logo-heading

เรื่องกระแสการปลด “อิชิอิ” ยังคงแรงต่อเนื่อง ดูแล้วคงไปอีกวันสองวัน แม้ใครพยายามจะกลบกระแสมันยังไง บอกเลยว่าตอนนี้เอาไม่อยู่

กระแสน้ำกำลังเชี่ยว อย่าเอาอะไรไปขวาง!! ปล่อยมันไป เดี๋ยวกระแสน้ำมันก็เบาลงเอง
กลับมาที่เรื่องการปลด “อิชิอิ” ว่ากันตามตรงก่อนหน้านี้ ก็มีแฟนบอลบางส่วนที่เริ่มตั้งคำถาม และเกิดความสงสัยในการทำงานของกุนซือจากแดนปลาดิบ

เนื่องด้วยผลงานช่วงหลังไม่ค่อยดี จริงๆ มันมีกระแสแฟนบอลที่อยากเปลี่ยนโค้ชอยู่เหมือนกัน
แต่กลายเป็นว่าหลังจบแมตช์กับ ไต้หวัน สองนัดล่าสุด โดยเฉพาะเกมถล่ม 6-1 ทิศทางลมก็เปลี่ยน และยิ่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จากที่แฟนบอลไม่พอใจอิชิอิ กลับเป็นเห็นใจ และได้คะแนนสงสารไปอย่างท้วมท้น

การเดินเกมของสมาคมฯ ดูจะผิดพลาดอย่างมากในตอนนี้ แม้จริงๆ แล้วเป็นแผนการที่เตรียมไว้แต่แรกก็ตาม

ซึ่งเท่าที่ประติดประต่อข่าวจากบรรดากูรู กูรู้ในวงการฟุตบอลไทย หลายๆ คน ก็บอกว่า มีแผนจะปลดกันในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้อยู่แล้ว!!

อาจจะคิดว่าแม้จะชนะได้ทั้งสองนัด แต่ก็คงเล่นได้ไม่น่าประทับใจ และถ้าปลดขึ้นมา แฟนบอลก็คงจะโอเค เพราะกระแสตอนนั้นอย่างที่บอกว่า ก็มีแฟนบอลบางส่วนเริ่มไม่เอา อิชิอิ แล้วเหมือนกัน

แต่สุดท้าย ไทย ล่อ ไต้หวัน ไป 6-1 มันก็เลยต้องมาคิดใหม่ ทำใหม่ แต่สุดท้ายคำตอบยังเหมือนเดิม คือไม่ไปต่อกับกุนซือชาวญี่ปุ่นรายนี้

และถามว่าทำไมถึงมาประกาศเอาตอนนี้ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ส่วนตัว ย้ำว่านี่คือความคิดส่วนตัวนะครับ!! อาจจะเป็นเพราะเคยมีสัญญาอะไรกับว่าที่โค้ชคนใหม่ที่มาแต่งตัวรออยู่แล้ว หรือเปล่า?!

ซึ่งมารออยู่ 4 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็เลยอาจจะอยากได้ความชัดเจนอนาคตของตัวเอง สุดท้ายก็ต้องเข้าตามแผนเดิม!!

และถ้าจะปลด! ตอนนี้ก็ดูจะเหมาะสม เพราะมีเวลาให้ได้วางแผนเตรียมทีม ก่อนเจอ ศรีลังกา (18 พ.ย.68) ซึ่งอาจจะมองว่าเป็นเกมที่ง่าย แถมยังได้อุ่นเครื่องลองทีมหนึ่งเกมในบ้านกับ สิงคโปร์ น่าจะโอเค ก็เลยออกมาในรูปนี้

โอเคละว่า ทุกฝ่ายก็พุ่งเป้าไปที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่ตัดสินใจผิดพลาดอย่างแรงกับเรื่องนี้ และไม่เห็นด้วย ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

เพียงแต่ว่าเมื่อเราวิพากษ์วิจารณ์แล้ว มันก็ทำได้เท่านี้ คงทำอะไรไปไม่ได้มากไปกว่านั้น อย่างน้อยได้บอกความรู้สึกของตัวเองออกไปก็น่าจะโอเคขึ้น ซึ่งตอนนี้สมาคมฯ ก็รู้แล้วละว่าผลลัพธ์มันเป็นอย่างไร

แต่สิ่งที่จะบอกก็คือ สุดท้ายก็ปลดกันไปแล้ว แยกทางกันไปแล้ว อิชิอิ ก็กลายเป็นอดีตกับทีมชาติไทย ไปแล้ว

ในส่วนของแฟนบอลอย่างเราก็คงต้องมูฟออน และเชียร์ทีมชาติไทย กันต่อไป เพราะช้างศึก ต้องเดินหน้าต่อ

ส่วนใครที่บอกว่าจะขอเลิกเชียร์ จะไม่เข้าสนามในเกมทีมชาติอีกหลังจากนี้ ก็เป็นสิทธิ์ของทุกคน (มันก็อาจจะเป็นการส่งสัญญาณที่ดีไปถึงสมาคมฯ)

แต่ส่วนตัวผมเชียร์ทีมชาติไทย ไม่ได้เชียร์ที่โค้ช หรือสมาคมฯ หรือฝ่ายเทคโน เทคนิค พานิชย์ อะไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะมาคุมทีม ผมก็อยากเห็นทีมชาติไทยชนะ และถ้าเป็นตอนนี้ก็อยากให้ไทยได้ไปเอเชี่ยน คัพ 2027 รอบสุดท้ายให้ได้เหมือนเดิม

อย่างที่บอกแฟนบอลต้องมูฟออน ทีมชาติไทย ต้องไปต่อ ตอนนี้สิ่งที่น่าสนใจก็คือว่า สมาคมฯ จะเอาใครขึ้นมาคุมทัพต่อจากนี้

กระแสแรงสุดก็คือ “แอนโธนี่ ฮัดสัน” ซึ่งผมก็เชื่อว่าเป็นแบบนั้น ในแผนเดิมที่สมาคมฯ ได้วางเอาไว้
แต่บอกเลยว่าพอข่าวออกไปว่าจะเป็นกุนซือเมืองผู้ดีรายนี้ แฟนบอลเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า ไม่อาววววววววววว!

ซึ่งด้วยกระแสตีกลับจากเรื่องปลด อิชิอิ มาถึงว่าที่โค้ชใหม่อย่าง “แอนโธนี่” ที่แฟนบอล ไม่เอาตั้งแต่ยังไม่แต่งตั้งแบบนี้ บอกเลยว่าอยู่ลำบากนะครับ

สมมติว่ามาจริง “ฮัดสัน” จะต้องเจอแรงกดดันอย่างมาก เริ่มตั้งแต่เกมอุ่นเครื่องกับสิงคโปร์ ที่ต้องชนะ แลวก็เล่นให้ประทับใจแฟนบอลด้วยถึงจะรอด

ต่อด้วยเกมเยือน ศรีลังกา แม้เงื่อนไขของเราจะเสมอได้ แต่บอกเลยเสมอไม่พอ ถ้าทำได้แค่เสมอรับรองโดนด่าเละแน่นอน เกมนี้ต้องชนะเท่านั้น จะกี่ลูกไม่เป็นไร แต่คุณต้องชนะ

สมมติว่าสองเกมแรกนี้ผ่านไปด้วยดี กระแสก็อาจจะเบาลงหน่อย ลากยาวไปถึง มีนาคม ปีหน้า ที่จะต้องวัดกับ เติร์กฯ ซึ่งบังคับชนะเท่านั้น เพื่อเข้ารอบสุดท้าย ถ้าไม่ชนะ ก็ไม่ต้องบอกนะว่าจะเจออะไร

นี่คือ 3 เกมที่คุณจะต้องเจอแรงกดดันมหาศาล และไม่เฉพาะ “โค้ชฮัดสัน” เท่านั้น สมาคมฯ ก็ต้องเจอแรงกดดันนี้เช่นกัน ถามว่าทั้งคู่พร้อมจะรับแรงกดดันนี้ไหม

ซึ่งบางทีพอกระแสมันเป็นแบบนี้ ไม่แน่เราอาจจะเห็นการหักมุมในตอนจบของเรื่อง ที่อาจจะไม่ใช่คนที่เราคาดคิดก็ได้

บอกเลยว่าการแต่งตั้งโค้ชคนใหม่สำคัญมาก มีโค้ชไม่กี่คนที่แต่งตั้งมาแล้วจะลดกระแสต่อต้านลงไปได้บ้าง จะเป็นใครก็ลองไปคิดกันเอา แต่ส่วนตัวคิดว่ายากอยู่ที่จะเป็นคนคนนั้น

แต่ฟุตบอลไทย อะไรก็เกิดขึ้นได้ ใครจะไปรู้

ส่วนตัวก็อยากให้มีการหักมุม เกิดขึ้นนะ!!

เพราะถ้าตอนจบของเรื่อง มันเป็นอย่างที่ทุกคนคาดเดาได้ หนังเรื่องนั้นคงไม่สนุก และสุดท้ายปลายทางน่าจะจบไม่สวย!!

#ชิชาริเต่า
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline