ขณะที่ในศึกเอเชี่ยน คัพ 2023 ที่แข่งขันในปี 2024 ฟุตบอลไทยลีก ของเราเปลี่ยนมาเตะแบบข้ามปี ซึ่งมีเกมตกค้างเลกแรก ติ่งอยู่ 1 นัดก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นท์ ซึ่งทาง มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น เลือกที่จะให้นักเตะได้พักเต็มที่และมาเข้าแคมป์ซ้อมวันแรกกันในวันที่ 7 มกราคมนี้ ซึ่งเรามีโปรแกรมนัดแรกพบ คีร์กีซสถาน ในวันที่ 16 มกราคม

เท่ากับว่าเราจะมีเวลาซ้อมทั้งหมดประมาณ 9 วัน โดยจะซ้อมที่ไทย 4-5 วัน มีรายงานว่าจะมีเกมอุ่นเครื่องแบบปิด 1 นัดกับ ทีมชาติไทย ยู23 วันที่ 10 มกราคม และจะเดินทางไปกาตาร์ วันที่ 11 มกราคม ก็จะมีเวลาฝึกซ้อมที่กาตาร์อีกประมาณ 4 วัน ก่อนลงสนามนัดแรก

โดยในเอเชี่ยน คัพ 2019 เรามีเวลาเตรียมทีมเยอะก็จริง แต่นัดแรกเราก็ทำผลงานได้น่าผิดหวังด้วยการพ่ายอินเดีย 4-1 จนนำมาซึ่งการปลด ราเยวัช หลังคุมทีมแค่เกมเดียวในเอเชี่ยน คัพ และเป็น "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ขัดตาทัพจนจบทัวร์นาเม้นท์ ซึ่งสามารถพาไทยผ่านเข้าสู่รอบสองหรือ รอบ 16 ทีมได้ ก่อนจะไปแพ้ จีน 2-1 ตกรอบ

ซึ่งก็ต้องมารอดูว่าในเอเชี่ยน คัพ 2023 ที่มีเวลาซ้อมรวมๆ 10 วัน ทีมช้างศึกของเราจะไปได้ไกลแค่ไหน

 

ทั้งนี้นักกีฬาทั้ง 26 คน จะต้องเดินทางมารายงานตัว ที่ โรงแรม โนโวเทล ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ในวันที่ 7 มกราคม 2567 เวลา 12.30 น. เพื่อเก็บตัวก่อนจะเดินทางไปกาตาร์ ในวันที่ 11 มกราคม 2567 ต่อไป

สำหรับ การแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023 นั้น ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่มเอฟ ร่วมกับ ซาอุดีอาระเบีย, คีร์กิซสถาน และ โอมาน โดยมีโปรแกรมการแข่งขันดังนี้

วันที่ 16 มกราคม 2567

  • ทีมชาติไทย พบ คีร์กิซสถาน เวลา 21.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ อับดุลลาห์ บิน คอลิฟา สเตเดียม 

วันที่ 21 มกราคม 2567

  • โอมาน พบ ทีมชาติไทย เวลา 21.30 น.(ตามเวลาประเทศไทย) ณ อับดุลลาห์ บิน คอลิฟา สเตเดียม

วันที่ 25 มกราคม 2567

  • ซาอุดีอาระเบีย พบ ทีมชาติไทย เวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline