ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มสวยหรู ด้วยการบุกไปถล่ม ไชนีส ไทเป หรือ ทีมชาติไต้หวัน ถึง 6-1 ในเกมรอบคัดเลือกเอเชีายน คัพ 2027 นัดที่ 4 กลุ่ม D เมื่อวานที่ผ่านมา (14 ต.ค.68) เป็นผลงานที่ดีเกินคาด และเป็นนัดที่ทีมชาติไทยโชว์ฟอร์มได้ไฉไลที่สุด ในรอบคัดเลือกรอบนี้
ย้อนกลับไปสามนัดก่อนหน้า ทีมชาติไทย มีปัญหาเรื่องการจบสกอร์ โดยเฉพาะ 2 เกมแรกที่ชนะศรีลังกา 1-0 และ บุกไปพ่ายเติร์กเมนิสถาน 3-1 สองเกมแรกยิงได้นัดละประตู ก่อนที่เกมที่ 3 ที่เปิดบ้านชนะไต้หวัน 2-0 เป็นเกมแรกที่ยิงเกินหนึ่งประตู ซึ่งเกมนั้นก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรว่าใช้โอกาสเปลือง
แต่อย่างไรก็ดีในเกมล่าสุดเมื่อค่ำคืนวานนี้ ลูกทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ ก็สามารถลบเสียงวิพากษ์วิจารณ์วได้สำเร็จด้วยการชนะไต้หวัน ถึง 6-1 และทำให้ทีมชาติไทย ยังคงอยู่ในเส้นทางของการลุ้นตั๋วเอเชี่ยน คัพ 2027 รอบสุดท้าย ที่ซาอุดิอาระเบีย
สำหรับฟีฟ่าเดย์ รอบนี้ ทีมช้างศึก ต้องประสบปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บ โดยเฉพาะตำแหน่งศูนย์หน้า ที่สุดท้ายมีตัวเลือกเหลือแค่คนเดียว (ที่เรียกมา) คือ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ส่วนกองหน้าคนอื่นๆ พาเหรดกันเจ็บหมด ไล่ตั้งแต่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ประเมศย์ อาจวิไล, ศุภชัย ใจเด็ด และรวมไปถึง พาตริก กุสตาฟฟฺสัน ที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว
พอมาเกมแรกที่เจอไต้หวัน อิชิอิ เลือกการเล่นแบบไม่มีกองหน้าอาชีพ ใช้เป็นฟอลส์ไนน์อย่าง เบนจามิน เดวิส เนื่องจาก ธีรศักดิ์ เองมีเหลืองติดตัว กลัวว่าจะส่งผลถึงเกมนัดที่สอง ที่ต้องออกไปเยือน ทำให้นัดแรก กับไต้หวัน เกมรุกของไทยค่อนข้างอึดอัด แต่ก็ยังเอาตัวรอดมาได้ ด้วยการชนะ 2-0
แต่ในเกมล่าสุดเมื่อคืนนี้ พอเรามีหน้าเป้าอาชีพลงสนาม ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ก็ไม่ทำให้แฟนบอลชาวไทยผิดหวัง กดแฮตทริกยิงคนเดียว 3 ประตู ในเกมนี้ นอกจากนี้ยังมีนักเตะหลายคนที่โชว์ฟอร์มได้ดี ทั้ง สุภโชค สารชาติ ที่ทั้งยิงได้ และทำแอสซิสต์สวยๆ รวมทั้ง เสกสรรค์ ราตรี ก็ยิงประตูได้สองนัดติดต่อกัน, วีระเทพ ป้อมพันธ์ ก็เด่นมากๆ ในแดนกลาง เป็นตัวขับเคลื่อนเกมทั้งรุกและรับ
คู่เซ็นเตอร์อย่าง ณัฐพงษ์ สายริยา และ ศฤงคาร พรหมสุภะ ก็เล่นกันได้เข้าขารู้ใจ แม้จะโดนยิงไปหนึ่งลูก แต่ก็มาจากการยิงไกล แถมคู่แข่งยังยิงได้เฉียบคมอีกด้วย อีกตำแหน่งที่อยากชมก็คือแบ็กซ้าย-ขวา อย่าง นิโคลัส มิคเกลสัน ที่เติมเกมทางขวาได้เมามัน ทางซ้าย วันชัย จารุนงคราญ ก็ทำหน้าที่ได้ไม่ขัดเขิน ตัวสำรองอย่าง สันติภาพ จันทร์หง่อม ที่ลงมาแทน วันชัย ก็มีส่วนร่วมกับ 2 ประตุสุดท้าย
ตอนนี้ก็เหลือลุ้นเพียงแค่ 3 ทีม คือเติร์กฯ, ไทย และ ศรีลังกา ซึ่งเกมนัดต่อไปเดือนพฤศจิกายน ต้องมารอดูว่าจะเหลือลุ้นกี่ทีม
ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ ถือว่าทุกอย่างอยู่ในมือของเรา ไม่ต้องไปลุ้นผลการแข่งขันของคู่อื่นๆ ขอแค่ 2 นัดสุดท้าย เราชนะรวด ทุกอย่างก็จบ
เรียกได้ว่าเล่นได้ดีกันทั้งทีม และเป็นเกมที่ดีที่สุดของทีมชาติไทยในปีนี้ก็ว่าได้ ซึ่งก็ส่งผลให้เรายังคงอยู่ในเส้นทางของการไปลุยเอเชี่ยน คัพ 2027 รอบสุดท้ายแบบที่ไม่ต้องไปพึ่งพาทีมอื่นอื่นด้วย
และด้วยผลการแข่งขันอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน จบลงด้วยชัยชนะของ เติร์กเมนิสถาน ที่ล้างแค้นศรีลังกา ได้สำเร็จ 2-1 ทำให้จบ 4 นัดแรก เติร์กฯ กับ ไทย มี 9 แต้มเท่ากัน ตามาด้วย ศรีลังกา 6 แต้ม และ ไต้หวัน บ๊วยไม่มีคะแนน และตกรอบแน่นอนแล้ว
โดยเกมนัดต่อไป เป็นอีกหนึ่งเกมสำคัญ เราจะต้องออกไปเยือน ศรีลังกา ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ซึ่งเราต้องเก็บชัยชนะให้ได้ และนัดสุดท้ายจะกลับมาเล่นในบ้านเจอกับเติร์กเมนิสถาน ในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า ซึ่งน่าจะเป็นเกมตัดสินชี้ชะตาว่าใครจะได้ไปซาอุฯ ส่วนตัวคิดว่าถ้าทุกอย่างอยู่ในมือของเรา และได้ลุ้นไปถึงเกมนัดสุดท้าย เชื่อว่าทีมช้างศึกทำได้อย่างแน่นอน
ชัยชนะสองนัดล่าสุดของทีมชาติไทย น่าจะทำให้เก้าอี้กุนซือของ มาซาทาดะ อิชิอิ เย็นลงขึ้นเยอะ หลังจากก่อนหน้านี้ค่อนข้างระอุขึ้นมานิดหน่อย แต่พอโชว์ฟอร์มสวยหรูแบบนี้ ก็ทำให้สถานการณ์คลี่คลายขึ้นเยอะ แต่เซนเซเองก็ยังมีการบ้านที่ต้องทำต่อไปในสองเกมที่เหลือที่ต้องชนะทุกนัด
แต่อย่างน้อยชัยชนะเกมนี้ก็ทำให้แฟนบอลไทยได้มีความสุข และพร้อมเชียร์ทีมช้างศึกกันต่อไปแบบสบายใจ
ตอนนี้ทุกอย่างเข้าทางทีมช้างศึกแล้ว อยู่ที่ตัวเราแล้วว่าจะทำมันได้หรือไม่ ไว้เดือนหน้ามารอลุ้นกันใหม่ และร่วมเชียร์ทีมชาติไทยคว้าตั๋วไปลุยเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้ายไปด้วยกัน!!
#ชิชาริเต่า