logo-heading

จบไปแล้วสำหรับช่วงพักเบรคฟีฟ่าเดย์ กลับมาสู่โหมดฟุตบอลไทยลีกกันอีกครั้ง สำหรับแมตช์เดย์ที่ 22 ซึ่งมีเกมบิ้กแมตซ์หลายคู่ที่น่าสนใจ แต่เราจะโฟกัสคู่ที่เป็นเพื่อนรักเพื่อนแค้นกันมาในช่วงหลังนี้ นั่นคือคู่ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคมนี้

ทีมงานขอบสนามบอลไทย ได้รวบรวม 4 ข้อน่าสนใจก่อนชมเกมบิ๊กแมตซ์คู่นี้จะมีอะไรบ้างมาดูไปด้วยกัน

1. เจ้าบ้านแกะกล่องประเดิมโค้ชใหม่

เมื่อไม่นานมานี้ "ปราสาทสายฟ้า" ได้แต่งตั้ง จอร์จ เด อโมริม คัมโปส หรือ จอร์จินโญ่ เป็นกุนซือคนใหม่แทนที่ อาเธอร์ ปาปาส มีดีกรีนักเตะแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 1994 ซึ่งมีประสบการณ์คุมทีมใน บราซิล ซีรี่ เอ มากมายหลายทีม เช่น ฟลาเมงโก, วาสโก ดา กามา, กอริติบา เอฟซี เป็นต้น และเคยข้ามทวีปมาคุมทีมในเจลีกอย่าง คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ในฤดูกาล 2011-12 มีผลงานพาทีมคว้าแชมป์เจลีก คัพ

การเข้ามาคุมทัพในถิ่น ช้าง อารีน่า ของ จอร์จินโญ่ จะมี เอเมอร์สัน เปไรร่า อดีตเฮดโค้ช สิงห์ เชียงราย ที่เคยพาทีมคว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ 2020/21 ด้วย น่าสนใจว่าการคุมทีมนัดแรกของโค้ช จอร์จินโญ่ จะทำผลงานออกได้ดีและน่าพอใจมากแค่ไหน

2. เจ้าถิ่น ไม่แพ้ ทีมเยือน 9 เกมทุกรายการ 

นับตั้งแต่ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขาดลอย 4-0 เมื่อฤดูกาล 2019 หลังจากนั้นเป็นต้นมาพวกเขาไม่สามารถเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เลย 9 เกมหลังสุดทุกรายการ (แพ้ 7 เสมอ 2) ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้วที่พวกเขายังไม่สามารถเก็บชัยจาก ปราสาทสายฟ้า ได้  

3. กว่าง ไม่เคยบุกมาชนะ สายฟ้า

ยามที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงเล่นในถิ่น ช้าง อารีน่า รับมือกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ผลปรากฏว่าไม่เคยปราชัยเลยแม้แต่เกมเดียว โดยสถิติการเจอกันของทั้งสองทีมในถิ่น ช้าง อารีน่า แบ่งเป็น 12 นัด ชนะ 10 และ เสมอ 2

4. กว่าง ไม่มีแพ้ เมื่อออกนำคู่แข่งก่อนในครึ่งแรก

กว่างโซ้งมหาภัย ในฤดูกาลนี้ เมื่อพวกเขาออกนำคู่แข่งได้ในครึ่งแรก พวกเขาไม่แพ้มาแล้ว 7 จาก 9 เกม โดยสถิติแบ่งเป็น ชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 2 น่าสนใจว่าสถิตินี้จะทำให้พวกเขากุมความได้เปรียบได้มากแค่ไหน

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline