ชื่อของเมืองทอง ยูไนเต็ด ในเวลานี้อาจไม่เกรียงไกรเหมือนแต่ก่อน ภายหลังจากที่ไม่อาจคว้าความสำเร็จโทรฟี่แชมป์นับตั้งแต่ปี 2017 และพวกเขาก็ต้องจำใจปล่อยนักเตะตัวหลักเพื่อย้ายออกไปหาความท้าท้ายใหม่ และเปลี่ยนนโยบายจากทีมเจ้าบุญทุ่มเมืองไทย เป็นการปลุกเยาวชนขึ้นมาใช้งานแทน หลังจากที่พวกเขาเห็นดาวรุ่งเก่าๆของสโมสรไปเติบโตประสบความสำเร็จกับสโมสรอื่น เช่นสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และสมุทรปราการ ซิตี้
แต่ไม่ใช่ว่าแข้งเยาวชนเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ไปได้ดีกับทีมอื่น จะไม่มีความคิดที่จะกลับมาเล่นให้อู่ข้าวอู่น้ำเดิม เพราะยังมีแข้งมากมายที่ถวิลหาและคาดหวังที่จะกลับมาสวมยูนิฟอร์มกิเลนผยอง และ 5 แข้งที่เราจะเอ่ยถึงคือกลุ่มคนที่แจ้งไม่เกิดในทีมชุดใหญ่ แต่กลับมาสู่ทีมที่พวกเขาใฝ่ฝันอีกครั้ง
พิชา อุทรา
ไอ้หนุ่มจากเชียงใหม่ ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนตั้งแต่เด็กๆ เพื่อไปฝึกฟุตบอลเป็นเยาวชนในโครงการจีเอ็มจี อะคาเดมี่ ที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี จนเมื่อศูนย์ฝึกหมดสัญญา เขาและเพื่อนๆถูกส่งตัวมาเป็นส่วนใหญ่ของทีมเยาวชนเมืองทอง ยูไนเต็ด จนได้เข้าเรียนที่โรงเรียนโพธินิมิตร และเมื่อกิเลนผยองเป็นพันธมิตรกับแอต.มาดริด พิชา และผองเพื่อนจึงถูกส่งตัวไปฝึกซ้อมที่แดนกระทิงดุ เพื่อเก็บเกี่ยววิชาความรู้ในเชิงลูกหนังเป็นเวลา 6 เดือน
เมื่อกลับถึงเมืองไทย ปี 2014 เขาเป็น 1 ในขุนพลยังบลัดภายใต้การคุมทีมของโค้ชอั๋น สุรพงษ์ คงเทพ ผงาดพาทีมกิเลนผยอง ชุดยู-19 คว้าแชมป์ โค้ก คัพ สมัยแรก ในปี 2014 พร้อมกับซิวรางวัลดาวซัลโว พ่วงด้วยตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ตามด้วยการเป็นหนึ่งในขุนพลชุดป้องกันแชมป์ โค้ก คัพ ในปีถัดมาอีกด้วย
เมื่อฝีเท้าแกร่งเกินบอลเยาวชน เมืองทอง จึงปล่อย เคน ไปร่วมทีมพัทยา ยูไนเต็ด เป็น 1 ในขุนพลที่ช่วยทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีกปี 2016 และรับใช้ทัพโลมาสีน้ำเงินมายาวนาน ในรูปแบบสัญญายืมตัว และโอกาสที่จะขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เมืองทองเมื่อ 4-5 ปีก่อน เป็นเรื่องที่ยากมาก
เขาฉายแสงแจ้งเกิดในลีกสูงสุดแดนสยามอย่างสง่างาม เป็นนักบอลเกมรุกที่เล่นได้สาระพัดตำแหน่ง ริมเส้น หน้าต่ำ หรือเพลย์เมกเกอร์ จนมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2017 และทีมชาติชุดใหญ่ จนเมื่อเปลี่ยนสีเสื้อจากพัทยา มาเป็นสมุทรปราการ ซิตี้ เขายังสามารถรักษาฟอร์มการเล่นได้คงเส้นคงวา 106 เกม ยิงไป 17 ประตู ผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ บอร์ดบริหารเมืองทอง จึงไม่รอช้าเซ็นสัญญา ดึงตัว พิชา อุทรา กลับมาร่วมทีมในที่สุด
ภูมินทร์ แก้วตา
นักบอลพรสววรค์สูงจากเมืองหลวง เด็กเยาวชนชุดแรกๆของเมืองทอง หมอนี่มีดีทุกอย่างชั้นเชิงลูกหนังที่แพรวพราว ทั้งการเลี้ยงบอลและเคลื่อนที่ ตอนที่อายุ 17 ปี ภูมินทร์ ถูกส่งตัวไปอยู่กับนครนายก เมื่อปี 2013 ตอนสมัยที่แข่งขันในระดับลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 เป็นดาวรุ่งฟอร์มร้อนแรงคนหนึ่ง จนถูกทำสกู๊ปกับเมืองทองและสื่อในเครือสยามกีฬาอยู่เป็นประจำ จนผู้คนมากมายต่างคาดหวังว่าหมอนี่จะขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่
หลังโชว์ฟอร์มเจ๋งในการแข่งขันในระดับบอลเยาวชนในระดับ 19 ปี ทัวร์นาเมนต์โค้ก คัพ 2014 และ 2015 รุ่นราวคราวเดียวกับ พิชา อุทรา และ วงศกร ชัยกุลเทวินทร์
กระทั่งการที่ผู้บริหารเมืองทองเป็นพันธมิตรกับทางพัทยา ยูไนเต็ด พวกเขาจึงปล่อยเด็กเยาวชน ไปเล่นกับทีมโลมาน้ำเงินในปี 2015 ภูมินทร์ ถูกส่งตัวไปร่วมทีม และถูกขายในเวลาต่อมา “เม่น” เป็นมิดฟิลด์ตัวริมเส้นที่เทคนิคดี น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บที่ฉุดรั้งทำให้ “เม่น” ก้าวสู่ระดับทีมชาติไม่ได้ทั้งที่เบสิคทักษะความสามารถดีกว่า ผู้เล่นเกมรุกในตำแหน่งปีกในนามทีมชาติเยอะแยะมากมาย
ศุภนันท์ บุรีรัตน์
กองกลางจากจันทบุรี เยาวชนจีเอ็มจี อะคาเดมี่รุ่นแรก ที่ได้รับการเซ็นสัญญา ขณะที่อายุ 17 ปี เมื่อปี 2010 เซฟ เหมือนเด็กทั่วไปที่ใฝ่ฝันอยากลงสนามให้เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่รายล้อมไปด้วยแข้งดีกรีทีมชาติไทย ทว่าชีวิตเขาก็ไม่ต่างจากดาวรุ่ง ที่ต้องไปหาประสบการณ์กับสโมสรอื่นๆ เช่น แอร์ฟอร์ซ, จันทบุรี, พนักงานยาสูบ ฯลฯ
จากดาวรุ่งที่ไม่มีใครชายตามอง ศุภนันท์ ชีวิตเปลี่ยนเมื่อครั้งที่ย้ายไปเล่นในดิวิชั่น ปี 2013 กับนครนายก เมื่อแอนดรูว์ ออร์ด กุนซือในเวลานั้น เลือกตัดต่อดีเอ็นเอ จากกองกลางริมเส้นมาเป็นแบ็คขวา ปรากฏว่า เซฟ แจ้งเกิด และมันส่งผลให้เขาได้โอกาสครั้งสำคัญถูกส่งตัวไปเล่นเกมรับทางฝั่งขวากับพัทยา ยูไนเต็ด เมื่อปี 2016 กลายเป็นแข้งพลังเทอร์โบ ที่ฟิตเต็มถังวิ่งขึ้นวิ่งลงไม่มีหมด เมื่อมีฟอร์มที่โดดเด่น เมืองทอง ยูไนเต็ด ไม่รอช้า ดึงตัวเด็กเก่าของตัวเองกลับมาร่วมทีม เพื่อทดแทนการจากไปของ ทริสตอง โด น่าเสียดาย ที่ฟอร์มการเล่นของ ศุภนันท์ เล่นไม่ได้อย่างที่คาดหวัง และสุดท้ายก็ต้องซมซานกลับไปเล่นให้สมุทรปราการ ซิตี้ ตามเดิม
ชนานันท์ ป้อมบุบผา
กองหน้าจากปทุมธานี ที่มาอยู่กับเมืองทอง ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุยังไม่ครบ 18 ปี ได้สัมผัสแชมป์ไทยลีก ปี 2009 สมัยแรก ทว่าด้วยความที่เป็นดาวรุ่งทำให้โอกาสลงสนามน้อยนิด จนต้องระเห็จระเหินไปอยู่กับเพื่อนตำรวจ เพราะเขาต้องเรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังแจ้งไม่เกิดกับทั้งเมืองทองและเพื่อนตำรวจ ชนานันท์ วิ่งไปขอโอกาสทดสอบฝีเท้ากับ”โค้ชเบ๊” ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ที่สโมสรโอสถสภา และได้รับการเซ็นสัญญา 2 ปีในรั้วพลังเอ็ม “ทู” ซัลโวไป 25 ประตูในไทยลีก มีชื่อติดทีมชาติไทยชุด 23 ปีและชุดใหญ่
เมื่อมีผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้ เมืองทอง จึงไม่รอช้าดึงนักเตะมาร่วมทีม ด้วยการใช้สายสัมพันธ์เก่าๆโน้มน้าวให้นักเตะกลับมาอยู่ในถิ่นเอสซีจี สเตเดี้ยม เมื่อปี2015 ในยุคของกุนซือดราแกน ทาลายิซ น่าเสียดายเขาเป็นแค่อะไหล่สำรองให้เคลตัน ซิลวา และ ธีรศิลป์ แดงดา ยิงไป 11 ประตู ก่อนจะถูกปล่อยไปให้บีอีซี เทโรศาสน ยืมตัว และถูกขายต่อไปยังสุพรรณบุรี เอฟซี ปัจจุบันมาอยู่กับแบงค็อก ยูไนเต็ด
อดิศักดิ์ ไกรษร
กองหน้าจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ที่ฉายแววความเก่งกาจจนถูกตามตัวมาอยู่กับเมืองทอง ยูไนเต็ด ในยุคก่อร่างสร้างทีมยุคแรก ว่ากันว่านี่คือกองหน้าที่จะมาเป็นตัวตายตัวแทนของ ธีรศิลป์ แดงดา ทว่าเขาไม่ได้อยู่กับทีมกิเลนผยอง เมื่อถูกบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซื้อตัวไปร่วมทีมพร้อมๆกับจักรพันธ์ แก้วพรม เมื่อปี 2011
อดิศักดิ์อยู่กับทีมปราสาทสายฟ้า 4 ฤดูกาล สอดแทรกเป็นตัวหลักในทัพเซราะกราวไม่ได้ เพราะสโมสรแห่งนั้นใช้บริการกองหน้าต่างชาติ สุดท้ายเขาจึงอำลาทีมไปอยู่กับบีอีซี เทโรศาสน ในปี 2015 ทว่าก็ค้าแข้งได้แค่ซีซั่นเดียว และถูกดึงตัวมาอยู่กับเมืองทอง ยูไนเต็ด ในปีถัดมา เขาเป็นคีย์แมนในแดนหน้าร่วมกับมุ้ย ธีรศิลป์ และเคลตัน ซิลวา พาทีมกระชากแชมป์ไทยลีกในปี 2016 ชีพจรชีวิตอยู่ในช่วงขาขึ้นมาก ติดทีมชาติไทย ก่อนที่จุดหักเหจะเกิดขึ้นในบอลประเพณี จุฬา ธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2018 พักยาวร่วมๆ 9 เดือน ความมั่นใจและฟอร์มการเล่นหดหายไม่พีคเหมือนเก่า กลายเป็นนักบอลที่หมดความมั่นใจไปซะงั้นๆ
สุดท้ายเมืองทอง ยูไนเต็ด จึงตัดสินใจปล่อย อดิศักดิ์ ไกรษร ไปฟื้นฟูความมั่นใจที่การท่าเรือ เอฟซี ในปี 2020
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
