ข่าวใหญ่ที่สุดประจำวันนี้คงหนีไม่พ้นการประกาศอำลาสโมสร อาร์เซน่อล หลังจบฤดูกาลนี้ของ อาร์แซน เวนเกอร์ หลังนั่งกุมบังเหียนมาอย่างยาวนาน 22 ปี
จริงๆ แล้วสัญญาของ เวนเกอร์ ยังสามารถคุมทีมไปได้ต่อจนถึงจบฤดูกาลหน้า แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใจเจ๊แกคิดอย่างไร อาจเป็นเพราะผลงานที่ไม่สู้ดีนักในซีซั่นนี้ หรือ กระแสขับไล่จากแฟนบอลที่ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง อันนี้เราก็ไม่ทราบได้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ก็เห็นแฟนปืนหลายคนอยู่นะที่แอบใจหาย แม้จะเคยด่าเคยไล่เคยตะโกน "Wenger Out" แต่เอาล่ะ ท้ายสุดเราก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของเจ๊แก ว่าแล้วขอพาไปดูไทม์ไลน์เหตุการณ์สำคัญๆ ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายของ เวนเกอร์ กับ อาร์เซน่อล กันหน่อยดีกว่า พฤษภาคม 2017 หลังพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จ สาวก "เดอะ กันเนอร์ส" ต่างก็รอลุ้นกันว่า เวนเกอร์ จะประกาศลาทีมโดยมีแชมป์ติดมือ หรือจะทนกระแส "Wenger Out" อยู่ต่อ แต่กุนซือระดับนี้ไม่ใช่ขี้ๆ นะครับเพราะมีข่าวว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็ต้องการได้ตัวเจ๊ไปคุมทีมแทน อูไน เอเมรี่ เหมือนกัน ทว่าเงินของ “เปแอสเช” ก็ไม่สามารถซื้อใจ เวนเกอร์ ได้เพราะท้ายสุด "เจ๊เหี่ยว" ตัดสินใจสะบัดหมึกอยู่คุมทีมต่อไปอีก 2 ปี แน่นอนว่าต้องมีทั้งคนดีใจและไม่พอใจ ซึ่งดูแล้วอย่างหลังน่าจะมากกว่า กรกฏาคม 2017 เวนเกอร์ ยอมตัดใจทุบคลังทำลายสถิติสโมสรคว้าตัว อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสจากสโมสร โอลิมปิก ลียง เข้ามาร่วมทีม ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ สิงหาคม 2017 จัดการย้ำแค้น เชลซี ด้วยการคว้าแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ มาครองได้สำเร็จ จากการดวลจุดโทษ หลังเสมอกันในเวลา 1-1 ถือเป็นการเปิดหัวเริ่มฤดูกาลใหม่ได้ดูดีทีเดียว ขณะที่เกมลีกนัดแรก อาร์เซน่อล ได้เล่นในบ้านเจอ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็มีดราม่ามันซะตั้งแต่เกมแรกเลย เมื่อทัพ "ปืนใหญ่" จัด 2 ลูกท้ายเกมพลิกแซง "จิ้งจอกสยาม" ไปได้ 4-3 ทว่าอีก 2 นัดถัดมากลับแพ้รวด โดยเป็นการบุกไปพ่าย สโต๊ค ซิตี้ 1-0 และต่อด้วยบุกไปโดน ลิเวอร์พูล ถล่มเละเทะ 4-0 จากการแพ้ 2 เกมติด แถมยิงใครไม่ได้ ทำให้เสียงตะโกนไล่และกระแส "Wenger Out" กลับมากระหึ่มอีกครั้ง กันยายน 2017 ยี่ห้อ เวนเกอร์ เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น เมื่อกระแสขับไล่แรงมาที ก็จะฟอร์มดีที เดือน ก.ย. นี่คือเดือนเรียกความมั่นใจของเหล่าแข้ง "ปืนโต" อย่างแท้จริง เพราะไม่แพ้ใครสักนัด ชนะ 5 เสมอ 1 ไล่ตั้งแต่ถล่ม บอร์นมัธ 3-0, ชนะ โคโลญจน์ ในยูโรปาลีก 3-1, บุกเจ๊า เชลซี 0-0 ชนะ ดอนคาสเตอร์ 1-0 ในลีกคัพ, อัด เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-0 และปิดท้ายด้วยจัดการ บาเต้ โบริซอฟ 4-2 ตุลาคม 2017 ยังคงฟอร์มดีต่อเนื่อง ทั้งเดือนแพ้เกมเดียวคือการพ่ายต่อ วัตฟอร์ด 2-1 พฤศจิกายน 2017 แม้จะมีเกมโดน แมนฯ ซิตี้ อัดเละ 3-1 แต่นัดถัดมาแก้ตัวได้สำเร็จด้วยการเอาชนะอริตลอดกาลอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปได้ 2-0 อย่างไรก็ตามกระแสขับไล่ เวนเกอร์ ก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ธันวาคม 2017 กระแสข่าวเรื่องการย้ายทีมของ อเล็กซิส ซานเชซ และ เมซุต โอซิล อาจจะมีผลต่อสภาพจิตใจของทีมโดยรวม ทำให้เดือนนี้ผลงานของ อาร์เซน่อล ถือว่าไม่สู้ดีนัก เพราะหลุดเสมอกับทีมที่ควรชนะทั้ง เซาธ์แฮมป์ตัน, เวสต์แฮม และ เวสต์บรอม นอกจากนี้ผลงานการเจอทีมใหญ่ก็ไม่ดีด้วย