ถ้าหากย้อนกลับไปสักเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ฟุตบอลที่จังหวัดชลบุรีนั้นบูมสุดขีด เหตุผลก็เพราะนี่คือหนึ่งในจังหวัดที่คลั่งไคล้กีฬาลูกหนังไม่แพ้จังหวัดอื่นในประเทศไทย
ความสำเร็จในการคว้าแชมป์ไทยลีก 2007 ของพลพรรคฉลามชล สร้างความตื่นตัวให้แก่ผู้คนในจังหวัด จนมีทีมเล็กๆผุดขึ้นมามากมาย ทั้งโค้ก บางพระ, ชลบุรี–สันนิบาตฯ สมุทรปราการ โดยมีผลผลิตจากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี ที่ถูกส่งชื่อลงทำการแข่งขันบอลลีกที่ห้วงเวลาที่ไม่มีคนสนใจชม
การเอาเด็กเยาวชนขึ้นมาสัมผัสบอลผู้ใหญ่เป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ชั้นดีให้พวกเขา ได้มีเวทีลับแข้งก่อนจะต่อยอดขึ้นสู่ระดับสูง
เด็กเยาวชนในเมืองชล ทุกคนมีความฝันที่จะลงเล่นให้ชลบุรี เอฟซี เพียงแต่บางครั้งการออกไปเล่นกับทีมเล็กทีมพี่ทีมน้องเป็นทางออกที่ดีจะได้ฉายแสงแจ้งเกิด ศรีราชา เอฟซี หรือบลูมาร์รีน นอกจากเด็กไทยแล้วที่นี้ก็เหมือนเป็นใบเบิกทางให้แข้งนอกโปรไฟล์ไม่ดังมีโอกาสมาพิสูจน์ฝีเท้าด้วยเช่นกัน แม้เวลานี้จะไม่มีทีมนี้อีกต่อไปแล้ว หลังพวกเขายุบทีมและปล่อยสิทธิ์ออกไปในปี 2014 แต่ปฏิเสธไม่ได้หลอกว่าสโมสรแห่งนี้ปลุกปั้นนักเตะฝีเท้าดีมากมายก่อนจะไปต่อยอดกับทีมใหญ่ในเวลาต่อมา
1.ซารูตะ ฮิโรโนริ
ดาวเตะจากเมืองฮิโรชิม่า ผู้ที่มีแรงบันดาลใจจากการ์ตูนสึบาสะ ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นนักฟุตบอลลงเล่นให้ทีมเอฮิเมะ ในเจ2 แล้วโยกออกจากบ้านเกิดไปค้าแข้งที่สิงคโปร์กับบาเลสเตียร์ คัลซ่า เขาเล่นที่นั้นได้ 1 ปี จนได้รับข่าวสารความนิยมของวงการฟุตบอลไทย จึงตัดสินใจหิ้วสตั๊ดมาทำการคัดตัวกับศรีราชา เอฟซี ทีมน้องใหม่ไทยลีก 2009 ที่มีครองพล ดาวเรือง คุมทีมอยู่
แม้ว่าซีซั่นนั้น ศรีราชา จะอยู่โซนท้ายตาราง แต่เป็นบอลเกมรุกที่ดูสนุก บุกมัน ตามอารมณ์แข้งวัยรุ่นชาวไทยที่ล้นทีม โดยที่ซารูตะ เป็นแข้งนอกที่ถูกใช้งานเป็นตัวหลัก เบสิคและทักษะส่วนตัวของเขาช่วยยกระดับเกมรุกให้บลูมาร์รีน น่าเสียดายที่ทีมมาเก่งช้าไปตกชั้นไป และเมื่อจบฤดูกาลซารูตะ ถูกทาบทามให้ไปร่วมทัพบางกอกกล๊าส ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมการท่าเรือ, เชียงราย ยูไนเต็ด และอุดรธานี
2.ชนินทร์ แซ่เอียะ
นายทวารหน้าตี่จากชุมพร ที่เป็นผลผลิตจากฟุตบอลโครงการช้างเผือกของอัสสัมชัญ ศรีราชา เขาถูกวางตัวไว้เป็นทายาทสินทวีชัย หทัยรัตนกุล ในทีมชุดใหญ่ชลบุรี ก่อนจะถูกปล่อยมาให้ศรีราชา เอฟซี ใช้งาน ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบม.6 โดยเป็นอะไหล่ให้ นันทพล ศุภไทย
“บาส” โชว์ฟอร์มได้เยี่ยมยอดเวลาที่ได้รับโอกาสลงสนาม แม้จะรูปร่างเล็ก แต่มีปฏิกิริยาที่ว่องไวเข้ามาทดแทน เป็นกำลังหลักให้สโมสรอยู่ 2 ฤดูกาลปี 2010-2011 ช่วยสโมสรเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 1 ในฐานะแชมป์สู่ไทยลีกในปี 2011 น่าเสียดายที่แข้งพลังหนุ่มภายในทีมยืนระยะกันไม่ไหว ก่อนที่เขาจะถูกส่งตัวไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับวัวชน, การท่าเรือล ชัยนาท และหวนกลับมาช่วยอู่ข้าวอู่น้ำเดิมจวบจนถึงปัจจุบัน
3.กัสตัน ราอูล กอนซาเลซ
ปกติบอลไทยยุคที่ไม่บูมจะมีแต่พวกนักเตะจากทวีปแอฟริกาซะเป็นส่วนใหญ่ หรือไม่ก็บราซิเลี่ยนเกรดรองที่มาเล่นในเมืองไทย เว้นเสียแต่ว่า มีไอ้หนุ่มจากอาร์เจนติน่า นามว่า กัสตัน ราอูล กอนซาเลซ ที่หอบหิ้วความฝันมาค้าแข้งกับศรีราชา ตั้งแต่ปี 2008 ในระดับดิวิชั่น 1 เขามีเท้าซ้ายที่หนักหน่วงในการจบสกอร์ ช่วยทีมเลื่อนชั้นได้ถึง 2 ครั้ง 2 หนในไทยลีก น่าเสียดายที่ทีมไม่อาจยืนระยะได้ ก่อนที่จะย้ายออกจากทีมไปร่วมทัพไทยฮอนด้า และหนองบัวพิชญ
4.อารอน ดา ซิลวา
หัวหอกบราซิเลี่ยนที่มาแจ้งเกิดกับจุฬา ยูไนเต็ด ก่อนจะหอบหิ้วสตั๊ดมาค้าแข้งที่เมืองชลกับศรีราชา อารอน เป็นกองหน้าเทคนิค ถนัดใช้เท้าซ้ายในการจบสกอร์ เขาเป็นแกนหลักให้สโมสรยุคของเซอร์แดง ทรงยศ กลิ่นศรีสุข ได้ลงเล่นไทยลีก แต่โชคไม่ดีย้ายมาผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย 18 เดือนในทัพบูลมาร์ลีน ช่วยต่อยอดให้เขากลายเป็นนักเตะที่มีโปรไฟล์ดีในไทยลีก ก่อนจะออกไปเล่นกับวัวชน ยูไนเต็ด, อาร์มี่ ยูไนเต็ด, โอสถสภา, พีทีที ระยอง, นครปฐม, ราชนาวี และกระบี่
5.อรรถพงศ์ หนูพรหม
ดาวเตะซ้ายธรรมชาติที่ได้รับการจับตามองมาตั้งแต่เด็ก เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับธีราทร บุญมาทัน ที่โรงเรียนกีฬากทม.และอัสสัมชัญธนบุรี ได้รางวัลนักเตะมากมายในระดับเยาวชนแทบทุกรายการในประเทศไทยทั้งกับโรงเรียนและส่วนตัว โดนเขียนสกู๊ปไม่หยุดไม่หย่อน ก่อนจะได้สัญญาอาชีพจากแทมปิเนส โรเวอร์ส ในเอสลีกของสิงคโปร์ เรียกว่าโปรไฟล์หรู ก่อนจะมาเซ็นสัญญากับชลบุรี เอฟซี และโดนศรีราชาปล่อยยีมตัว
“โตโต้” เล่นได้ทั้งตัวริมเส้นและจอมทัพยึดตำแหน่ง 11 คนแรกให้ศรีราชาได้สบาย เขาวางบอลได้แม่นยำ ชอบส่องไกลอยู่เป็นประจำ โดยที่ช่วยสโมสรยาวนาน 3 ปีเต็มได้สัมผัสไทยลีก 2 ครั้ง 2 หน แต่กลับไม่สามารถเบียดแข่งตัวจริงในทัพฉลามชลได้ ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายไปอยู่กับราชบุรี และบุรีรัมย์, อาร์มี่ ยูไนเต็ด, นครราชสีมา และศรีสะเกษ เอฟซี
6.เอกชัย ฤทธิ์พันธ์
ดาวเตะที่มีชื่อเล่นว่า ปืน ผู้คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าเขาเป็นแข้งพเนจร เพราะย้ายไปเล่นกับหลายสโมสรทั้งทีโอที สุพรรณบุรี, อาร์มี่, เชียงราย, บีอีซี เทโรศาสน, นครราชสีมา แต่ทีมที่เขาแจ้งเกิดจริงจังกลับเป็นศรีราชา เอฟซี
เขาเป็นดาวรุ่งของทีมฉลามชลที่ถูกปล่อยมาหาประสบการณ์ตั้งแต่จบม.6 เขาเป็นแข้งตัวรุกที่มีสปีดต้นจัดจ้านคนหนึ่ง โดยที่รับใช้สโมสรยาวนาน3 ฤดูกาล ได้สัมผัสไทยลีก 2 หนกับบูลมาร์รีน ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 ปี 2010 แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในการสอดแทรกเป็นตัวจริงทีมชุดใหญ่ฉลามชล
7.เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์
ปีกซ้ายเครามหาเสน่ห์จากสุราษฎ์ธานีผู้มีรุ่นพี่ในจังหวัดอย่างเอกพันธ์ อินทเสน เป็นไอดอล และหวังเจริญรอยตามย้ายมาตามหาความฝันในเมืองชล แม้จะพลาดหวังในการเป็นนักเรียนที่อัสสัมชัญ ศรีราชา แต่ “ก้อง” ก็ได้เล่าเรียนและเตะบอลที่ จุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี แทน
หากจะถามว่าช่วงเวลาไหนที่ เกริกฤทธิ์ ฉายแววได้ดีสุดในการเล่นฟุตบอล คำตอบที่ได้คือ ศรีราชา เอฟซี 4 ปีกับทีมน้องฉลามชล เขาได้เล่นร่วมกับเพื่อนๆที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน การได้สัมผัสบอลระดับอาชีพทั้งที่อายุน้อย ทำให้เขายิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ กล้าลากกล้าเลื่อยในทางกราบซ้ายตำแหน่งถนัด เฉิดฉายภายใต้การคุมทีมโดยทรงยศ กลิ่นศรีสุขเป็นอย่างมาก ก่อนจะถูกฉลามชลดึงตัวกลับไปใช้งานและกลายเป็นกัปตันทีมพร้อมเสื้อหมายเลข 10
เอ็มเร่
[email protected]
ขอบคุณภาพประกอบ แฟนเพจศรีราชา เอฟซี
