โค้ชไทยลีกสู่เวทีที่ใหญ่กว่า

วันเวลาผ่านไปรวดเร็วไม่อาจย้อนกลับมาแก้ไขเรื่องราวเก่าๆ ในอดีตที่เคยผิดหวังได้ เฉกเช่นเดียวกันกับชีวิตมนุษย์ที่ต้องเดินหน้ามองหาเรื่องราวใหม่ๆ อยู่เสมอ

ชื่อที่จะเอ่ยต่อไปนี้คือเหล่าจอมวางหมากผู้กำลังโลดเล่นในวงกีฬาลูกหนังในปัจจุบัน ซึ่งทุกคนนั้นเคยผ่านเวทีไทยลีกมาแล้ว 1.ปาเชต้า กุนซือผู้นำเอลเช่ ทีมเล็กๆจากแคว้นบาเลนเซีย ใช้เวลา 2 ปีครึ่งเลื่อนชั้นจากฟุตบอลเซกุนด้า เบ หรือระดับดิวิชั่น 3 ของสเปน ผ่านเซกุนด้า ดิวิชั่น ไปสู่ลาลีกา เป็นครั้งแรก ซึ่งการเลื่อนชั้นในครั้งนี้มันคือการก้าวกระโดดแบบปีต่อปี และมันเกิดจากการเลื่อนชั้นโดยการเพลย์ออฟซะด้วย แม้ว่าปาเชต้า จะไม่ได้จารึกชื่อตัวเองว่าเป็นเทรนเนอร์ระดับลาลีกา ในซีซั่นหน้า เนื่องจากถูกปลดออกจากตำแหน่ง 1 วันหลังได้เลื่อนชั้น แต่ถึงกระนั้นโปรไฟล์นี้ก็เป็นอะไรที่หอมหวาน และน่าดึงดูดสำหรับทีมระดับลีกพระรองของสเปนได้ไม่ยาก ในอดีตปาเชต้า มีโปรไฟล์คือการเป็นเซ็นเตอร์แบ็คของเอสปันญ่อล รุ่นราวคราวเดียวกับเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชื่อดังระดับโลก ก่อนจะผันตัวมาทำหน้าที่โค้ชอาชีพทำงานในลีกระดับล่างของสเปน ทั้ง ราซิง ซานตาแดร์, นูมานเซีย และเอร์กูเลส และถูกทาบทามให้ออกมาผจญภัยนอกประเทศหนแรกกับราชบุรี มิตรผลเอฟซี ในปี 2017 แม้ว่าเขาจะไม่มีประสบการณ์ลูกหนังในลีกเอเชียมาก่อน แต่ถึงกระนั้นความรู้ที่สั่งสมมาตลอดทั้งการเป็นผู้เล่นและผู้ฝึกสอน ช่วยพาทีมราชันมังกรเกาะอยู่ในท็อปซิกซ์ไทยลีก ในช่วงปี 2016 และ 2017  โดยเฉพาะการลงเล่นในรังเหย้าสนามมิตรผล สเตเดี้ยม ปาเชต้า นำทีมเก็บชัยได้อย่างต่อเนื่อง แต่จากการที่ทีมมักประสบปัญหาฟอร์มหลุดยามออกไปเล่นเกมเยือน ส่งผลให้ทีมไม่สามารถสานฝันบอร์ดบริหาร นั้นคือการลุ้นไปเล่นฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก จนไม่ได้รับการต่อสัญญาเมื่อจบซีซั่น 2017 2.ริคาร์โด โรดริเกวซ หากไม่มีกุนซือผู้นี้ วงการลูกหนังไทยอาจะไม่ได้รู้จัก เฮแบร์ตี้ เฟอร์นานเดซ สิงห์อีซ้ายแซมบ้าเจ้าพ่อลูกนิ่งที่มาฉายแสงแจ้งเกิดในไทยลีกเป็นแน่ โค้ชชาวเมืองโอเบียโด้ ผู้ไปไม่สุดกับการเป็นนักบอลอาชีพ และผันตัวไปเรียนวิชาชีพโค้ช ก่อนจะกลายเป็นทีมงานของแฟร้ง ไรจ์การ์ด สมัยที่ทำทีมชาติซาอุดิอาระเบีย เมื่อปี 2011 เขาเป็นทั้งผู้ช่วยโค้ชและนักวิเคราะห์เกมทำหน้าที่เป็นหลังบ้านให้มาโดยตลอด จนเมื่อปี 2014 เขาได้โอกาสทำทีมกับราชบุรี มิตรผล จากทีมธรรมดาไม่มีอะไร รอดพ้นการตกชั้นจากไทยลีกปี 2013 ริคาร์โด ปรุงแต่งทีมเล็กๆลุ่มน้ำแม่กลองได้ไฉไล อาศัยนักเตะต่างชาติเป็นแกนหลักแบกทีม ผสมผสานกับเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ใส่ลงไปให้นักเตะ และช่วยสโมสรจบอันดับ 4 ในปี 2014 แบบพลิกความคาดหมาย หลังจากนั้นเขาได้รับโอกาสคุมบางกอกกล๊าส และสุพรรณบุรี เอฟซี แต่ผลงานไม่ได้ดีเหมือนราชบุรี แถมยังไม่ได้สิทธิ์ขาดการทำทีมอีกตั้งหาก กระทั่งปลายปี 2016 ริคาร์โด ได้จ็อบที่ใหญ่และท้าทายกว่าฟุตบอลแดนสยาม นั้นคือการโยกไปทำทีมโทคุชิมะ วอร์ทิส ในเจลีก 2 ซึ่งผลงานค่อนข้างไปได้สวย เป็นรูปธรรมจับต้องได้ ปี 2017 จบที่ 7 ชวดโควต้า่เพลย์ออฟไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ปี 2018 จบที่ 11 ซีซั่นที่ผ่านมาริคาร์โด ใกล้เคียงกับการพาวอร์ติสขยับตัวเองไปอยู่ในเจลีก น่าเสียดายที่การเพลย์ออฟนัดตัดสินกับโชนัน เบลล์มาเร่ จบด้วยผลเสมอ 1-1 ทำให้ต้องต่อสู้ในเจลีก 2 ต่อไป 3.สก็อตต์ คูเปอร์ กุนซือชาวไอริช ที่ทำงานเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลให้เลสเตอร์ ก่อนจะถูกนายใหญ่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทาบทามให้มาทำงานดูแลทีมเยาวชนให้ทัพปราสาทสายฟ้า ในเวลานั้นนอกจากฝึกสอนเด็กแล้ว คูเปอร์ ก็ยังพ่วงตำแหน่งนักวิเคราะห์เกมให้ทีมชุดใหญ่อีกด้วย หลังการปลด"โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม กลางเดือนพฤษภาคม 2013 เขาจึงถูกแต่งตั้งให้ทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนเต็มตัว และนั้นคือจุดเริ่มต้นของแท็คติก 3-5-2 และ 3-4-3 ของบุรีรัมย์ ที่ยึดโยงเป็นแบบอย่างมาจนถึงปัจจุบัน โจมตีคู่แข่งเกมริมเส้น อาศัยความสามารถเฉพาะตัวที่จัดจ้านของนักเตะต่างชาติลงโทษ แถมยังมีอาวุธลูกเซ็ตเพลย์ที่สุดแสนอันตราย นักเตะหลายๆคนได้รับอานิสงค์จากกลยุทธ์ของคูเปอร์ โดยเฉพาะ ธีราทร บุญมาทัน ที่ฉายแสงแจ้งเกิดเป็นนักเตะแถวหน้าไปเลย หลังประสบปัญหาเรื่องครอบครัว คูเปอร์ ลาออก และโผล่ไปรับงานคุมเมืองทอง ยูไนเต็ด แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน 3 เดือน ก็ต้องซมซานไปทำงานในลีกอินโดนีเซีย และกลับมาเมืองทองอีกคำรบ เพื่อรับงานคุมอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ในปี 2015 คูเปอร์ พาทีมเลื่อนชั้น 3 สเต็ปก้าวกระโดดจากดิวิชั่น 2 ลีกภูมิภาค 2015 ไปดิวิชั่น 1 ปี 2016 และเลื่อนชั้นไปไทยลีกในปี 2017 แท็คติกของเขา แทบถอดแบบฟุตบอลโบราณแบบอังกฤษ นึกภาพง่ายๆก็สไตล์แบบแซม อัลลาไดซ์ หรือโทนี่ พูลิส ขันเกมรับให้เน้นเป็นรถบัส, อาศัยลูกบอมบ์กลางอากาศ ลูกเตะมุมให้เป็นประโยชน์ เล่นงานคู่แข่ง พจนานุกรมของคูเปอร์ จึงไม่มีความสวยงาม เล่นน่าเบื่อ นักเตะภายในทีมทั้งไทยและต่างชาติเกรดรอง แต่อยู่ได้เพราะระบบทีมซึ่งเป็นจุดเด่น หลังพาเทพอินทรี จบอันดับ 10 ไม่ต้องไปดิ้นรนหนีการตกชั้น เขาขาลาออก ไปทำงานให้โปลิศ เทโร ในปี 2018 แต่สไตล์การทำทีมไม่คลิกกับนักเตะและผู้บริหาร ก่อนจะโยกไปรับงานฝ่ายเทคนิคให้สมาคมฟุตบอลฟิลิปปินส์ ทำหน้าที่ประสานระหว่างทีมชาติชุดใหญ่และชุด 22 ปี 4.สลาวิซ่า โยคาโนวิช ในบรรดาโค้ชต่างชาติที่ย้ายมาทำมาหากินในไทยแลนด์ คงไม่มีใครที่น่าภูมิใจเท่ากับ ชายที่ชื่อ สลาวิซ่า โยคาโนวิช อดีตกองกลางทีมชาติยูโกสลาเวีย (เซอร์เบีย) อีกแล้ว โค้ชชาวเซิร์บ ถือเป็นนักเตะระดับตำนานของยูโกสลาเวีย ผ่านการค้าแข้งมาอย่างโชกโชน ทั้งเรอัล โอเบียโด้ ,เตเนริเฟ่,เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า และ เชลซี โยคาโนวิช หรือที่สื่อมวลชนแดนปลาแดก เรียกสั้นๆ ว่า “ย็อคก้า” ตอบรับข้อเสนอจากเมืองทอง ยูไนเต็ด เข้ามารับงานคุมทีมในฤดูกาล 2012 เพื่อนำทีมกลับมาทวงแชมป์ไทยลีกให้ได้อีกหน หลังเสียแชมป์ให้กับทีมดังแห่งเมืองเซราะกราวอย่าง บุรีรัมย์ ไป ในปี 2011 “ย็อคก้า” หาจุดลงตัวให้ทีม สานคู่หูทัพกิเลนผยอง2 ประสาน M&M (ย่อมาจาก มาริโอ ยูรอฟสกี้ และ มุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา) จึงกลายเป็นคู่หูที่ยิ่งเล่นร่วมกันยิ่งอันตราย นอกจากเกมรุกที่แสบทรวงทำลายแผงหลังคู่ต่อสู้เป็นว่าเล่น เกมรับเมืองทอง ในยุคของย็อคก้า ก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน เนื่องจากตำราลูกหนังแห่งคาบสมุทรบอลข่านขึ้นชื่อในเรื่องของเกมรับเป็นอันดับแรก ทีมจบเข้าป้ายในตำแหน่งแชมป์ไทย พร้อมสถิติไม่แพ้ใครตลอดทั้งฤดูกาล พ่วงโควต้าการไปร่วมวงโม่แข่งเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ทว่าผลงานในซีซั่นที่ 2 ของย็อคก้าไม่ไฉไลทีมโดนจับทางได้ บวกกับนักเตะตัวหลักในเมืองทอง เป็นตัวทีมชาติไทยที่กำศึกหนักมายาวนานทำให้ สภาพนักเตะกรอบ ผลงานในลีกไม่สู้ดีและผลงานในบอลถ้วยเอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม เก็บได้เพียงแค่ 1 แต้ม ทำให้เขาถูกยกเลิกสัญญาและกลายเป็นโค้ชพเนจร ย้ายไปทำทีมเลฟสกี้ โซเฟีย ในบัลแกเรีย, เอร์กูเลส ในสเปน แต่ไม่มีทีมไหนที่อยู่ได้ยาวนานเกิน 3 เดือน ทว่าระหว่างเตะฝุ่นอยู่นั้นเอง วัตฟอร์ด ซึ่งสมัยนั้นอยู่ในเดอะแชมเปี้ยนชิพได้เสนองานกุนซือให้กับเขา กลับกลายเป็นว่าจับพลัดจับผลู นำทีมแตนอาละวาดเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2014-15 ในฐานะรองแชมป์ แต่ด้วยความที่ตกลงค่าเหนื่อยและสัญญาใหม่ไม่ลงตัว ย็อคก้า จึงถอนสมอออกจากทีมไปโดยปริยาย แต่คนมีฝืมือว่างงานไม่นาน มัคคาบี้ เทลอาวีฟ ทาบทามให้ไปทำทีม และฝากผลงานชิ้นโบว์แดง พาทีมดังจากอิสราเอล ไปโม่แข้งรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2015-16 อย่างไรก็ตามด้วยความติดใจรสชาติลูกหนังชาวบริติช นำพาเข้าคัมแบ็คมายังมหานครลอนดอน เพื่อปกป้องฟูแล่ม ให้อยู่รอดปลอดภัยในลีกลำดับ 2 ของอังกฤษ ก่อนจะค่อยๆ สร้างทีมเจ้าสัวน้อยให้กลายเป็นทีมในกลุ่มลุ้นเลื่อนชั้นในระยะเวลา 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา และจารึกชื่อตัวเองว่าเป็นโค้ชที่ผ่านงานไทยลีกและไปลุยพรีเมียร์ลีก ทว่าด้วยประสบการณ์ที่ไม่มากพอ ทำงานไปถึงเดือนพฤศจิกายน 2018 ก็โดนปลดออกจากตำแหน่งสังเวยให้กับอันดับที่จมอยู่ท้ายตาราง ปัจจุบัน ย็อคก้า โกยเงินดอลล่าร์ อยู่ในลีกกาตาร์กับสโมสรอัล การาฟา ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ไลน์ขอบสนาม