logo-heading

ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย เตรียมลงสนามพบกับ โอมาน ในศึกเอเชี่ยน คัพ 2023 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สอง สายเอฟ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคมนี้ ซึ่งถือเป็นเกมที่สำคัญต่อทั้งสองทีม กับโอกาสการลุ้นเข้ารอบต่อไป และก่อนที่ทั้งคู่จะพบกันวันพรุ่งนี้ ไปดูสิว่า มีเกร็ดน่ารู้อะไรเกี่ยวกับแมตช์นี้บ้าง

เกร็ดน่ารู้ก่อนเกม ไทย พบ โอมาน

1.ผลงานนัดแรกทั้ง 2 ทีม

ผลงานเกมแรกของทั้งสองทีม ทัพช้างศึก นั้นทำได้ดีกว่า สามารถเอาชนะ คีร์กีซสถาน มาได้ 2-1 เก็บ 3 คะแนนแรกได้สำเร็จ ขณะที่ โอมาน ก็เกือบจะมีแต้มนัดแรก แต่ไปโดน ซาอุดิอาระเบีย ยิงท้ายเกม พ่ายมา 1-2 ทำให้ยังไม่มีคะแนน ดังนั้นเกมนี้จึงมีความสำคัญต่อทั้งสองทีมกับการลุ้นเข้ารอบต่อไป (โอกาสลุ้นเข้ารอบทั้งสองทีมจะไปว่ากันในข้อที่ 10)

2.อับดับโลกห่างกัน 39 อันดับ

อับดับโลกของทั้งสองทีมก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นท์ ถือว่าห่างกันอยู่พอสมควร ถึง 39 อันดับ โดยโอมาน นั้นอันดับดีกว่า อยู่ที่ 74 ของโลก และเป็นอันดับ 10 ของเอเชีย ตอนนี้ ขณะที่ไทยของเรา อันดับ 113 ของโลก เป็นที่ 21 ของเอเชีย ในเวลานี้

3.เคยพบกัน 11 ครั้ง

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม เจอกันมาทั้งหมด 11 ครั้ง ในเกมอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าสถิติเท่ากันเป๊ะ คือ แพ้-ชนะ กันฝั่งละ 5 ครั้ง และเสมอกัน 1 ครั้ง โดยเกมล่าสุดที่พบกัน เป็นแมตช์อุ่นเครื่องเมื่อวันที่ 25 พ.ค.2021 โดยเกมนั้น โอมาน เฉือนชนะไป 1-0

4.เจอกันในเอเชี่ยน คัพ 2 ครั้ง

ขณะที่การพบกันในเอเชี่ยน คัพ ทั้งคู่เคยเจอกันมา 2 ครั้ง ในเอเชี่ยน คัพ 2004 ที่ประเทศจีน เจอกันรอบแรก โอมาน ชนะ ไทย 2-0 ส่วนเกมล่าสุดที่พบกัน เป็น เอเชี่ยน คัพ 2007 ที่ไทย เป็นเจ้าภาพร่วม เล่นกันที่ราชมังคลากีฬาสถาน ไทย เอาชนะไปได้ 2-0 ได้ประตูจาก พิพัฒน์ ต้นกันยา ทั้งสองประตู

5.ไทย ไม่เคยชนะ 2 นัด ในเอเชี่ยน คัพ 

เกมที่แล้วทีมชาติไทย ปลดล็อค ชนะเกมแรกในนัดเปิดสนามเอเชี่ยน คัพ ได้สำเร็จในรอบ 52 ปี 8 ครั้งที่ร่วมแข่งขัน แต่กระนั้น ทีมช้างศึก ก็ยังไม่เคยชนะคู่แข่งได้ 2 เกมในเอเชี่ยน คัพ มาก่อน ดังนั้นหากเกมนี้สามารถเอาชนะโอมาน ได้ ก็จะเป็นครั้งแรกที่ชนะในเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้าย 2 เกม แถมเป็นการชนะสองนัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกด้วย ซึ่งอาจจะเป็นอีกครั้งที่ทีมชาติไทยปลดล็อคและทำลายสถิตินี้อีกครั้ง