พ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด คาบ้าน 1-3 และเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 มกราคม 2018 มกราคม คือเดือนแห่งความหายนะที่แท้จริงของ อาร์เซน่อล และ เวนเกอร์ ในฤดูกาลนี้ เพราะนอกจากจะส่งท้ายปีเก่าได้ไม่สวยด้วยการเสมอ เวสต์บรอม 1-1 แล้ว มาเดือนนี้ยังแพ้ น็อตติ้งแฮมป์ ฟอร์เรสต์ ทีมระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ไป 4-2 ร่วงตกรอบ เอฟเอ คัพ อย่างไวทั้งที่เป็นแชมป์เก่า แต่ก็ยังดีแก้ตัวได้ในถ้วยลีกคัพ ที่ทะลุผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ เชลซี ไปด้วยสกอร์รวม 2-1 ส่วนผลงานเกมลีกก็ไม่ดีเลยมีหลุดแพ้ทีมเล็กอย่าง บอร์นมัธ และ สวอนซี จนถูกตัดออกจากสาระบบการลุ้นแชมป์เป็นที่เรียบร้อย แต่ท้อปโฟร์ยังพอได้ลุ้น ขณะที่การเสริมทัพนั้นถือว่าทำได้ดี แม้ต้องจำใจยอมปล่อย อเล็กซิส ซานเชซ แนวรุกตัวสำคัญที่ไม่ยอมต่อสัญญาไปให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ก็ได้ เฮนริค มคิทาร์ยาน เข้ามาทดแทน เท่านั้นไม่พอ เวนเกอร์ ยังยอมทุบสถิติสโมสรอีกครั้งกระชาก ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง จาก ดอร์ทมุนด์ เข้ามาเสริมคมด้วยค่าตัว 56 ล้านปอนด์ กุมภาพันธ์ 2018 การได้เข้าชิง ลีกคัพ, ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้าย ยูโรปา ลีก และการเสริมทัพที่ดูจะโดนใจแฟนบอล ก็ทำให้กระแสขับไล่ "เจ๊เหี่ยว" ลดน้อยลงไปนิดนึง แต่เดือนแห่งความรักนี้ก็ไม่ใช่เดือนที่สวยหรูสำหรับ "ปืนใหญ่" เพราะท้ายสุดต้องพลาดแชมป์ ลีกคัพ ไปหลังโดน แมนฯ ซิตี้ ไล่อัด 3-0 ส่วนเกมลีกก็โดน สเปอร์ส คู่ปรับตลอดกาลเอาคืนเล้าไก่จิกไป 1-0 อย่างไรซะยังพอมีข่าวดีอยู่บ้างนั่นคือการได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโรปาลีก มีนาคม 2018 เริ่มเดือนได้ไม่สวยงามเลย เพราะแพ้ให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในเกมลีกด้วยสกอร์เดิมกับที่แพ้ในนัดชิง ลีกคัพ 3-0 จากนั้นก็เมาหมัดพ่าย ไบร์ทตัน อีก 2-1 ทำให้ถึงตอนนั้นหากรวมจาก 2 นัดสุดท้ายของเดือน ก.พ. เท่ากับว่า อาร์เซน่อล แพ้มา 4 เกมซ้อนรวมทุกรายการ แน่นอน กระแสขับไล่ดังกระหึ่มอีกครั้ง แต่อย่างที่บอก เวนเกอร์ ตายยาก เพราะทั้งที่เมาหมัดพ่าย 4 นัดรวด แต่กลับคืนฟอร์มเก่งบุกไปเอาชนะ เอซี มิลาน ที่กำลังฟอร์มเทพได้ 2-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูโรปาลีก เท่านั้นไม่พอกลับมาเล่นที่บ้านก็สอยไปอีก 3-1 ทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ เมษายน 2018 หลังจากปิดเบรคทีมชาติไป คงจะเป็นเวลาดีที่ เวนเกอร์ จะได้นั่งทบทวนตัวเอง ข่าวการวางมือจากการคุมทีม อาร์เซน่อล หลังจบฤดูกาลค่อยๆ แรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ในระหว่างนั้น "เจ๊เหี่ยว" ก็พา "ปืนใหญ่" ขยับเข้าใกล้แชมป์ ยูโรปาลีก ไปอีกก้าว ด้วยการเอาชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก ได้ด้วยสกอร์รวม 6-3 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ก่อนจะประกาศชัดว่าจะเดินหน้าเต็มสูบกับถ้วยนี้ เพื่อโควต้าไปลุย ชปล. ในปีหน้า ซึ่งพอพูดถึงปีหน้าใครๆ ต่างก็คิดว่า เจ๊ยังไม่ยอมแพ้ ขอคุมต่อจนหมดสัญญา แต่ป่าวเลย เกมล่าสุดที่นำลูกทีมบุกไปพ่าย นิวคาสเซิ่ล 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ทีผ่านมา อาจเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่เติมเต็มการตัดสินใจอำลาทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" ของเจ๊แกก็เป็นได้หมดเวลาแล้ว เจ๊ คงต้องไป ขอให้ได้แชมป์ ยูโรปาลีก ส่งท้ายนะ บ๊ายบาย อาร์แซน เวนเกอร์ หนึ่งในกุนซือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนนึงของบอลอังกฤษ
ชิน ชินพัฒน์