logo-heading

กลายเป็นสโมสรที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมากแล้วสำหรับ อตาลันต้า ภายหลังลงเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นปีแรกและสามารถกรุยทางผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้แบบน่าเซอไพร์สมากทีเดียว ทำให้ตอนนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่จะเป็น 'ม้ามืด' ประจำฤดูกาลนี้

ว่าแล้ววันนี้ทาง ขอบสนาม เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับสโมสร อตาลันต้า ให้มากขึ้น ว่าพวกเขามีดีอะไร และมีนักเตะคนไหนบ้างที่น่าจับตามอง  

อตาลันต้า ทีมนี้มีอะไรดี

ถ้าเราพูดถึงชื่อของสโมสร อตาลันต้า แล้ว เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนคงคุ้นหูเป็นอย่างดี แต่ถ้าลงลึกไปในรายละเอียด หรือความสำเร็จต้องบอกว่าทีมนี้ไม่ได้มีอะไรที่พอเชิดหน้าชูตาได้มากเท่าไหร่ ถ้าจะมีก็เพียงแค่แชมป์ โคปปา อตาเลีย เมื่อฤดูกาล 1962-63 หรือเมื่อ 57 ปี ที่แล้ว แต่ทว่าชื่อของ อตาลันต้า เริ่มยึดพื้นที่หน้าสื่อ และความสนใจของแฟนบอลได้มากขึ้นในช่วง 3-4 ปี หลัง จากผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาทั้งผลงานในฟุตบอลลีก รวมไปถึงบอลถ้วยที่เมื่อซีซั่นที่แล้วทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศศึกโคปปา อเมริกา แต่ก็พลาดท่าพ่ายให้กับ ลาซิโอ ไปอย่างน่าเสียดาย โดยจุดเด่นที่พวกเขาแสดงศักยภาพออกมาเด่นชัดที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของเกมรุกที่ร้อนแรงเกินห้ามใจเสียจริงๆ ย้อนกลับไปเมื่อซีซั่นที่แล้วพลพรรค "ทีมเทพธิดา" มีตัวเลขสถิติการยิงประตูมากที่สุดในศึกกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ถึง 77 ประตู เหนือกว่าเหล่าบรรดาสโมสรใหญ่อย่าง ยูเวนตุส (70 ประตู) หรือนาโปลี (74 ประตู) เสียอีก ส่วนนึงที่ทำให้แนวรุกมีฟอร์มกระฉูดแตกแบบนั้นส่วนนึงเป็นเพราะ ดูวาน ซาปาต้า ที่ซัดกระจายถึง 23 ประตู ครองรองดาวซัลโว รวมไปถึง อเลฮานโดร โกเมส ที่ครองอันดับหนึ่งแอสซิสต์มากที่สุด 11 ครั้ง ซึ่งเมื่อทั้งคู่มาผสมผสานกันมันก็เลยทำให้แนวรุกของพวกเขานั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก สังเกตุได้จากผลสกอร์ของพวกเขามักจะสูงส่งจนแฟนบอลยิ้มแก้มปริกันเลยทีเดียว ทำความรู้จัก อตาลันต้า ม้ามืดที่เป็น 'แจ็ค' ผู้ที่รอวันจะมาฆ่า 'ยักษ์'

กุนซือสมองเพชร

ปัจจุบัน อตาลันต้า กุมบังเหียนโดยโค้ชที่มีนามว่า จานปิเอโร่ กาสเปรินี่ กุนซือวัย 62 ปี ชาวอิตาลี โดยจุดเริ่มต้นเส้นทางสายนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าตัวประกาศแขวนสตั๊ดได้เพียงปีเดียว โดยฤดูกาล 1994-95 เจ้าตัวได้รับโอกาสคุมทีมเยาวชนของ ยูเวนตุส ก่อนฟูมฟักฝีมืออยู่กับคอก "ม้าลาย" ชุดเด็ก อยู่นานถึง 9 ปี เต็ม ก็ได้เวลาโบยบินแล้ว โดยสโมสรแรกอย่างเป็นทางการคือ โครโตเน่ สโมสรในประเทศบ้านเกิด ซึ่งเขาคุมสโมสรแห่งนี้ถึง 2 ครั้ง คือในช่วงปี 2003-04 และอีกครั้งคือ 2005-06 โดยภายหลังโยกย้ายออกจาก โครโตเน่ เมื่อเดือนมิถุนายน 2006 กาสเปรินี่ ก็ตระเวนคุมทีมอยู่หลายสโมสร แต่ทั้งหมดล้วนแล้ววนเวียนอยู่ในดินแดนแห่งพิชซ่าทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น เจนัว (2006-10), อินเตอร์ มิลาน (2011), ปาแลร์โม่ (ก.ย. 2012 - 4 ก.พ. 13, 24 ก.พ.-มี.ค. 13), เจนัว (2013-16) ซึ่งหลังจากที่ลงจากตำแหน่งกุนซือ เจนัว เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2016 เจ้าตัวก็ได้รับงานใหม่ทันที นั้นก็คือการเป็นกุนซือของ อตาลันต้า และนี่ก็เปรียบเสมือนจุดเปลี่ยนในชีวิตครั้งใหญ่ของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะนับตั้งแต่เข้ามาเป็นนายใหญ๋ทีมนี้เขาพาทีมจบอันดับท็อป 7 ของลีกมาตลอด ไล่เรียงมาตั้งแต่ฤดูกาล 2016-17 พาทีมจบอันดับ 4, ฤดูกาล 2017-18 พาทีมจบอันดับ 7  และกับฤดูกาลล่าสุด 2018-19 เขาพา อตาลันต้า จบอันดับที่ 4 พร้อมคว้าตั๋วลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร พร้อมโกยแต้มพลิกนรกผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ถึงแม้ในรอบแบ่งกลุ่ม 3 นัด แรกจะพบกับความพ่ายแพ้แบบเรียบวุธเลยก็ตาม

จุดแข็ง

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นนะครับ อตาลันต้า ทีมนี้มีโคตรทีเด็ดอยู่ที่เกมรุก และการจบสกอร์ที่เฉียบขาด และกับฤดูกาลพวกเขาไม่ได้มีเพียง ดูวาน ซาปาต้า เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นแข้งคอยแบกการทำประตู เพราะในเหล่าบรรดาแนวรุกทีมได้ โจเซฟ อิลิซิช (15 ประตู), หลุยส์ มูเรียล (13 ประตู) เข้ามาคอยผสมผสาน และเป็นตัวความหวังในแดนหน้า ทำให้ ณ ตอนนี้ในเซเรียอา ผ่านไป 24 นัด อตาลันต้า กระซวยตาข่ายคู่แข่งไปแล้ว 63 ประตู ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในลีก และเป็นทีมเดียวในลีกที่ยิงเกิน 55 ประตู และเมื่อมาบวกกับหน่วยสนับสนุนไม่ว่าจะเป็น อเลฮานโดร โกเมส, มาริโอ ปาซาลิช, ติโมธี กาสตาญ หรือโรบิน โกเซนส์ มันก็ยิ่งทำให้โฉมเกมบุกยิ่งน่ากลัวคูณ 2 เข้าไปอีก มันจึงไม่แปลกที่ฤดูกาลพวกเขายังคงแข็งแกร่งในเรื่องแนวรุก ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ และถ้าทีมไม่ได้รับผลกระทบเรื่องตัวนักเตะที่กล่าวมา น่าสนใจอย่างยิ่งว่าฤดูกาล "ทีมเทพธิดา" จะบินได้สูง และประสบความสำเร็จบ้างหรือไม่ ทำความรู้จัก อตาลันต้า ม้ามืดที่เป็น 'แจ็ค' ผู้ที่รอวันจะมาฆ่า 'ยักษ์'

จุดอ่อน 

ถึงแม้จะมีแนวรุกที่เฉียบคมมากเพียงใด แต่ปัญหาของ อตาลันต้า นั้นก็เรื่องของเกมรับที่พร้อมเสียประตูอยู่ทุกเมื่อเช่นกัน ซึ่งในซีซั่นนี้ทีมสามารถเก็บคลีนชีตได้เพียง 10 นัดจาก การลงสนามทั้งหมด 32 นัด โดยนี้เป็นปัญหาที่คู่กับพวกเขามานานพอสมควร และยังไม่ได้รับการแก้ไขให้หายไป ส่่วนนึงเป็นเพราะแนวรุกยังคงจัดจ้านทำประตูได้ มากกว่าที่แนวรับทำเสียไป มันก็เลยทำให้บาดแผลตรงนี้ยังไม่ได้ถูกนำมาพูดถึงมากนัก แต่ทว่าถ้าเกมใดที่เหล่าบรรดาแผนกผลิตสกอร์เกิดบอดขึ้นมาเมื่อไหร่ บาดแผลตรงนี้ก็จะถูกเปิดขึ้นมาในทันที ส่วนอีกหนึ่งอย่างที่นั้นก็คือเรื่องของประสบการณ์ในระดับสูง โอเคว่าผลงานในลีกเป็นเครื่องที่พอพิสูจน์ได้แต่ทว่ากับเวทียุโรปมันมีพวกเขี้ยวลากดินอยู่เยอะ และกับแสงสปอตไลท์ที่เริ่มสาดส่องมาที่เขาอาจทำให้สมาธิของนักเตะหลุดเอาไปได้แบบดื้อๆ

สตาร์เด่น

ดูวาน ซาปาต้า หัวหอกวัย 28 ปี ชาวโคลอมเบีย ผ่านการค้าแข้งมากับหลายสโมสร ด้วยเฉพาะในประเทศอิตาลี ไม่ว่าจะเป็น นาโปลี, ซามพ์โเรีย หรืออูดิเนเซ่ แต่ทว่าดูเหมือนจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ก่อนที่จะมาปังในสีเสื้อ อตาลันต้า นี่แหละ  จุดเด่นคงอยู่ร่างกายที่หนา และสูงใหญ่ รวมไปถึงการจบสกอร์ที่เฉียบคม โดยในฤดูกาลนี้เจ้าตัวซัดประตูไปแล้วทั้งสิ้น 9 ลูก จากการลงสนาม 17 นัด ซึ่งช่วงระหว่างเดือนตุลาคม - ธันวาคม เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บเอ็นกล้ามเนื้อฉีก และพักยาวถึง 2 เดือน แต่ก็ยังคงยิงคมเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย อเลฮานโดร โกเมส หนึ่งในแข้งวัยเก๋าของทีมจึงทำให้ปลอกแขนกัปตันทีมถุกครอบครองโดยเขา ส่วนนึงเพราะเป็นพี่ใหญ่ของทีมย้ายมาสู่ อตาลันต้า ตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 จุดเด่นของเจ้าตัวอยู่ที่การจ่ายบอลแบบเฉียบขาด นำมาซึ่งจอมแอสซิสต์แห่งกัลโช่ เซเรียอา ณ ตอนนี้  โดยในซีซั่นนี้ โกเมส แอสซิสต์ให้เพื่อนผลิดสกอร์ไปแล้วทั้งสิ้น 12 ครั้ง บวกกับจัดการสอยตาข่ายเอง 7 ประตู เรียกได้ว่าในวัย 32 ปี ยังคงเฟี้ยวฟ้าวอย่างกับเด็กหนุ่มเสียจริงๆ ทำความรู้จัก อตาลันต้า ม้ามืดที่เป็น 'แจ็ค' ผู้ที่รอวันจะมาฆ่า 'ยักษ์' หลุยส์ มูเรียล อีกหนึ่งกองหน้าชาวโคลอมเบีย ที่พึ่งย้ายมาเติมเต็มแนวรุกของทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ภายหลังซัดไปแล้ว 13 ประตู ในทุกรายการครองรองดาวซัลโวของทีม ต้องบอกว่าเงินที่ทีมลงทุนไป 15 ล้านยูโร ถึงตรงนี้ถือว่าคุ้มค่าไม่ใช่น้อยเลย โจเซฟ อิลิซิช นี่คือแข้งที่คอยขับเคลื่อนแนวรุกของ อตาลันต้า อย่างแท้จริง ทั้งยิงทั้งจ่าย เรียกได้ว่าเหมือนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในวัย 32 ปี โดยปัจจุบันเจ้าตัวรั้งดาวซัลโวของทีมที่จำนวน 16 ครั้ง พร้อมกับแอสซิสต์ช่วยทีมไปอีก 6 ครั้ง ส่วนตำแหน่งการเล่นของพี่แก่น่ะหรอ? จะหน้าต่ำ, หน้าเป้า หรือปีกขวา นั้นเล่นได้หมด ขอแค่ได้รับโอกาสลงสนามเท่านั้น นอกจากนั้นยังใช้ประสบการณ์ในการสั่งสอน และควบคุมรุ่นน้องในทีม จนเปรียบเสมือนหัวใจในแนวรุกของทีม
logoline