logo-heading

ซึ่งถ้าไม่มีข่าวก่อนหน้านี้ ก็อาจจะเป็นการประกาศรายชื่อที่ถือว่าเซอร์ไพรส์กับหลายคน หลายตำแหน่ง แต่พอมีข่าวออกไปก่อนแล้ว ความเซอร์ไพรส์ที่ว่ามันก็ลดลง

รายชื่อที่ออกมาถือว่าเป็นไปตามความคาดหมาย จู๊ด เบลล์ ก็มีรายชื่อจริงๆ ตัวเก๋าที่เกร็งกันไว้อย่าง ธีราทร บุญมาทัน, ธีรศิลป์ แดงดา และ สารัช อยู่เย็น ก็มากันครบ

ไม่เว้นแม้แต่ เควิน ดีรมรัมย์ ก็มีชื่อกลับมาติดทีมชาติไทย ชุดนี้กับเขาด้วย 

ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแกนจากชุดที่แล้วของ อิชิอิ ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ และมีตัวที่ไม่อยุ่ในแผนของ อิชิอิ แต่กลับมาติดอีกครั้ง และตัวใหม่ที่เข้ามาก็ประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์

นักเตะจากชุดที่แล้วที่หลุดไปไล่ตามตำแหน่ง ก็มีอย่าง กองหลัง สันติภาพ จันทร์หง่อม, อภิสิทธิ์ โสรฎา, วันชัย จารุนงคราญ, ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ

กองกลาง วีระเทพ ป้อมพันธุ์, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว

ส่วนชุดเดิมจากคราวที่แล้ว มี 14 คน ประตูมาครบ ปฏิวิติ คำไหม, กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล และ สรานนท์ อนุอินทร์

กองหลังมี นิโคลัส มิคเกลสัน, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, สุพรรณ ทองสงค์, ศฤงคาร พรหมสุภะ, ณัฐพงษ์ สายริยา

กองกลางมี ชนาธิป สรงกระสินธ์, เบน เดวิส, เสกสรรค์ ราตรี, สุภโชค สารชาติ และ อนันต์ ยอดสังวาลย์ 

ส่วนกองหน้ารอบที่แล้วเรียกมาตัวเดียว คือ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ซึ่งก็ยังติดอยู่ในทีมชุดนี้

ส่วนที่มาใหม่ในชุดนี้มี 9 คน ซึ่งบางคนคราวที่แล้วเจ็บ อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด กับ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ส่วนที่เหลือ 7 คน เป็นตัวที่ไม่อยู่ในแผนของ อิชิอิ แต่โค้ชฮัดสันเรียกมาในทีมชุดนี้ อย่าง พรรษา เหมวิบูลย์, เควิน ดีรมรัมย์, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, ธีรศิลป์ แดงดา และ จู๊ด เบลล์

ส่วนนักเตะที่ “โค้ชฮัดสัน” ไม่ได้เรียกมา และเจ้าตัวออกตัวก่อนการประกาศรายชือ ก็จะมี 2 คน หนึ่งคือ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่เพิ่งจะหายเจ็บกลับมา ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ อันนี้น่าจะเข้าใจได้

อีกคนคือ โจนาธาร เข็มดี กองหลังตัวเก่งจากราชบุรี ที่กุนซือชาวอังกฤษ บอกว่ามีปัญหาเรื่องพาสปอร์ต เกี่ยวกับการต่ออายุสัญชาติ ที่ต้องเดินทางกลับไปดำเนินการที่เดนมาร์ก ซึ่งช่วงพักเบรกเกมลีกถือเป็นจังหวะดีที่จะไปทำให้เรียบร้อย เพราะตอนลีกเตะก็ต้องรับใช้สโมสร

เรื่องของ โจนาธาร มีการยืนยันจากสโมสรราชบุรี ว่าเจ้าตัวแจ้งเรื่องนี้ไปที่ทีมชาติก่อนหน้านี้แล้วจริงๆ ว่าต้องกลับไปทำเรื่องเอกสารที่เดนมาร์ก ซึ่งมันก็ประจวบเหมาะพอดีที่มีชื่อของ ธีราทร กลับมาติดทีมชาติ

ซึ่งจริงๆ แล้วอาจจะเป็นความบังเอิญจริงๆ ก็ได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้มันก็ทำให้แฟนบอลตั้งข้อสงสัยได้ ตามข่าวที่เคยมีก่อนหน้านี้ แต่ทั้งคู่ก็ออกมายืนยันแล้วว่า ไม่มีอะไรพร้อมเล่นทีมชาติร่วมกัน

เอาเป็นว่าค่อยมารอดูเดือนมีนาคมปีหน้าอีกที หวังว่าทั้งคู่จะไม่มีใครเจ็บ และถูกเรีกยตัวมาทั้งคู่ในเกมเจอกับ เติร์กเมนิสถาน ถึงตอนนั้นค่อยมาว่าอีกที ว่าร่วมทีมกันได้จริงๆ หรือเปล่า ขออย่างเดียวอย่ามีคนใดคนนึงเจ็บไปในตอนนั้นแล้วกัน

ส่วนเรื่องรายชื่อที่ออกมาทั้ง 23 คน ถ้าตัดเรื่องอคติออกไป ผมว่าก็เป็นรายชื่อที่สมบูรณ์มากๆ ณ เวลานี้ ไม่นับการหายไปของ ศุภณัฏฐ์ ที่ยังไม่ฟิต และ โจนาธาร ที่มีปัญหาเรื่องเอกสาร

เพราะเราได้ทั้ง ธีราทร ที่แฟนบอทุกคนบอกว่า โก๋อุ่ม ยังเล่นทีมชาติได้สบาย เราได้ เควิน ที่ถ้าว่ากันถึงผลงานก็น่าจะเป็นแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในชั่วโมงนี้ เซ็นเตอร์ มี พรรษา ที่เก๋า และยังเป็นตัวที่ไว้ใจได้

เราได้ ธนวัฒน์ ที่กำลังฟอร์มดีกับราชบุรี กลับมา กองหน้าได้ จู๊ด เบลล์ ที่เชียรืให้ติดทีมชาติกันมาตั้งแต่เจ้าตัวอายุ 19 ตอนนี้ 21 แล้ว มาติดทีมชาติไทยจริงๆ ได้ ธีรศิลป์ ตัวเก๋ามากประสบการณ์ คืนทีมชาติอีกครั้ง

คือถ้าไม่มีเรื่องดราม่าก่อนหน้านี้ และสมมติว่านี่คือทีมชาติไทย ที่ อิชิอิ เรียกมา ผมว่ามันก็เป็นทีมที่โอเคเลย และเป็นทีมชาติไทย ชุดที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้ แม้จะมีบางตัวบางตำแหน่ง ที่อาจจะยังไม่ตรงใจมาก แต่มันก็ขึ้นอยู่กับโค้ชที่เรียกมา

แต่แน่นอนว่า กระแสช่วงนี้แม้จะซาลงไป แต่มันก็ยังครุกรุ่นอยู่ดี ไม่ว่าทีมชุดนี้จะมีหน้าตาอย่างไร ก็ยังมีกระแสต่อต้านจากแฟนบอลกลุ่มที่ไม่พอใจที่ อิชิอิ โดนปลดไปก่อนหน้านี้ มันก็เป็นเรื่องที่จะไปห้ามอะไรไม่ได้

สุดท้ายก็ต้องไปว่ากันที่ผลงาน และการทำทีมของ “โค้ชฮัดสัน” ว่าจะสามารถซื้อใจ และเรียกศรัทธาแฟนบอลกลับมาได้หรือไม่

ซึ่งเจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ในการประกาศชื่อวันนี้ว่า “เข้าใจแฟนบอลทุกคน และก็ไม่ขอให้มาเชียรืเขา หรือมาเห็นด้วยกับเขา แต่ขอให้เชียร์ทีมชาติไทย และนักฟุตบอลทีมชาติไทย เพื่อเป้าหมายคือการไปเอเชียน คัพ รอบสุดท้ายให้ได้”

ซึ่งเขาเองก็จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แฟนบอลยอมรับในตัวเขาให้ได้ และจะทำให้แฟนบอลไทยได้ภาคภูมิใจกับทีมชาติไทยของเรา” นี่คือสิ่งที่กุนซือชาวอังกฤษ ได้บอกไว้ตั้งแต่รอบที่แล้ว จนมาถึงวันนี้

ก็รอดูกันครับกับ 2 นัดที่ “โค้ชฮัดสัน” จะประเดิมคุมทีมชาติไทย เริ่มจากเกมอุ่นเครื่องกับ สิงคโปร์ ในวันที่ 13 พ.ย.นี้ ที่สนามธรรมศาสตร์ ใครไม่เชียร์ก็ไม่เป็นไร ส่วนใครยังที่อยากเห็นเวอร์ชั่นใหม่ของทีมช้างศึก ก็ไปติดตามกันได้ หรือจะดูถ่ายทอดสดก็เอาที่สะดวก

ต่อด้วยเกมสำคัญคือการออกไปเยือน ศรีลังกา ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ในนัดรองสุดท้ายของรอบคัดเลือก เอเชี่ยน คัพ ซึ่งอย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วว่า เกมนี้เราเสมอได้ แต่สำหรับการคุมทีมนัดแรกของ ฮัดสัน ในเอเชี่ยน คัพ รอบคัดเลือก ครั้งนี้!!

คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เสมอ หรือได้แค่หนึ่งแต้มกลับมา ในเมื่อคุณประกาศว่าจะทำให้แฟนบอลไทยยอมรับ เกมกับศรีลังกา ต้องสามแต้มเท่านั้น จะชนะแบบไหนก็ได้ ขอแค่ชนะ 

แต่ถ้าชนะด้วยผลงานที่น่าประทับใจด้วยแล้ว ก็น่าจะทำให้กระแสทีมชาติไทยกลับมาดีขึ้น และไม่เพียงแค่ตัวทีมชาติเท่านั้น

สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เองก็ต้องการสามแต้มในเกมนี้เช่นกัน เพื่อเรียกศรัทธา กลับคืนมา ไว้มารอดูกันว่า 2 นัดนี้ ทีมชาติไทย ยุคใหม่ จะเป็นอย่างไร

#ชิชาริเต่า
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline