logo-heading

วันพรุ่งนี้แล้ว (พฤหัสบดีที่ 14 พ.ย.67) ที่ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย จะลงสนามอุ่นเครื่องนัดแรกในช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนพฤศจิกายน ด้วยการพบกับ เลบานอน ทีมอันดับ 115 ของโลก ซึ่งก่อนจะถึงเกมวันพรุ่งนี้ เราจะมาวิเคราะห์ 23 รายรายชื่อนักเตะทีมชาติไทย ชุดนี้กันอีกครั้ง รวมทั้งคาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่จะลงสนาม ว่าจะมีใครบ้าง

เริ่มกันที่รายชื่อนักเตะทั้ง 23 คน ซึ่งในการประกาศรายชื่อเมื่อสัปดาห์ก่อน มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชได้ ได้ชี้แจงก่อนแล้วว่าจะเป็นการเรียกนักเตะที่เตรียมใช้งานในอาเซียน คัพ เป็นหลัก และจะไม่มีนักเตะตัวหลักจากสโมสรใหญ่ในไทยลีก ที่มีโปรแกรมลงเตะไทยลีกนัดตกค้าง และฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

แต่ทั้งนี้ก็มีนักเตะจากสโมสรใหญ่ที่ปล่อยตัวมาให้อยู่หลายคน แต่ไม่ใช่ตัวหลักกับทีมชาติก่อนหน้านี้ ซึ่งน่าจะมีการเจรจาขอตัวกันมา ซึ่งก็ถือว่าได้นักเตะที่โค้ช และสโมสรต่างโอเคร่วมกัน

นักเตะชุดนี้มีหน้าใหม่ที่ติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก 6 คนด้วยกัน ประกอบไปด้วย ศฤงคาร พรมสุภะ กองหลังจากสุโขทัย เอฟซี, ทิตาธร อักษรศรี แบ็กซ้ายจากอุทัยธานี เอฟซี, วันชัย จารุนงคราญ แบ็กซ้ายจากทรู แบงค็อก ที่เป็นตัวล่าสุดที่ถูกเรียกมาแทนที่ เควิน ดีรมรัมย์ ที่ถอนตัวไป, เสกสรรค์ ราตรี กองกลางดาวรุ่งจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ชิษณุพงษ์ โชติ ตัวรุกจากขอยแก่น ยูไนเต็ด และ พันธมิตร ประพันธ์ ตัวรุกฟอร์มแรงจากพีที ประจวบ

ซึ่งทั้ง 6 คน แม้จะติดทีมช้างศึก ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก แต่ทั้ง 6 คนก็เคยผ่านทีมชาติไทย ชุดเยาวชนมาหมดแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากชุดยู23 ที่เคยเล่นร่วมกันมา 

ขณะที่นักเตะแกนหลักของทีมชาติไทย ที่ติดมาชุดนี้ ก็จะมีอย่าง สรานนท์ อนุนอินทร์ ที่ผ่านมาเป็นมือสอง แต่ครั้งนี้น่าจะยึดตำแหน่งมือหนึ่งของทัพช้างศึก ส่วนอีกสองคนมี กรกฏ พิพัฒน์นัดดา ที่ติดมาตลอดช่วงหลัง และ จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ ที่กลับมาติดอีกครั้ง

กองหลังก็จะมี เอเลียส ดอเลาะ, พรรษา เหมวิบูลย์ ที่กลับมาติดอีกครั้ง, นิโคลัส มิคเกลสัน แบ็กขวาเบอร์หนึ่งทีมชาติไทยในเวลานี้ สุพรรณ ทองสงค์ ก็ถือว่าเป็นขาประจำทีมชาติอีกคน ขณะที่แบ็กขวาสำรองอย่าง นิติพงษ์ เสลานนท์ ก็กลับมาติดชุดนี้ ซึ่งตำแหน่งแบ็กขวาด้าน อิชิอิ ก็พยายามเรียกมาทดลองหลายคน ครั้งนี้เป็นคราวของ นิติพงษ์

กองกลาง มี วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ กับ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่น่าจะเป็นแกนหลัก นอกจากนี้ยังมี วิลเลี่ยม เวเดอร์เฌอ ที่ช่วงหลังก็ติดมาตลอด มี อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ กับ เสกสรรค์ ราตรี ที่จะได้พิสูจน์ตัวเองกับทีมชุดนี้

ขณะที่ตัวรุกมี เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่น่าจะเป็นตัวหลัก โดยมี ชิษณุพงษ์ โชติ เป็นตัวสอดแทรก ด้านข้างมี รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก, พันธมิตร ประพันธ์ ที่กำลังมาแรง ขณะที่กราบซ้ายมี อนันต์ ยอดสังวาลย์ หรือคนอื่นๆ ก็สามารถสลับไปเล่นได้

กองหน้าเรียกมาแค่ 2 คน มี ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ซึ่งก็น่าจะเพียงพอกับเกมอุ่นเครื่องสองนัดนี้ แต่ในศึกอาเซียน คัพ อาจจะต้องมีเพิ่งอีกอย่างน้อย 1 คน

มาลองคาดการณ์ 11 ตัวจริงที่จะลงสนามในเกมพบ เลบานอน คาดว่า อิชิอิ จะจัดตัวที่ดีที่สุดในเกมนี้ ส่วนเกมกับลาว น่าจะให้โอกาสคนที่ไม่ได้เล่นเกมแรก และนักเตะหน้าใหม่ได้โชว์ฝีเท้า ซึ่งน่ายึดระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม

ผู้รักษาประตู : สรานนท์ อนุอินทร์

กองหลัง : นิโคลัส  มิคเกลสัน / สุพรรณ ทองสงค์ / เอเลียส ดอเลาะ / ทิตาธร อักษรศรี

กองกลางตัวรับ : พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี / วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ

กองกลางตัวรุก : รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก / เอกนิษฐ์ ปัญญา / อนันต์ ยอดสังวาลย์

กองหน้า : ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

นี่เป็นเพียงแค่การคาดการณ์เท่านั้น ส่วน 11 คนแรกของทีมชาติไทย เกมะพบ เลบานอน จะมีหน้าตาแบบไหน ต้องมารอดูกัน

โดยทีมชาติไทย มีโปรแกรมอุ่นเครื่องสองนัด ดังนี้

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567

  • 19.30 น. ทีมชาติไทย พบ เลบานอน

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567

  • 19.30 น. ทีมชาติไทย พบ สปป.ลาว

ทั้งสองนัดแข่งขันที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต

ถ่ายทอดสดทาง : ไทยรัฐ ทีวี, FB : FA Thailand, FB / YT : Changsuek Official
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline