logo-heading

ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาลใหม่ 2025/26 ได้บทสรุปแล้วนะครับว่าจะประเดิมใช้โควต้านักเตะต่างชาติลงสนามในรูปแบบใหม่ 5+2 หลายคนสงสัยว่า 5+2 คืออะไร หรือหลายท่านก็อาจจะทราบดีแล้ว วันนี้เราจะมาอธิบายให้เข้าใจกันอีกครั้ง

เดิมทีฤดูกาลนี้ฟุตบอลไทยลีก ใช้โควต้าในการลงสนาม 3+1+3 นั่นคือในวันแข่งขันสามารถส่งนักเตะต่างชาติลงสนามได้สูงสุด 7 คน แบ่งเป็น นักเตะนอกเอเชีย จะเป็นยุโรป,แอฟริกา,อเมริกา หรืออะไรก็สูดแท้แต่ ลงสนามได้ 3 คน อีก 1 คือนักเตะเอเชีย และอีก 3 คือ นักเตะอาเซียน

โดยที่การขึ้นทะเบียนักเตะจะสามารถขึ้นทะเบียนต่างชาติได้ทั้งหมดไม่เกิน 9 คน คือตัวนอกเอเชีย 5 เอเชีย 1 และอาเซียน 3 ซึ่งตัวเอเชีย หรืออาเซียน สามารถลงเพิ่มได้หากตัวต่างชาติอื่นๆ ไม่ถึง 5 คน แต่วันแข่งลงสนามก็จะลงได้ทีละ 7 คนเท่านั้น

มาในฤดูกาลใหม่นี้ โควต้าในการลงสนามวันแข่งขัน จากเดิม 3+1+3 มาเป็น 5+2 คือชาติใดก็ได้ลงสนามได้ 5 คน บวกกับตัวอาเซียนอีก 2 คน เท่ากับในแต่ละเกมจะมีนักเตะต่างชาติลงสนามได้ 7 คน (ตัวสำรองต่างชาติสามารถเปลี่ยนแทนต่างชาติด้วยกันเท่านั้น ในสนามต้องไม่เกิน 5+2)

ส่วนเรื่องการลงทะเบียนนักเตะต่างชาติรวมเอเชียลงทะเบียนได้ 7 คน ส่วนนักเตะอาเซียนลงทะเบียนได้ไม่จำกัด

สรุปก็คือนักเตะต่างชาติรวมเอเชีย 7 คนที่ลงทะเบียน ในวันแข่งลงสนามได้ 5 คน ส่วนตัวอาเซียนที่ลงทะเบียนไม่จำกัด ลงสนามได้เกมละ 2 คน

หลายคนพออ่านเป็นตัวหนังสือก็อาจจะงง แต่ก็หวังว่าจะเข้าใจกันนะครับเรื่องโควต้าแบบใหม่
 

ทีนี้มาดูกันว่ามันแตกต่างจากเดิมยังไงบ้าง จริงๆ การลงสนามของนักเตะต่างชาติยังเท่าเดิมคือ 7 คน ไม่ว่าจะ 3+1+3 หรือ 5+2 ซึ่งถ้าทีมไหนใช้เต็มโควต้าก็จะมีนักเตะไทยในสนาม 4 คนเหมือนเดิม

แต่ที่ต่างไปก็คือจากเดิมที่ตัวนอกเอเชีย พวกนักเตะยุโรป อเมริกาใต้ หรือแอฟริกา จะสามารถลงสนามได้ถึง 5 คนด้วยกัน กรณีที่คุณไม่ใช่นักเตะเอเชีย แต่เดิมลงได้แค่ 3 หรือจริงๆ โควต้านี้คุณจะใช้ตัวเอเชียทั้งหมด 5 คนก็ได้ แต่ก็คงไม่มีใครทำ เพราะว่ากันตามตรงถ้าให้เลือก ตัวต่างชาติทั่วไปย่อมดีกว่าตัวเอเชียอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องนักเตะอาเซียน เอาจริงๆ ที่จะได้ประโยชน์คงจะเป็นบรรดานักเตะลูกครึ่ง ยกตัวอย่างของทีมบุรีรัมย์ ที่มีทั้ง นีล เอเธอริดจ์, ทาบินาส หรืออย่าง ดิออน คูลส์ พวกนี้ ถึงจะได้เปรียบคู่แข้ง ลำพังถ้าใช้อาเซียนแท้ๆ เลยก็คงจะแย่งพื้นที่ในการลงสนามยาก ซึ่งจริงๆ สมาคมก็มีแผนจะลดและยกเลิกโควต้าอาเซียนอยุ่แล้ว คาดว่าภายใน 1-2 ฤดูกาลก็อาจจะยกเลิกโควต้าอาเซียนไป

คราวนี้มาว่ากันถึงข้อดี ข้อเสีย ซึ่งสาเหตุที่ทางสโมสรไทยลีกส่วนใหญ่เห็นชอบ และเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงโควต้า ทางสโมสรหใ้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการทำให้สอดคล้องกับฟุตบอลสโมสรเอเชียในปัจจุบันที่ไม่มีการกำหนดสัญชาตินักเตะ

และอีกอย่างก็เพื่อเป็นการพัฒนายกระดับมาตรฐานของฟุตบอลไทยลีก ให้สูงขึ้น

ซึ่งเอาจริงๆ เรื่องนี้มันก้มีสองมุม จะมองว่าทำให้สอดคล้องกับฟุตบอล ACL ถามว่ามันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรือเปล่า โอเคอาจจะจำเป็นกับทีมที่ได้ไปเตะ ACL พอเจอคู่ต่อสู้ในเวทีเอเชียจะได้สู้ได้ 

ซึ่งสมมติว่าเราใช้ต่างชาติแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ไปเตะ ACL จนได้แชมป์ แล้วนักเตะไทยจะได้อะไร นักเตะไทยจะพัฒนาตรงไหน ถ้าทีมไทยประสบความสำเร็จ แต่นักเตะไทยมีส่วนร่วมน้อย แล้วประโยชน์ของมันคืออะไร นอกจากค่าสัมปสิทธิ์และเงินรางวัลที่ทีมนั้นจะได้ไป นี่คือเรื่องนึง 

ซึ่งเรื่องนี้ก็เห็นจะมีแต่สโมสรในอาเซียนโดยเฉพาะของไทย และมาเลเซีย ที่พยายามจะเอาต่างชาติมาให้เยอะที่สุดในการเตะ ACL ไม่นับพวกทีมอาหรับที่เป็นตัวต้นคิดเรื่องนี้ขึ้นมา

ขณะที่ทีมสโมสรจากเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น ก็ไม่เห็นจะบ้าจี้ตามเลย เขาก็ใช้ต่างชาติตามโควต้าในบอลลีกของเขา บางเกมในถ้วยเอเชีย ใช้นักเตะญี่ปุ่นล้วนด้วยซ้ำ ซึ่งเขาอาจจะไม่ได้สนเรื่องความสำเร็จในแง่ของแชมป์หรืออะไรด้วยซ้ำ แต่เขาเห็นถึงการพัฒนาตัวนักเตะในประเทศของเขามากกว่า ซึ่งเราน่าจะเลียนแบบมากกว่าด้วยซ้ำ

ส่วนในเรื่องของการยกระดับและพัฒนาฟุตบอลลีก รวมถึงการพัฒนานักเตะไทย มองอีกมุมก็เป็นไปได้ ที่ทำให้นักเตะไทยต้องตื่นตัว และยกระดับตัวเองขึ้นมา เพราะมีนักเตะต่างชาติมาแย่งงาน แย่งการลงสนาม 

แต่อีกมุมนึง มันจะทำให้นักเตะตื่นตัวหรือหมดโอกาสลงสนามกันแน่ อันนี้ก็ต้องไปคิดกันดูให้ดีๆ ยิ่งนักเตะดาวรุ่งยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

ซึ่งมันก็จะส่งผลต่อทีมชาติไทยโดยตรง ในการจะเฟ้นหาตัวดีๆ มาเล่นให้ทีมชาติ โดยเฉพาะกองหลัง กองหน้า ที่ก็คงจะมีตัวต่างชาติเกือบทั้งลีก และหาตัวไทยไม่ได้ ซึ่งเราได้เห็นจากการลองทีมของ อิชิอิ ล่าสุดแล้วว่า เมื่อต้องหานักเตะหน้าใหม่เข้ามาลอง แล้วมันเป็นยังไง

ตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นผลมาก เพราะเรายังมีนักเตะทีมชาติชุดใหญ่ที่ยังโอเคอยู่ในระดับนึง แต่หลังจากนี้อีก 3-5 ปี ถ้ายังยึดโควต้าต่างชาติแบบนี้อยู่ รับรองว่าทีมชาติไทยนักเตะก็จะมาตรฐานต่ำเรื่อยๆ ลงแน่นอน

แต่ถ้ามองในแง่ของเกมการแข่งขัน ก็เป็นไปได้ที่ฟุตบอลไทยลีก จะสนุกเข้มข้นขึ้น เล่นกันเร็วขึ้น แต่ถ้ามันมีแต่ต่างชาติทั้งสนาม ผมว่ายิ่งดูไปเรื่อยๆ มันก็จะยิ่งไม่ใช่ไทยลีก เพราะมีแต่ต่างชาติเต็มไปหมด  

แต่กระนั้นก็เชื่อว่าคงจะไม่ใช่ทุกทีมที่จะมีเงินถุงเงินถังไปจ้างนักเตะต่างชาติได้เต็มโควต้าทั้งหมด ซึ่งแน่นอนทีมใหญ่คงไม่มีปัญหา และก็อาจจะทำให้ช่องว่างการลุ้นแชมป์มันสนุกขึ้น อยู่ที่ว่าใครจะได้ตัวเจ๋งมาแค่ไหน

แต่กับช่องว่างของทีมใหญ่กับทีมเล็ก มันจะยิ่งห่างกันออกไปอีก แล้วอาจจะทำให้ไทยลีกมันไม่สนุกอย่างที่คิดก็เป็นได้

เอาเป็นว่าก็ลองดูก่อนแล้วกันในปีหน้า ว่ามันจะเวิร์คไม่เวิร์ค และจะส่งผลดีหรือผลเสียกับฟุตบอลไทยในภาพรวมมากกว่ากัน บางทีมันอาจจะดีก็ได้ นักเตะไทยเราอาจจะเก่งขึ้นก็ได้ ใครจะไปรู้

แต่ส่วนตัวคิดว่าโควต้าคงอยู่ไม่ได้นาน เช่นเดียวกับฟุตบอล ACL ที่ไม่จำกัดโควต้า ถึงจุดนึงมันก็จะต้องกลับมาลดโควต้า เหมือนเดิม ผมคิดว่าอย่างนั้น

อย่างฟุตบอลไทยลีก เราก็เปลี่ยนมาหลายครั้ง ทั้ง 3+1 มาเป็น 5+1 แล้วก็มาเพิ่มอาเซียน มาเป็น 3+1+3 ล่าสุดมาเป็น 5+2 หรือไม่แน่อาจจะเปลี่ยนเป็นไม่จำกัดโควต้า ต่างชาติลงได้ 11 คน ก็เป็นได้ใครจะไปรู้

ก็รอดูแล้วกันครับ กับโควต้าต่างชาติแบบใหม่ ในซีซั่นหน้า ว่าจะเป็นอย่างไร!!!

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline