logo-heading

หลังจาก บีจี การันตีแชมป์ไทยลีก 2020 ของตัวเองได้สำเร็จ วันนี้ทีมงานขอบสนามบอลไทยขอชำแหละเหตุและผลที่สำคัญที่ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ในครั้งนี้

  บีจี ตกชั้น

การตกชั้น ... เปลี่ยนแนวคิด

ข้อนี้ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เปลี่ยน บีจี ไปเลย เพราะการตกชั้นทำให้พวกเขาต้องกลับไปเริ่มกันใหม่กับสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อนนั่นคือการเป็นทีมใหญ่ที่เล่นในลีกรอง ซึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยว่าทำไมการตกชั้นถึงทำให้ความคิดของผู้บริหารเปลี่ยนไป ?? เพราะ ณ ตอนนั้นพวกเขาไม่คิดว่าทีมจะพลาดถึงขั้นตกชั้น ดังนั้นในเมื่อทุกอย่างมันเกินคาดและเกิดขึ้นแล้ว การกลับมาทำปัจจุบันให้ดีที่สุดและไม่ประมาทกับผลงานในสนามทุกๆ เกมนั่นคือสิ่งที่ บีจี เปลี่ยนแปลงและชัดเจนมากขึ้น และในเมื่อความคิดเปลี่ยนไปเราจึงเห็นแนวทางการทำทีมของบีจีที่เปลี่ยนแปลงกับการเล่นไทยลีก 1 ทั้งการเลือก โค้ชโอ่ง ทำงานต่อ, การเสริมทัพที่เลือกตัวที่จะใช้รวมไปถึงการใช้อิสระกับโค้ชโอ่งเต็มที่ทำให้อะไรๆก็ดีขึ้น

  บีจี ปทุม เสริมตัว

การเสริมทัพ ... ที่ถูกที่ควร

ไล่ตั้งแต่เลกแรกที่ไปคว้าตัว สิโรจน์ ฉัตรทอง, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่, สุมัญญา ปุริสาย หรือ สันติภาพ จันทร์หง่อม เข้ามาแม้จะมาใหม่ แต่นักเตะเซ็ตนี้ต่างก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมทันที เมื่อนำมาบวกกับนักเตะใหม่เซ็ตสองที่ไทยลีกอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นได้จากสถานการณ์โควิด บีจี จึงนำเข้าแข้งดังๆ อย่าง สารัช อยู่เย็น, อันเดรส ตูเนซ และ เจนรบ สำเภาดี ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาก็เข้ามาเป็นตัวจริงทันทีและทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดีเช่นกัน เมื่อนำ 2 เซ็ตที่เสริมทีมเข้ามารวมกันทำให้ บีจี กลายเป็นทีมใหญ่ขึ้นมาทันที เท่านั้นยังไม่พอกับการเสริมทัพครั้งสุดท้ายที่ได้มาทั้ง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้, ธีรศิลป์ แดงดา และ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ก็ทำให้พวกเขาถูกมองว่าพร้อมสรรพในทุกตำแหน่ง ดังนั้นต้องยอมรับว่าการเสริมทัพในฤดูกาลของบีจีปทุมคือสิ่งที่เหมาะที่ควรอย่างที่สุดและเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่พาทีมไปจนถึงแชมป์ในฤดูกาลนี้

  บีจี ซ้อม

ช่วงพักโควิด ... คือนาทีทอง

ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าในช่วงที่ไทยลีกพักหลายๆ เดือนเพราะสถานการณ์โควิดระบาดนั้น คือการให้ทุกทีมได้กลับมาตั้งหลักกันใหม่อีกครั้ง โดยหนึ่งในนั้นก็คือ บีจี ปทุม ด้วย ซึ่งพอได้เซ็ตระบบการเล่นกันใหม่, นักเตะทำความเข้าใจแผนของโค้ช, โค้ชมีเวลามองนักเตะมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุทำให้ผู้เล่นใหม่ๆ ของ บีจี ที่แม้ว่าเพิ่งจะมาเล่นด้วยกันต่างก็ทำผลงานได้ดี และนี่ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญๆ ที่ทำให้ผลงานของทีมที่ออกสตาร์ตในช่วง 4 เกมแรกได้แบบดีเยี่ยมในช่วงเดือน ก.. มาต่อในช่วงเดือน ก.. แบบไม่มีตกไม่มีหล่นเลย

  บีจี เกมรับ

การทำฟุตบอล ... ในแบบสมัยใหม่

ฟุตบอลสมัยใหม่ที่ว่าคือการทำทีมโดยเน้นไปที่เกมรับเป็นหลักและมีเกมรุกคือตัวช่วยในการจบสกอร์เพื่อคว้าชัย ถ้าดูจากการเสริมทัพทั้ง วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และ อันเดรส ตูเนซ ถือเป็นเรื่องใหม่ของฟุตบอลไทยที่ใช้เซ็นเตอร์ต่างชาติ (ไม่ใช่เอเชีย) ลงเล่นพร้อมๆ ถึง 2 คน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีทีมไหนประสบความสำเร็จกับการใช้กองหลังต่างชาติ 2 คนเลย เนื่องจากจะเสียโควต้าเกมรุกไปในตัว ทำให้ทีมส่วนใหญ่ที่ประสบความเร็จในบ้านเราไม่มีอะไรแบบแนี้ แต่สุดท้าย บีจี ก็ทำให้เห็นแล้วว่าฟุตบอลในตอนนี้เทรนด์เกมรับมันกำลังมาจริงๆ  ซึ่งก็เป็นไปตามแบบฉบับสุภาษิตฟุตบอลที่ว่า "เกมรุกทำให้คุณชนะ แต่เกมรับจะทำให้คุณเป็นแชมป์" ดังนั้นจึงถือว่าการทำฟุตบอลสมัยใหม่ที่เน้นไปที่เกมรับเป็นอะไรที่เหมาะกับ บีจี ปทุม มากๆ และมากพอที่จะทำให้พวกเขาเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ด้วย 

  บีจี

ทีมใหญ่ๆ ... พาเหรดกันฟอร์มตก

นอกจากฟอร์มของตัวเองจะดีแล้ว การจะไปให้ถึงคำว่าแชมเปี้ยนส์นั้นการมองคู่แข่งเป็นเรื่องที่ต้องทำควบคู่กันไป ซึ่งปีนี้ต้องยอมรับจริงๆ ว่า บีจี ปทุม มีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะทีมใหญ่ๆ ที่เคยมีเอี่ยวกับการลุ้นแชมป์ไทยลีกในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมาอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทอง, ทรู แบงค็อก หรือทีมแชมป์เก่าอย่าง สิงห์ เชียงราย ต่างพาเหรดกันฟอร์มตกไปพร้อมๆ กัน ซึ่งดูจากคะแนนที่ บีจี นำห่างคู่แข่งอย่างไม่เห็นฝุ่นและทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ได้อย่างรวดเร็วทั้งที่เหลือแมตช์แข่งขันอีกตั้ง 6 เกม มันค่อนข่างชัดเจนว่าส่วนนึงมาจากความผิดพลาดของทีมใหญ่ๆ ที่ทำให้คะแนนมันห่างกันขนาดนี้

ถ้าคุณๆ อ่านจนจบและนำทุกเรื่องราวมารวมกันตั้งแต่ การตกชั้นที่ทำให้บีจีเปลี่ยนไป มาถึงการเสริมทัพที่ถูกที่ถูกเวลา แถมยังได้พักโควิดทำให้จูนระบบการเล่นกันติด หลังจากนั้นพวกเขาได้นำระบบฟุตบอลสมัยมาใช้ รวมไปถึงทีมใหญ่ๆ ที่ปีนี้ฟอร์มตกกันหมด ทุกอย่างมันนำทางให้พวกเขาก้าวมาถึงการเป็นแชมป์ไทยลีกในฤดูกาล 2020/2021 

   

บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)

  ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ไลน์ขอบสนาม
logoline