logo-heading

ศึก เอเชี่ยน คัพ นัดที่ 2 กลุ่ม F คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติโอมาน ซึ่งผลปรากฏว่า ช้างศึก ของเรานั้นจบลงด้วยผลเสมอไปแบบโนสกอร์ 0-0 เก็บ 1 แต้มสำคัญได้สำเร็จ ซึ่งแมตซ์นี้มีหลายข้อที่น่าชื่นชมและมีส่วนที่ต้องปรับแก้

วันนี้ ทีมงานขอบสนามบอลไทย จะมาสรุปให้เห็นว่ามีสิ่งใดบ้างที่น่าสนใจมาดูกัน

เป็นอีกแมตซ์สำคัญของ ทีมชาติไทย ของเราเลยก็ว่าได้ เพราะด้วย แรงกิ้งของทีมชาติไทยค่อนข้างที่ห่างชั้นกับทีมชาติโอมานมากพอสมควร โดย ช้างศึก อยู่อันดับที่ 113 ของโลก ขณะที่ ทีมชาติโอมานอยู่อันดับที่ 74 ของโลก บวกกับขนาดรูปร่างของนักเตะที่ค่อนข้างเสียเปรียบ และทักษะความสามารถเฉพาะตัวของคู่แข่งมีเหนือกว่า ซึ่งไม่ใช่แมตซ์ที่ง่ายสำหรับทีมชาติไทย

ทัพ ช้างศึก จัด 11 ผู้เล่น ชุดเดิมเหมือนกับเกมที่พบกับคีร์กีซสถานทุกตำแหน่ง และหวังที่จะมีแต้มในเกมนี้ให้ได้ โดยในเกมครึ่งแรกทั้งสองทีมต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับ ไทยมีโอกาสหลายครั้งที่จะได้ประตู แต่มีจังหวะสำคัญที่พลาดไป อย่างจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน ได้เปิดเตะมุมเข้าไปในกรอบเขตโทษ และ เอเลียส ดอเลาะ ขึ้นโหม่งเต็มศีรษะ ผู้รักษาประตูยังเซฟไว้ได้ บอลกระเด็นไปโดนผู้เล่นโอมานที่ยืนคุมเส้นอยู่ออกไป พลาดโอกาสเป็นประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรกไป สกอร์ยังอยู่ที่  0-0

เริ่มครึ่งหลังเป็นทางทีมชาติโอมานที่กดดันอย่างหนัก เล่นหนักในหลายจังหวะแต่ผู้ตัดสินก็ยังคงนิ่งเฉย ทางทีมชาติไทยพยายามตั้งรับอย่างเหนียวแน่นและใช้เกมสวนกลับสู้ ด้วยความกดดันบวกกับการเข้าบีบเร็วของโอมานทำให้ทีมชาติไทยพลาดหลายจังหวะในการสวนกลับ จบเกมแบ่งแต้มกันไป 0–0 รวม 2 นัด มี 4 คะแนน รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม F ผลเสมอทำให้โอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสดใส

1. เซ็นเซ อิชิอิ คงผู้เล่นชุดเดิม

มาซาทาดะ อิชิอิ จัดผู้เล่น 11 ตัวจริงชุดเดิมในเกมที่เอาชนะคีร์กีซสถาน ซึ่งใช้นักเตะที่มีประสบการณ์จากการลงเล่นในนัดแรก ในเกมนี้นักเตะรักษาวินัยในการเล่นได้ดี และทำหน้าที่ได้ตามที่โค้ชสั่ง เพื่อหวังงัดทีเด็ดจากเกมแรกนำมาใช้กับโอมาน และท้ายที่สุดก็สามารถเก็บแต้มได้ตามเป้าหมาย

2. เอเลียส-พรรษา กำแพงเหล็ก ช้างศึก

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า เซ็นเตอร์แบ็ค 2 รายนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ทีมชาติไทย ไม่เสียประตู ทั้งลูกโด่งและลูกเรียด เก็บกินหมดจด รอดการเสียประตูไปได้ในหลายจังหวะ การจับคู่ของ เอเลียส กับ พรรษา ถือเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ทั้งคู่ทำผลงานออกมาได้น่าพอใจ

3. "ปฎิวัติ" ฟอร์มโดดเด่นเป็นสง่า

หนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานออกมาดีที่สุดในเกมนี้หนีไม่พ้นชื่อของ ปฎิวัติ คำไหม ซึ่งในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม มีปฎิกิริยาการเซฟที่ว่องไว ช่วยเซฟสำคัญหลายจังหวะ นำไปสู่การพาทีมชาติไทย เก็บ 1 แต้ม และขณะนี้ “เจ้าไมค์” ถือเป็นนายด่านที่ อิชิอิ ไว้วางใจให้เป็นมือ 1 ของทีมชาติไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

4. "โก๋อุ้ม" กับนัดที่ 100 ในสีเสื้อช้างศึก

ธีราทร บุญมาทัน ลงสนามครบ 100 นัด ในนามทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการ ในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรายที่ 6 ต่อจาก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ธชตวัน ศรีปาน, ดัสกร ทองเหลา และธีรศิลป์ แดงดา หลังจบเกม อิชิอิ ได้มอบเสื้อให้แก่ ธีราทร โดยบรรยากาศการเฉลิมฉลองเป็นไปอย่างชื่นมื่น

ถึงแม้ทีมชาติไทยได้จะได้ผลเสมอตามเป้าหมาย แต่ก็ยังมีข้อที่ต้องแก้ไขกันต่อไป ทั้งในเรื่องของจังหวะการสวนกลับและการจ่ายบอลไปแดนหน้า โดยในเกมนัดถัดไปทีมชาติไทยจะต้องพบกับทีมจ่าฝูงของกลุ่ม F อย่าง ซาอุดิอาระเบีย

เป็นงานช้างของทัพ ช้างศึก อย่างแน่นอน เพราะนี่คือทีมขาประจำฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และอุดมไปด้วยนักเตะคุณภาพในทุกตำแหน่ง ถึงกระนั้นฟุตบอลไม่ใช่บัญญัติไตรยางค์ ฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ สุดท้ายเชื่อมั่นว่าทีมชาติไทยจะลงสนามด้วยหัวใจมุ่งมั่นและการวางแท็กติกของ มาซาทาดะ อิชิอิ เพื่อเก็บผลการแข่งที่ดีและเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

#Aom Sin

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline