logo-heading

ใกล้ที่จะคัมแบ็คฟาดแข้งกันอีกครั้งสำหรับศึก ไทยลีก ฤดูกาล 2023/24 ในช่วงเลกที่สอง หลังจากหยุดพักเพื่อหลีกทางให้กับทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ในการสู้ศึก เอเชี่ยน คัพ 2023

ก่อนหน้านี้เราได้เจาะถึงความพร้อมของ 2 บิ๊กทีมกลุ่มโซนลุ้นแชมป์อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กันไปแล้ว ซึ่งถึงคราวของ การท่าเรือ เอฟซี กันบ้าง ที่ฤดูกาลนี้มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นอีกทีมที่ท้าทายชิงตำแหน่งแชมป์เต็มตัว มาดูกันหน่อยว่าขุมกำลังพวกเขาดีพอมากน้อยแค่ไหน

ทัพ "สิงห์เจ้าท่า" ภายใต้การนำทัพโดย "โค้ชอ้น" รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กุนซือหนุ่มที่เข้ามารับงานในถิ่น แพท สเตเดี้ยม ก่อนจบเลกแรก และเปลี่ยนแปลงทีมกลับมามีความมั่นใจ และมีผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง

โดยคุมทีมไปทั้งหมด 6 เกม ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 โดยหนึ่งในนั้นมีเกมที่สร้างเซอร์ไพรส์เปิดบ้านคว่ำ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4-1 รวมอยู่ด้วย

ด้านการเสริมทัพในเลกที่สอง การท่าเรือ เอฟซี ได้แข้งรายใหม่เข้ามาสู่ทีมทั้งหมด 4 ราย เริ่มจาก เฟลิเป้ อโมริม อดีตศูนย์หน้าจอมลากเลื้อยชาวบราซิเลี่ยนของ สิงห์ เชียราย ยูไนเต็ด ต่อด้วย อัสนาวี มังกัวลัม แบ็คขวาดีกรีกัปตันทีมชาติอินโดนีเซีย รวมถึง 2 นักเตะที่เรียกกลับมาจากการยืมตัวอย่าง ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ที่โชว์ฟอร์มเด่นกับ ตราด เอฟซี ช่วงเลกแรก และเจนภพ โพธิ์ขี ที่ก่อนหน้าถูกปล่อยให้ โปลิศ เทโร เอฟซี ไปใช้งาน

หากมองดูโดยรวมแล้ว "สิงห์เจ้าท่า" ไม่ได้เสริมชนิดที่หวือหวาเหมือนตลอดที่ผ่านมาด้วยการทุ่มเงินมหาศาลคว้าซูเปอร์สตาร์ดัง แต่เป็นการเสริมตามตำแหน่งที่ต้องการ เพื่อเข้ามาเติมเต็มจากที่มีอยู่ และเพิ่มอาวุธให้หยิบเลือกใช้ตามสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ในรายของ เฟลิเป้ อโมริม แม้เป็นนักเตะที่แฟนบอลหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเอามาทำไม มองว่าศักยภาพทีมสามารถจ้างระดับบิ๊กเนมได้ ประกอบกับเพิ่งปล่อยตัว เนเกบา ปินโต้ แนวรุกชาวบราซิลไปร่วมทัพ ลำพูน วอริเออร์ ด้วยสัญญายืมตัว จึงทำให้ต้องมองหาแข้งรายใหม่ที่อยู่ในเรทไม่โอเวอร์เกินไป และมีสไตล์การเล่นสอดคล้องกับแผนการทำทีมของ "โค้ชอ้น"

ส่วนทางด้าน อัสนาวี มังกัวลัม เรียกว่าเป็นดีลสายฟ้าแลบชนิดที่สร้างเซอร์ไพรส์แบบที่ไม่มีใครคิดมาก่อน โดยช่วงเดตไลน์ของตลาดเลกที่สอง เจ้าตัวยังคงมีคิวรับใช้ ทีมชาติอินโดนีเซีย ลุยศึก เอเชี่ยน คัพ 2023 ก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการจากสโมสร

แน่นอนการเข้ามาของแข้งที่มีสไตล์ฮาร์ดแมนดุดันรายนี้ที่เล่นได้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา จะเข้ามาหมุนเวียนในตำแหน่งของ เควิน ดีรมรัมย์ และ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ที่เป็นตัวหลักของทีมขณะนี้

ฤดูกาลนี้น่าจะเป็นโอกาสขยับเข้าใกล้กับความสำเร็จมากที่สุดกว่าแต่ละฤดูกาลที่ผ่านมาของ "สิงห์เจ้าท่า" จึงเป็นภารกิจสุดท้าทายเพื่อนำความสำเร็จให้สาวก คลองเตย อาร์มี่ ได้ภูมิใจ มารอดูกันว่าฤดูกาลนี้ที่พวกเขาจะทำตามเป้าได้หรือไม่

CHUNKA

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline