ทิศทางต่อไป . . . ในอนาคตของสโมสร บาร์เซโลน่า ?

การเปิดโปงคดีคอรัปชั่นในชื่อ "บาร์ซ่า เกท" นับเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงระยำตำบอนของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว กับการดำรงตำแหน่งประธานสโมสร บาร์เซโลน่า ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมาว่ามันเลวร้ายต่ำช้าขนาดไหน ?

แต่ก็นับเป็นเรื่องราวดีๆ ของแฟนๆ และบุคลากรของ บาร์เซโลน่า เพราะตอนนี้ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว และทีมงานก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือบทบาทใดๆ กับทีมอีกต่อไปแล้ว เพียงแต่ตอนนี้เราเองในฐานะแฟนบอลยังไม่สามารถคาดเดาได้ถึงสถานการณ์ต่างๆ ของ บาร์เซโลน่า ในอนาคตข้างหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ? ซึ่งวันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปวิเคราะห์เจาะลึกทิศทางต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับสโมสร บาร์เซโลน่า มันมีความเป็นไปได้ในรูปแบบไหน และอย่างไรบ้างไปดูกัน !

ประธานสโมสรคนใหม่ ?

การเลือกตั้งประธานสโมสรคนใหม่ของ บาร์เซโลน่า นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ณ ตอนนี้ เพราะนี่คือเส้นทางหลักที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการมุ่งไปข้างหน้าของสโมสร ถ้าดูจากสถานการณ์ล่าสุดคนที่เป็นตัวเต็งที่สุดที่เข้ามานั่งเก้าอี้หัวเรือใหญ่คนใหม่ของสโมสรนั่นก็คือ โจน ลาปอร์ต้า เพราะเขาได้คะแนนเสียงไปมากถึง 10,272 เสียงซึ่งเหนือกว่าแคนดิเดทรายอื่นๆ อย่าง บิคตอร์ ฟอนต์, โทนี่ เฟรซ่า และ เอมิลี่ โรเซาด์ อยู่เยอะแบบเห็นได้ชัด ส่วนการประกาศผลการตัดสินในรอบสุดท้ายนั้นจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 มีนาคม นี้ ถ้าเกิด โจน ลาปอร์ต้า ได้ครองตำแหน่งจริงๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อ บาร์เซโลน่า เพราะในอดีตที่ผ่านมาแกก็เคยดำรงตำแหน่งประธานสโมสรแห่งนี้มาก่อนช่วงปี 2003-10 อยู่ในยุคที่ บาร์เซโลน่า ก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดพร้อมกับสถาปนาตัวเองว่าเป็นสโมสรเบอร์ 1 ของโลกในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับคะแนนโหวตไปท่วมท้นขนาดนั้นหลักๆ ก็เป็นเพราะการรู้จักและมีความคุ้นเคยกับขนบธรรมเนียมประเพณีของสโมสรเป็นอย่างดี ทุกคนเชื่อการกลับมาของ โจน ลาปอร์ตต้า น่าจะช่วยกอบกู้ชื่อเสียง, ภาพลักษณ์และความยิ่งใหญ่กลับมาอีกครั้ง

อนาคตของโรนัลด์ คูมัน ?

บาร์เซโลน่า ในยุคของ โรนัลด์ คูมัน ตามหลักทฤษฏีแล้วพวกเขายังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์เมเจอร์ใหญ่ๆ ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ลา ลีกา สเปน ที่ตอนนี้รั้งอยู่รองจ่าฝูง แข่ง 25 นัด มี 53 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง แอตเลติโก มาดริด อยู่ 5 คะแนน ถึงแม้จะยังมีเวลาให้แก้ตัวอีก 13 นัด แต่ถ้าเกิดไปเจาะลึกดูเรื่องของทรงบอล, แนวทางและฟอร์มการเล่น นี่ไม่ใช่สิ่งที่แฟนบอลทั่วไปคุ้นเคยกับความเป็น บาร์เซโลน่า เลย อีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวช่วยตัดสินอนาคตของ โรนัลด์ คูมัน ก็คงเป็นเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยในเกม ยูซีแอล นัดแรกของ รอบ 16 ทีม ก็โดน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จัดหนักบุกไปถล่มถึง คัมป์ นู 4-1 ดูแล้วโอกาสพลิกสถานการณ์กลับมาเข้ารอบมันดูเป็นไปได้ยากในนัดที่ 2 ที่ต้องเดินทางไป ฝรั่งเศส ด้วยความเอาแน่เอานอนไม่ได้อย่างที่เป็นอยู่ ถ้าเกิดท้ายที่สุด โรนัลด์ คูมัน ไม่สามารถพา บาร์เซโลน่า คว้าความสำเร็จใดๆ ได้เลย ดูแล้วโอกาสที่เขาจะได้อยู่กับทีมต่อไปน่าจะเท่ากับศูนย์ อีกแง่หนึ่งก็คือต่อให้ โรนัลด์ คูมัน จะเสกแชมป์ให้ บาร์เซโลน่า ได้ไม่ว่าจะ ลา ลีกา หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ดูแล้วมันก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มโอกาสให้เจ้าตัวได้อยู่ต่อสักเท่าไหร่ ถึงแม้จะจะมีดีกรีเคยเป็นอดีตโคตรกองหลังยอดดาวยิงของทีมมาก่อนก็ตาม แต่ดูเหมือน ลิโอเนล เมสซี่ จะไม่ได้เออออเห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้วในการแต่งตั้ง โรนัลด์ คูมัน เข้ามาคุมทีม มันอาจจะฟังดูแปลกๆ ที่นักเตะขึ้นมามีส่วนสำคัญกับการตัดสินใจของสโมสร แต่ก็อย่างที่ทราบกันนั่นแหละว่า ลิโอเนล เมสซี่ คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของ บาร์เซโลน่า ถ้าจะถามว่า ไม่ใช่ คูมัน แล้วควรเป็นใคร ? ถ้าฟังจากนโยบายของว่าที่ประธานสโมสรคนใหม่อย่าง โจน ลาปอร์ต้า การดึง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลับมาช่วยทวงความยิ่งใหญ่คือสิ่งที่ใครๆ ก็อยากให้เกิดขึ้น แต่มันอาจดูเป็นไปได้ยาก เพราะตอนนี้ตัวของ เป๊ป เองก็เปิดปากพูดออกมาเองเลยว่า เจ้าตัวนั้นแฮปปี้ดีกัและอยากอยู่ล่าความสำเร็จกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปอีกนานๆ ดังนั้นตอนนี้มันจึงเกิดช้อยส์ใหม่ขึ้นมานั่นก็คือ มิเกล อาร์เตต้า ของ อาร์เซน่อล สำหรับ มิเกล อาร์เตต้า ก็เคยเป็นหนึ่งในผลผลิตจากแคมป์ ลา มาเซีย มาก่อน แต่ไม่เคยได้สัมผัสกับประสบการณ์กับทีมชุดใหญ่แค่นั้นเอง ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ อาร์เตต้า ก็มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อยู่ไม่น้อยเลย เขาทำงานเป็นผู้ช่วยมือขวาของ เป๊ป ที่ แมนฯ ซิตี้ มากกว่า 3 ปี ได้วิชาและเคล็ดลับอะไรมาเยอะแยะมากมาย มันก็มีความเป็นไปได้ว่าสไตล์การทำทีมน่าจะไปได้ดีกับปรัชญาของ บาร์เซโลน่า และถ้าเกิดการดึง อาร์เตต้า มันเกิดขึ้นจริงไม่ได้มันก็ยังมี ชาบี เอร์นานเดซ อีกคนซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ลิโอเนล เมสซี่ จะอยู่หรือไป ?

นี่คือสิ่งที่สร้างความกังวลและความหวั่นใจให้แฟนบอลและบุคลากรทุกคนของสโมสร บาร์เซโลน่า มากที่สุด นั่นก็คือเรื่องอนาคตของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่กำลังเป็นเครื่องหมายคำถามว่าพี่แกจะเลือกอยู่หรือไปจากทีมกันแน่ ? อย่างที่ทราบกันว่าสัญญาปัจจุบันของ เมสซี่ จะสิ้นอายุขัยในช่วงจบซีซั่น และนั่นก็สามารถทำให้พี่แกย้ายไปค้าแข้งกับทีมไหนก็ได้แบบไม่มีค่าตัว เรียกได้ว่า บาร์เซโลน่า มีแต่เสียกับเสีย พวกเขามีสิทธิ์สูญเสียสิ่งที่เป็นสมบัติอันล้ำค่ามากที่สุดของสโมสร และจะเป็นการเสียแบบไม่ได้อะไรกลับมาเลยแม้แต่อย่างเดียว สิ่งที่จะทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ ตัดสินใจสะบัดหมึกบนสัญญาฉบับใหม่และอยู่โลดแล่นผจญภัยกับ บาร์เซโลน่า ต่อไป ไม่ใช่เรื่องของเงินทอง ค่าเหนื่อยที่ต้องสูงลิบลิ่วขึ้นไปอีก หรือเรื่องของการการันตีความสำเร็จ แต่มันเป็นเรื่องความสุขของบุคลากรทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ บาร์เซโลน่า มากกว่า อะไรก็ตามที่สามารถพาสโมสรขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดี และคนอื่นๆ ก็รู้สึกโอเคเหมือนกับเขา แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ส่วนตัวมองว่าการไสหัวไปให้พ้นๆ ของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ก็แทบเพิ่มน้ำหนักได้มากเลยว่ายังไง ลิโอเนล เมสซี่ ก็เลือกที่จะอยู่ต่อ เพราะเรื่องของความผูกพันธ์มันมาก่อนเป็นอันดับ 1 สำหรับตัวของ เมสซี่ บาร์เซโลน่า คือสิ่งที่สำคัญที่สุด และสำหรับ บาร์เซโลน่า ลิโอเนล เมสซี่ คนนี้ก็คือทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน สิ่งที่ ลิโอเนล เมสซี่ ได้ทำมันไม่ได้สร้างแค่ผลประโยชน์ยามอยู่ในสนามเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงการเสริมสร้างชีวิตและความเป็นอยู่ให้กับบุคลากรทุกคนภายในทีม ส่วนเรื่องประธานสโมสรคนใหม่ การหากุนซือคนใหม่ การหานักเตะใหม่ๆ เข้ามาเสริมแกร่ง อันนี้ก็สำคัญแต่มันก็เป็นแค่เรื่องรองๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ บาร์เซโลน่า นับจากนี้ไปไม่ว่าจะว่าโอเคหรือไม่ยังไงก็ตาม แต่ถ้าทุกๆ สิ่งในภาพรวมมันดูดีและไม่ระยำตำบอนเหมือนยุคของ โจเซป มาเรีบ บาร์โตเมว ดูแล้วยังไง ลิโอเนล เมสซี่ ก็คงไม่เลือกไปจาก บาร์เซโลน่า สโมสรอันเป็นที่รักแห่งนี้

HaMu Dos Santos