แฟนเพจ Golf Course Specialists Co., Ltd. ซึ่งเป็นฝ่ายดูแลสนามติณสูลานนท์ในการจัดการแข่งขันฟุตบอล คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 ที่จังหวัดสงขลา ออกมาชี้แจง 2 คำถามกรณีที่ไม่ปูผ้าใบ และรีดน้ำออกเกมที่ ทีมชาติไทย เอาชนะ ฟิลิปปินส์ ไปได้ 3-1 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา
ศึก คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 ระหว่าง ทัพ "ช้างศึก" ดวล "ดิ อัซกัลส์" ต้องหยุดการแข่งขันชั่วคราวราว 1 ชั่วโมง เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักและมีน้ำขังเป็นจำนวนมากบนพื้นสนาม ก่อนจะกลับมาแข่งขันอีกครั้งหลังฝนเริ่มเบาลง และเป็นฝั่ง "ช้างศึก" ที่เป็นฝ่ายที่เอาชนะไปได้ 3-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ พบ ซีเรีย ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้
โดย ฝ่ายดูแลสนาม ออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านแฟนเพจว่า
"ถามกันเข้ามาเยอะมากค่ะ 2 คำถามสำคัญ คือ ทำไมไม่ปูผ้าใบ และ ทำไมไม่รีดน้ำ.."
"คำถามแรก คือ ปูไม่ทันค่ะ.. กว่าผู้ตัดสินจะยุติการเล่นก็ขาวไปทั้งสนามแล้วค่ะ.. ใช้เวลาปูปกติ 12-15 นาที แต่ครั้งนี้น่าจะนานกว่านั้น เพราะน้ำลงไปอยู่ในผ้าใบหนักมากค่ะ.. ก่อนการแข่งขันคู่แรก เราได้ปูก่อนฝนหนัก เมื่อเปิดผ้ามาก็เล่นได้เลยค่ะ แต่คู่นี้มากลางเกมส์"
"การปูผ้าใบ เราเพิ่งนำมาใช้.. สิ่งที่ต้องการ คือ การลดปริมาณน้ำฝนที่ลงไปในสนาม เพราะจะมีเวลาจำกัดสำหรับการเอาน้ำออก.. แต่ยังขาดประสบการณ์ในการใช้ ยังต้องปรับวิธีการกันต่อไปค่ะ ทั้งการเก็บ สถานที่วาง Standby"
"คำถามที่ 2 คือ ทำไมไม่เตรียมที่รีดน้ำมา.. คำตอบคือ แอดเองไม่นิยมการรีดน้ำค่ะ เพราะอาจสร้างปัญหาระยะยาวได้.. สนามที่แอดทำจะไม่ค่อยรีดน้ำค่ะ แต่จะทำระบบระบายน้ำให้ดีเป็นหลัก"
"ที่นี่เมื่อมาเริ่มงาน สิ่งแรกๆ ที่ทำ นอกจากฆ่าวัชพืชและเปลี่ยนหญ้าบางส่วนแล้ว ก็คือ การ coring ทั้งดอกตัน ดอกกลวง ซึ่งน้ำเริ่มระบายดีขึ้น หลังฝนตกประมาณ ครึ่ง ชม. จะไม่เห็นน้ำขัง แต่จะยังแฉะอยู่เล็กน้อย ตามคลิปที่เคยลงไว้ก่อนหน้านี้ แต่ฝนยังเคยไม่แรงเท่าเมื่อวาน.."
"อย่างไรก็ดี.. เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คิดแต่เรื่องระยะยาว หรือความยั่งยืนทั้งหมดไม่ได้.. บางครั้งเราก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเหมือนกัน.."
"ดังนั้น วันนี้แอดจะไปกว้านซื้อที่รีดน้ำมาเตรียมไว้ด้วย เพราะดูจะจำเป็นสำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเหมือนกัน!!"