6.ผู้ตัดสินมาจากอิหร่าน

สำหรับทีมงานผู้ตัดสินในเกมนี้มาจากประเทศอิหร่าน นำโดย มุอั๊ด บุนยาดิฟาร์ด (ผู้ตัดสินที่ 1), ซาอี๊ด กาเซมี่ (ุผู้ช่วยที่ 1), อิลโดรอม อาลีเรซ่า (ผู้ช่วยที่ 2) และ ฟักฮานี่ อาลีเรซ่า (ผู้ตัดสินที่ 4) ส่วนห้อง VAR คือ อับดุลลอฮ์ ฮัสซัน มูฮัมเหม็ด จากยูเออี

7.นัดที่ 100 ของ "กัปตันอุ้ม"

เกมนี้จะเป็นการลงสนามนัดที่ 100 ของ "ธีราทร บุญมาทัน" กัปตันทีมของเรา ที่รับใช้ทีมชาติมาแล้ว 99 นัด ซึ่งจะเป็นนักเตะคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์ทีมช้างศึกที่ลงเล่นครบ 100 นัด ต่อจาก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ตะวัน ศรีปาน (ธชตวัน ศรีปาน), ดัสกร ทองเหลา และ ธีรศิลป์ แดงดา

8.สังเวียนแข่งขัน

เรื่องสนามแข่งขันในเกมนี้ ทีมชาติไทยจะลงเล่นที่ อับดุลลอฮ์ บิน คอลีฟะ สเตเดี้ยม เป็นนัดที่ 2 หลังจากที่เกมแรกก็ลงเล่นที่สนามแห่งนี้ ซึ่งถือว่าเราน่าจะได้เปรียบอยู่เล็กน้อยในเรื่องของความคุ้นชินสนาม ซึ่งสนามแห่งนี้อยู่ในกรุงโดฮา เป็นสนามเหย้าของสโมสรอัล ดูฮาอิล เอสซี มีความจุอยู่ที่ 10,000 ที่นั่ง 

9.ไทย ประเดิมชุดสีขาว

เกมนี้ทีมชาติไทย จะสวมชุดสีขาวลงสนาม ซึ่งเป็นการประเดิมชุดสีขาวเวอร์ชั่นใหม่นี้ด้วย ก็ต้องมารอดูกันว่าชุดสีขาวจะนำโชคพาทีมช้างศึกเก็บชัยชนะได้หรือไม่

10.สถานการณ์กลุ่ม F

ปิดท้ายที่สถานการณ์ลุ้นเข้ารอบของทั้งสองทีม สำหรับทีมชาติไทย ที่มีอยู่ 3 คะแนนในตอนนี้ โอกาสเข้ารอบก็ถือว่าสูง เพราะอันดับ 3 ในกลุ่มอื่นๆ ยังมีไม่ถึง 3 คะแนน แถมลูกได้เสียติดลบด้วย แต่อย่างไรก็ดีทีมช้างศึกต้องทำผลงานในเกมนี้ให้ดีก่อน หากเก็บได้ 1 แต้มเป็นอย่างน้อยการันตีเข้ารอบแน่นอน หากชนะก็มีลุ้นแชมป์กลุ่มนัดสุดท้าย

ส่วนโอมาน ที่แพ้มาเกมแรก เกมนี้พวกเขาต้องการสามแต้ม เพื่อทำให้สถานการณ์ กลับมาได้เปรียบ แต่หากได้แค่เสมอ หรือแพ้ อาจจะได้ลุ้นแค่อันดับสามที่ดีที่สุดเท่านั้น ซึ่งผลการแข่งขันคืนนี้สำคัญต่อทั้งสองทีมเป็นอย่างมาก

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2023 รอบแรก นัดที่ 2 กลุ่มเอฟ ระหว่าง โอมาน พบ ทีมชาติไทย จะลงสนามในคืนวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2567 เวลา 21.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่สนามอับดุลลอฮ์ บิน คอลีฟะ สเตเดียม ถ่ายทอดทาง PPTV HD 36 และ T-Sports 7

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline