logo-heading

พวกทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ในทุกๆ ปีมักเป็นสังเวียนที่ทำให้นักเตะโนเนมๆ หลายคนได้แจ้งเกิดขึ้นเป็นที่รู้จัก นับเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญในชีวิตของพวกเขาซึ่งหนึ่งในนักเตะที่กำลังถูกพูดถึงกันไม่น้อยเลยตอนนี้ก็คือ เฌเรมี่ โดกู

ในเมื่อมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นและกำลังถูกพูดถึงวันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือ การพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับไอ้เด็กหนุ่มที่ชื่อ "เฌเรมี่ โดกู" คนนี้ เขาจะเป็นใครมาจากไหนไปติดตามชมกันเลย

ประวัติพอสังเขป

Jeremy Doku | Skills and Goals | Highlights - YouTube เฌเรมี่ โดกู เกิดวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 2002 ที่ อันท์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ปัจจุบันอายุแค่ 19 ปี ส่วนสูง 171 เซนติเมตร หรือ 5 ฟุต 7 นิ้ว น้ำหนัก 66 กิโลกรัม ถนัดเท้าขวา ประจำการในตำแหน่งกองหน้า สังกัดอยู่กับสโมสร แรนส์ ใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส ได้สวมเสื้อหมายเลข 18

เส้นทางค้าแข้ง

Who Is Jeremy Doku? Things To Know About the Liverpool-Linked Anderlecht  Prodigy | 90min เฌเรมี่ โดกู เกิดที่เมือง อันท์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ความใฝ่ฝันของเขาก็คือการได้เติบโตขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ก่อนจะได้โอกาสเริ่มเตะฟุตบอลครั้งแรกแบบจริงๆ จังๆ ตั้งแต่อายุยังน้อยกับทีม เควีซี โอลิมปิก ดวร์น กับ ทูบานเตีย บอร์แกร์ฮูต ช่วงๆ กลางยุค 2000 จากนั้นต่อมาก็ได้โอกาสย้ายไปอยู่กับทีมที่มีชื่อเสียงคุ้นหูขึ้นมาหน่อยอย่าง เบียร์ช็อต จนกระทั่งได้กลายมาเป็นหนึ่งในผลผลิตในรั้วอคาเดมี่ของยอดทีมอย่าง อันเดอร์เลชท์ เมื่อปี 2012 ตอนอายุ 10 ขวบ โดยถูกพาตัวมาโดยแมวมองของทีมหลังจากฉายแววได้อย่างโดดเด่น เฌเรมี่ โดกู ใช้เวลาอยู่ 6 ปีในการปลุกปั้น ฝึกปรือวิชาต่างๆ เกี่ยวกับการยกระดับทักษะสกิลฝีเท้าตัวเอง จนในที่สุด วันที่ 25 พฤศจิกายน ปี 2018 เขาก็ได้โอกาสประเดิมสนามเกมแรกให้กับ อันเดอร์เลชท์ ชุดใหญ่ในวัย 16 ปี แต่น่าเสียดายที่วันสำคัญของไอ้หมอนี่ต้นสังกัดกลับต้องลงเอยด้วยการพ่ายแพ้ต่อ แซงต์-ทรุยด็อง ไปด้วยสกอร์ 2-4 หลังจากเปิดตัวไปเรียบร้อยและได้ลงเล่นไป 6 นัดในฤดูกาล 2018-19 บนสังเวียน โปร ลีก ปีถัดมาเจ้า เฌเรมี่ โดกู ก็เริ่มปล่อยของออกมาเรื่อยๆ จนได้รับโอกาสลงเล่นที่มากขึ้น โดยได้โอกาสลงสนามไป 24 เกม จากทุกรายการและซัดไปถึง 4 ประตูด้วยกันซึ่งประตูแรกในสีเสื้อ อันเดอร์เลชท์ นั้นเกิดขึ้นในนัดที่แพ้ อูสเทนเด้ 2-3 วันที่ 1 ธันวาคม ปี 2019 และที่สำคัญคือเกมนั้นเจ้า เฌเรมี่ โดกู มีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตูจากการยิง 1 และจ่ายอีก 1

ความก้าวหน้าในอาชีพ

Liverpool target Jeremy Doku was called successor to Sadio Mane by Klopp  and beat Neymar's dribbling record in Ligue 1 ฤดูกาล 2020-21 ไอ้หนู เฌเรมี่ โดกู ก็ได้พบเจอกับการก้าวกระโดดในเส้นทางอาชีพที่รวดเร็ว ถึงจะอายุแค่เพียง 18 ปีในตอนนั้นแต่พี่แกกลับถูก แรนส์ สโมสรจาก ลีก เอิง ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นทีมจาก 5 ลีกดังยุโรปจัดการทาบทามตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวที่สูงถึง 26 ล้านยูโร พร้อมกับเซ็นสัญญา 5 ปีกับการค้าแข้งในถิ่น โรอาซง พาร์ค เฌเรมี่ โดกู ได้ประเดิมสนามเกมแรกในสีเสื้อของ แรนส์ นัดที่เสมอกับ ดิฌง 1-1 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ปี 2020 และด้วยผลงานที่โดดเด่นเข้าตากรรมการและเอาชนะใจทีมงานทุกคนมันก็ทำให้เจ้า โดกู ได้ยึดตำแหน่งตำแหน่งยาวๆ ได้ลงเล่นบนสังเวียน ลีก เอิง ไป 30 นัด (เป็นตัวจริง 26 นัด) ยิงได้ 4 ประตู และทำไปอีก 4 แอสซิสต์ด้วยกัน โดยประตูแรกของไอ้เด็กนี่เกิดขึ้นในนัดที่ แรนส์ เอาชนะ เม็ตซ์ ไป 3-1 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ปี 2021 สุดท้ายก็มีส่วนช่วยให้ทีมจบอันดับที่ 6 คว้าสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ นอกจากนี้เจ้า เฌเรมี่ โดกู ยังได้โอกาสสัมผัสกับประสบการณ์สำคัญในชีวิตนั่นก็คือการลงเล่นบนสังเวียน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้ง 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่มเมื่อฤดูกาลที่แล้วอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ไม่มีชื่อทำแอสซิสต์หรือยิงประตูได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

รับใช้ชาติ

ถึง เฌเรมี่ โดกู จะเกิดที่ เบลเยี่ยม แต่ก็มีเชื้อสายของชาวกาน่าเหมือนกัน ทว่าเขาปักหลักและลงใจให้กับการรับใช้ทัพ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ตั้งแต่ชุดเยาวชนในหลายๆ รุ่นไล่ตั้งแต่ ยู-15, ยู-16, ยู-17 และ ยู-21 ลงเล่นไป 35 นัด ยิงไป 12 ประตู เคยผ่านประสบการณ์ในเวทีระดับนานาชาติมาแล้วนั่นคือ ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ ยู-17 เมื่อปี 2018 ซึ่งปีนั้น ทีมชาติเบลเยี่ยม ของ โดกู ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ ปี 2020 โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ตัดสินใจมอบโอกาสให้ เฌเรมี่ โดกู ด้วยการเรียกตัวติด ทีมชาติเบลเยี่ยม ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก ก่อนจะได้โอกาสประเดิมในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่เจอกับ เดนมาร์ก เมื่อวันที่ 5 กันยายน ก่อนที่อีก 3 วันถัดมา เฌเรมี่ โดกู จะสามารถเปิดซิงประตูแรกได้ในสีเสื้อ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ชุดใหญ่ในเกมที่ถล่ม ไอซ์แลนด์ ไป 5-1 ที่พีคยิ่งกว่าคือถึงแม้จะเพิ่งวัยแค่ 19 ปีแต่ เฌเรมี่ โดกู คือหนึ่งในผู้เล่นของ ทีมชาติเบลเยี่ยม ชุดผจญภัยล่าแชมป์ในศึก ยูโร 2020 หนนี้ เขาได้ลงเป็นตัวสำรองในเกมที่เจอกับ เดนมาร์ก ก่อนจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมต่อมากับ ฟินแลนด์ และในเกมล่าสุดกับ อิตาลี ก็เป็นอีกหนึ่งนัดที่เขาได้ลงเล่นเป็นจริง เบ็ดเสร็จตอนนี้ไอ้หนู เฌเรมี่ โดกู ได้โอกาสติดธง ทีมชาติเบลเยี่ยม ชุดใหญ่ไปแล้วทั้งสิ้น 10 นัด ยิงได้ 2 ประตู

สไตล์การเล่น

เจ้า เฌเรมี่ โดกู เป็นผู้เล่นในตำแหน่งปีก และสามารถเล่นได้ทั้งกราบซ้ายและกราบขวา ย้อนกลับไปสมัยยังเด็กไอ้หมอนี่มักถูกจับไปยืนในตำแหน่งปีกซ้ายและอาศัยการลากตัดเข้าในเพื่อสร้างจังหวะให้ตัวเองรวมถึงสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนๆ เป็นหลัก แต่พอโตมาในระดับซีเนียร์ดูเหมือนตำแหน่งปีกขวาจะเป็นแอเรียที่เจ้า โดกู โปรดปรานมากที่สุด ส่วนเรื่องของจุดเด่นก็คือความรวดเร็วว่องไวปานสายฟ้าแลบ โดกู เป็นนักเตะที่เท้าไว ไปกับบอลได้ดี เรื่องการกระชากลากเลื้อยนี่ไม่ต้องพูดถึง ขอบอกเลยว่าเหลือรับประทานจริงๆ การฉวยโอกาส การวิ่งหาช่องทำทาง หรือฉีกหนีตัวประกบ หรือแม้กระทั่งการดวล 1-1 กับศัตรูนี่คือสิ่งที่ไอ้เด็กนี่ทำได้ดีมากๆ และทั้งหมดทั้งมวลที่พูดมานี้มันทำให้สื่อต่างประเทศยกย่องให้เจ้า เฌเรมี่ โดกู เป็น "ซาดิโอ มาเน่" คนต่อไปของวงการลูกหนังเชียวนะ

คนที่พูดถึง เฌเรมี่ โดกู

โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กล่าวว่า "ผมภูมิใจกับผลงานส่วนตัวของนักเตะทุกคน มันดูเหมือนกันเจ้า เฌเรมี่ โดกู จะสร้างอิมแพ็คได้เหมือนกับตอนเดือน มีนาคม (เจอกับ เช็ก) เขาดูพร้อม เขาเล่นได้ดีและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ตอนที่เขามีบอลเท่านั้นนะ แต่มันยังรวมถึงแอคชั่นต่างๆ ที่เขามีส่วนร่วมกับเกมด้วย เขาทำผลงานได้ดีมากๆ ในคืนนี้" จูเลี่ยน สเตฟาน กล่าวว่า "เขาทำให้ผมนึกถึง ซาดิโอ มาเน่ เขาเป็นผู้เล่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพอย่างแท้จริง" เควิน เดอ บรอยน์ กล่าวว่า "เขามีความคล่องตัว และความว่องไว และรู้วิธีการกระชากลากเลื้อยยังไงให้ดีเยี่ยม แน่นอนว่าบางครั้งเขาอาจจะทำพลาดบ้าง แต่มีใครบ้างที่ไม่เคยผิดพลาด เขาคือเพชรเม็ดงามอย่างแท้จริง" ไฮน์ ฟานเฮเซบรู๊ค กล่าวว่า "ถ้าเขาเล่นเท้าซ้าได้ เขาจะเป็นนักเตะที่เพอร์เฟคมาก เขาสามารถไปถึงจุดสุยอดได้เลย จากนั้นเขาก็จะก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับ เอแด็น อาซาร์"

ทีมที่สนใจ

ย้อนเวลากลับไปในปี 2018 คุณรู้รึเปล่าว่าตอนนั้นเจ้า เฌเรมี่ โดกู เคยปฏิเสธโอกาสการย้ายไป ลิเวอร์พูล มาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะเขาอยากใช้เวลาพัฒนาตัวเองกับทีมในถิ่นบ้านเกิดอย่าง อันเดอร์เลชท์ มากกว่า ก่อนจะตัดสินใจเลือกย้ายไป แรนส์ ตอนปี 2020 และด้วยผลงานและแววที่ฉายออกมาได้ดี ว่ากันว่าตอนนี้ ลิเวอร์พูล เองกำลังให้ความสนใจและพยายามจะทาบทามตัวเจ้า โดกู ไปร่วมทีมอีกครั้งเหมือนกันในช่วงซัมเมอร์นี้ และก็ไม่ใช่แค่นั้นนะ เพรามันยังมีทีมดังๆ ที่เหมือนจะแอบเล็งๆ ไอ้เด็กนี่ไว้เหมือนกันไม่ว่าจะเป็น บาเยิร์น มิวนิค แชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน รวมถึง ลีลล์ แชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ด้วย

เกมแจ้งเกิด

Jeremy Doku could shine in Belgium vs Italy ถ้าจะพูดถึงเกมที่ทำให้คนแทบทั้งโลกเริ่มพูดถึงชื่อของ เฌเรมี่ โดกู ก็คือเกมนัดล่าสุดนี่แหละที่ เบลเยี่ยม เจอกับ อิตาลี ในศึก ยูโร 2020 รอบก่อนรองชนะเลิศ ต้องบอกเลยว่าผลงานส่วนตัวของไอ้เด็กนี่สะดุดตามากๆ การผสมผสานระหว่างสปีดความรวดเร็ว ความกล้าหาญ และการคอนโทรลไปกับบอล มันทำให้เขากลายเป็นเทรนด์ที่ถูกพูดถึงมากๆ ในโลกโซเชี่ยล แฟนบอลหลายคนต่างแสดงความคิดเห็นออกมาว่าอยากให้ไอ้เจ้า เฌเรมี่ โดกู ย้ายไปค้าแข้งกับทีมรักของตัวเองเสียเหลือเกิน สถิติเด่นๆ ของเจ้า เฌเรมี่ โดกู ที่เกิดขึ้นในเกมกับ อิตาลี ก็คือการผู้เล่นที่เลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ได้มากที่สุดในสนามที่ 8 ครั้ง นับเป็นสถิติที่ดีที่สุดในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ต่อ 1 นัด (ฟุตบอลโลก และ ยูโร) ถ้านับเฉพาะแค่นักเตะดาวรุ่งเท่านั้น เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเราอาจได้เห็นเด็กคนนี้ที่ชื่อ เฌเรมี่ โดกู ย้ายไปอยู่กับทีมใหญ่ในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้ บางทีตอนนี้ แรนส์ อาจเป็นทีมที่เล็กไปแล้วสำหรับเด็กคนนี้ เขาจะกลายเป็นมาซูเปอร์สตาร์ของวงการในอนาคตอันใกล้นี้หรือไม่ ? เดี๋ยวต้องลุ้นกัน ! แล้วแฟนๆ ชาว "ขอบสนาม" ล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ???

HaMu Dos Santos 

ใครคือ เฌเรมี่ โดกู ? ดาวรุ่งความหวังใหม่ของ เบลเยี่ยม

logoline