เรียนตามตรงว่า ตอนแรกที่เอสซีจี เมืองทองฯ เลือก "มาริโอ ยูรอฟสกี้" ขึ้นมาคุมทัพแทนที่ อเล็กซานเดร กาม่า ที่ลาออกไป ผมไม่คิดว่า มาริโอ จะพาทีมกิเลนผยองมาถึงวันนี้ได้
ที่ได้บอกไปข้างต้น ไม่ใช่ว่าเป็นการดูถูกหรือไม่เชื่อฝีมือ มาริโอ ยูรอฟสกี้ แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะเราไม่เคยเห็นฝีมือเขามากกว่า เลยไม่คิดว่าจะทำได้ดีเกินคาดขนาดนี้
หากย้อนกลับไปตอนที่โค้ชคนเก่า (กาม่า) ลาออกไปหมาดๆ ชื่อของ มาริโอ แทบจะไม่ได้ถูกพูดถึงหรืออยู่อันดับต้นๆ ด้วยซ้ำไป และผมเองก็ไม่คิดว่าเมืองทองจะกล้าตั้งมาริโอ มาคุมทัพด้วย
เนื่องด้วย มาริโอ เพิ่งจะเลิกเล่นฟุตบอลเมื่อปีที่แล้ว และเพิ่งจะมาศึกษางานโค้ชก็ปีที่แล้วกับทีมเยาวชนของเมืองทองฯ เท่านั้น ถ้าเทียบกับผู้ช่วยของเขาอย่าง ดานโญ่ เซียก้า ยังดูจะมีประสบการณ์การเป็นโค้ชมากกว่า
แต่เมื่อสุดท้ายแล้ว บอร์ดกิเลนผยอง เลือกที่จะให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ขึ้นมาเป็นกุนซือใหญ่ มันก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจของแฟนบอลทั่วไป และกับแฟนๆ กิเลนผยอง ว่ามันจะเวิร์คหรือไม่
ซึ่งผมยังจำได้ มีนักวิจารณ์ท่านนึงที่มีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลไทย แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อละกัน ตอนนี้มีกระแสว่า มาริโอ จะมาคุมทีมเมืองทองฯ นักวิจารณ์ท่านนี้บอกเลยว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะมือยังไม่ถึง หรืออีกนัยนึงก็คือยังไม่ถึงเวลา
ซึ่งผมเองก็เห็นตรงแบบนั้นเช่นกัน เพราะการจะเอาโค้ชมือใหม่ขึ้นมาคุมทีมระดับไทยลีก แล้วยิ่งเป็นทีมอย่างเอสซีจี เมืองทองฯ ด้วย กับเป้าหมายในการสร้างทีมขึ้นมาเพื่อกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป ซึ่งถ้าไม่เวิร์ค มาริโอ อาจจะหมดอนาคตในสายอาชีพโค้ชก็เป็นได้
แต่ไปๆ มาๆ ถึงตรงนี้ ยอมรับตามตรงว่าสิ่งที่ผมคิดนั้นผิดหมดทุกอย่าง และมาริโอ ก็พอสูจน์แล้วว่าเขาสามารถเป็นโค้ชของเมืองทองได้ และไม่ใช่แค่ช่วงแรกๆ ที่ทีมผลงานดีเท่านั้น ทุกอย่างมันดูดีขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงตอนนี้
ตั้งแต่ที่ มาริโอ เข้ามาคุมทีมเมืองทองฯ เห็นได้ชัดเจนว่าทีมนั้นเล่นดีขึ้นกว่าตอน กาม่า คุมเยอะมาก ทรงบอลก็ดีขึ้นชัดเจน และที่สำคัญก็คือการกล้าใช้เด็กลงสนาม ซึ่งถ้าไม่นับตัวต่างชาติ แกนหลักของเมืองทองเวลานี้คือดาวรุ่งเกือบทั้งทีม ไม่ว่าจะเป็น วีระเทพ ป้อมพันธุ์, วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร, ฉัตรมงคล ทองคีรี, ศฤงคาร พรหมสุภะ และอีกหลายๆ คนที่ได้โอกาสลงสนาม ซึ่งถ้าเป็นโค้ชคนอื่นก็คงไม่กล้าใช้
อีกผลงานชิ้นโบว์แดงของ มาริโอ ก็คือการพาทีมเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกช้างเอฟเอคัพ ด้วยการโค่น บีจี ปทุมฯ จ่าฝูงไทยลีก ในรอบ 32 ทีม และล้ม สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
แถมในศึกไทยลีกเกมที่พบกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เลกแรก ก็สามารถโค่นคู่อริลงได้อย่างราบคาบ มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากกับการพาเอสซีจี เมืองทองฯ กับนักเตะชุดปัจจุบันมาถึงตรงนี้ได้
พอเห็นมาริโอ ทำได้แบบนี้ มันก็เกิดคำถามขึ้นในใจว่า ทำไมตอน กาม่า คุมทีม มันไม่เล่นกันแบบนี้ ทั้งๆ ที่นักเตะก็ชุดเดียวกันทั้งหมด ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย แล้วนักเตะในทีมก็เป็นตัวที่โค้ชกาม่า เลือกมาเองกับมือด้วย
จากผลงานที่ผ่านมาจะชมแต่โค้ชมาริโอ คนเดียวก็คงไม่ได้ คงต้องทีมสตาฟฟ์โค้ชของเขาด้วย ไม่ว่าจะเป็น ดานโญ่ เซียก้า, ดาเรน รีด, อุทัย บุญเหมาะ และ นราธิป พันธุ์พร้อม โค้ชผู้รักษาประตู
ผลงานตอนนี้ในศึกไทยลีก ทีมกิเลนผยอง ค่อยๆ ขยับขึ้นมาบนหัวตารางคะแนนขึ้นมาเรื่อยๆ จากที่อยู่เกือบจะเลกสองตัวในช่วงที่กาม่าคุมทีม ตอนนี้ขึ้นมาอยู่ท็อปโฟร์ได้แล้ว และมีโอกาสลุ้นโควต้สา ACL 2022 ด้วย
ขณะที่ในศึกเอฟเอ คัพ ก็ยังอยู่ในเส้นทางกับการลุ้นแชมป์ครั้งแรกของทีมในถ้วยใบนี้ด้วย
ถึงตอนนี้ มาริโอ ยังอยู่ในการทดลองงานและคุมทัพชั่วคราวอยู่ ซึ่งสำหรับเอสซีจี เมืองทองฯ ยังไม่ต้องรีบร้อนแต่งตั้งให้เป็นกุนซือใหญ่อย่างถาวรในตอนนี้
ให้โค้ชโอ้ ได้ลองศึกษางานไปเรื่อยๆ และมาลองดูเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลว่าสุดท้ายแล้วกิเลนผยองจะไปได้ไกลแค่ไหน แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ในซีซั่นหน้า
แต่ถึงเวลานี้บอกได้เลยว่า นี่แหละกุนซือที่ใช่ของ "กิเลนผยอง"
