ไทยลีก 2020 กำลังอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล เหลืออีก 3 นัดก็จะได้บทสรุป แม้ บีจี ปทุม จะคว้าแชมป์แน่นอนแล้ว แต่ยังมีสิ่งท้าทายพวกเขาอยู่ นั่นก็คือการเป็นแชมป์แบบไร้พ่าย ถ้าทำได้จะเป็นทีมที่ 3 ในประวัติศาสตร์ไทยลีก
ผ่านมาแล้ว 6 ปี กับแชมป์ไทยลีกไร้พ่ายทีมล่าสุดอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2015 ซึ่งพวกเขาเคยทำได้มาแล้วครั้งนึงเมื่อปี 2013 แต่ถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นอีกหนึ่งฤดูกาล ปี 2012 ก็คือแชมป์ไทยลีกไร้พ่ายเช่นกัน และทีมแรกที่ทำได้ก็คือ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
ซึ่งนี่คือสองตำนานของสโมสรในเมืองไทยกับการเป็นแชมป์ลีกแบบไร้พ่าย วันนี้เราจะย้อนกลับไปติดตามเรื่องราวความสุดยอดของการคว้าแชมป์โดยที่ไม่แพ้ใครของทั้งสองสโมสรนี้อีกครั้ง
เริ่มกันที่
"กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทองฯ ภายใต้การคุมทัพของ สลาวิซ่า โยคาโนวิช กุนซือชาวเซอร์เบีย
ก่อนหน้าที่เอสซีจี เมืองทองฯ จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์ไร้พ่ายทีมแรกของเมืองไทย พวกเขาเป็นแชมป์มาแล้ว 2 สมัยติดกัน ในฤดูกาล 2009 และ 2010 จากนั้นในปี 2011 ทีมกิเลนผยอง เสียแชมป์ให้กับเจ้าบุญทุ่มทีมใหม่อย่าง บุรีรัมย์ พีอีเอ หรือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน
ซึ่งจากการเสียแชมป์ในปี 2011 ไป ทำให้เมืองทอง หมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างมากว่าจะกลับมาเป็นแชมป์ให้ได้ในฤดูกาล 2012
ในฤดูกาลนั้นพวกเขาได้ไปดึงตัว สลาวิซ่า โยคาโรวิช หรือ "ย็อคก้า" ซึ่งถือเป็นอดีตนักฟุตบอลชื่อดังในพรีเมียร์ลีกของสโมสรเชลซี มาคุมทัพ ซึ่งตอนนั้นถือเป็นกุนซือหนุ่มไฟแรง และเพิ่งจะเป็นโค้ชได้ไม่นาน โดยก่อนหน้าจะมาคุมเมืองทอง ย็อคก้าคุมทีมปาร์ติซาน เบลเกรด ในบ้านเกิดมาก่อน แลเคยพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ถึงสองสมัย
ในทีมชุดนั้นมีนักเตะที่เป็นแกนหลักของทีมอย่าง ดัสกร ทองเหลา กัปตันทีม มี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสา กองหลังมี ภานุพงศ์ วงศ์ษา, รี กวาง ชอน, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, ปิยะพล ผานิชกุล, มงคล นามนวด, กองกลางมี พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ดานโญ่ เซียก้า
ส่วนเกมรุกก็มีตัวเทพๆ อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ที่ปีนั้นก็คว้าดาวซัลโวร่วมได้ด้วย มี มาริโอ ยูรอฟสกี้ เป็นเพลย์เมกเกอร์ มี อั๊ดนัน บาราคัต, จักรพันธ์ พรใส เป็นตัวริมเส้น และก็ยังมี เปาโล แรงเจล ที่มาเสริมความคมในเลกที่สองด้วย
ทีมชุดนั้นถือว่าอุดมไปด้วยนักเตะระดับคุณภาพทุกขุมกำลัง แถมยังมีตัวทดแทนกันได้ทุกตำแหน่ง ยิ่งเล่นก็ยิ่งเข้าขารู้ใจ จนกลายเป็นทีมไร้เทียมทาน ตลอดฤดูกาลไม่แพ้ใคร 34 นัด ชนะ 25 เสมอ 9 เก็บได้ 84 คะแนน
มากันที่
ฤดูกาล 2013 แชมป์ไร้พ่ายครั้งแรกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของ อเลฮานโดร เมเนนเดส กุนซือชาวสเปนหลังจบฤดูกาล โดยก่อนหน้านั้นช่วงต้นซีซั่นเป็น "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม ที่คุมทีม จากนั้นก็เป็น สก็อตต์ คูเปอร์ กุนซือชาวอังกฤษที่มาขัดตาทัพช่วงสั้นๆ
ก่อนจะเป็น อเลฮานโดร เมเนนเดส ที่พกดีกรีเคยเป็นอดีตผู้ช่วยโค้ชของเรอัล มาดริด ในลาลีกา สเปน และเคยมีประสบการณ์คุมทีมในสเปนมามากมาย มาคุมทีมในเลกสองจนจบฤดูกาล
พูดถึงการกลับมาเป็นแชมป์ไทยลีกของเซราะกราวในปีนั้น เช่นเดียวกัน หลังจากที่บุรีรัมย์ เสียแชมป์ไทยลีกให้กับเมืองทอง พวกเขาก็ต้องการจะทวงแชมป์กลับมาเช่นกัน ซึ่งในปีนั้นก็มีการเสริมทัพนักเตะมามากมาย บวกกับตัวเก่าที่มีอยู่แล้ว ทำให้ปราสาทสายฟ้า ปี 2013 เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากๆ
ทีมชุดนั้นมีตัวหลักๆ อย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ออสม่า อิบาเนซ, ประทุม ชูทอง, ธีราทร บุญมาทัน, สุรีย์ สุขะ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, จักรพันธ์ แก้วพรม, มีตัวรุกอย่าง ไค ฮิราโนะ, ฆาเบียร์ ปาตินโญ่ และ คาร์เมโล่ กอนซาเลซ ดาวซัวโวประจำทีม
ฤดูกาลนั้นเป็นฤดูกาลที่พีคสุดๆ อีกครั้งนึงของทีมเซราะกราว เพราะนอกจากที่พวกเขาจะทวงแชมป์ไทยลีกกลับมาแบบไร้พ่ายแล้ว พวกเขายังคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ มาครองได้ด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองที่พวกเขาทำได้ต่อจากฤดูกาล 2011 เรียกได้ว่าถ้าจะเป็นแชมป์ก็ขอเป็นทุกแชมป์เลยละกัน
โดยแชมป์ไร้พ่ายของบุรีรัมย์ เมื่อฤดูกาล 2013 พวกเขาทำผลงานด้วยการลงสนาม 32 นัด ชนะ 23 เสมอ 9 เก็บได้ 78 คะแนน
แชมป์ไร้พ่ายของบุรีรัมย์ ไม่ได้จบเพียงแค่ฤดูกาล 2013 พวกเขามาทำได้อีกครั้งในปี 2015 ในยุคของกุนซือที่ชื่อว่า อเล็กซานเดร กาม่า ซึ่งพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 2 ปีติดต่อกัน 2014 และ 2015 ถ้ารวมกับ 2013 ก็ 3 สมัยติด และเป็นแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 4 ของบุรีรัมย์ ในประวัติศาสตร์
ซึ่งในปีนั้นนอกจากจะคว้าแชมป์ไทยลีกแบบไร้พ่ายแล้ว โดยพวกเขาลงสนามไป 34 นัด ชนะได้ 25 เสมอ 9 เก็บได้ 84 คะแนน พวกเขายังคว้าแชมป์ได้อีก 4 แชมป์ รวมทั้งหมดเป็น 5 แชมป์ในปีเดียวกัน ประกอบไปด้วย แชมป์ถ้วย ก., ไทยลีก, ลีก คัพ, แม่โขง คลับแชมเปี้ยนชิพ และ เอฟเอ คัพ
ซึ่งนักเตะชุดนั้นนอกจากตัวหลักชาวไทยอย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, สุเชาว์ นุชนุ่ม, จักรพันธ์ แก้วพรม พวกนี้แล้ว ก็ยังมีตัวต่างชาติอย่าง อันเดรส ตูเนซ, โก ซุลกิ, กิลแบร์โต้ มาเชน่า, ราฟาเอล โคเอลโญ่ และก็ตำนานของทีมอย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต
ซึ่งครั้งนั้นถือเป็นปีที่สุดยอดมากๆ ของบุรีรัมย์ และประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทย และไม่มีทีมไหนที่จะทำลายสถิตินี้ได้แล้ว
และมาถึงในฤดูกาลนี้ 2020 เรากำลังจะมีแชมป์ไทยลีกไร้พ่ายทีมที่ 3 เกิดขึ้น นั่นก็คือ
"บีจี ปทุม ยูไนเต็ด" แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทีม "เดอะบลูแมชชีน" ยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีก 3 นัดที่เหลือ ว่าพวดเขาเหมาะสมหรือไม่กับคำว่าแชมป์ไร้พ่าย
โดยตอนนี้ผ่านไปแล้ว 27 นัด พวกเขาชนะได้ 23 เสมอ 4 ยังไม่แพ้ใคร โปรแกรมสามนัดที่เหลือจะต้องพบกับ สุพรรณบุรี, ราชบุรี และ เมืองทองฯ ก็มารอดูกันว่า บีจี จะทำได้หรือไม่
