logo-heading

เกมแดงเดือดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเอาตบเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 4-2 นับเป็นชัยชนะอันหอมหวานสำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" ทั่วโลก แต่ท่ามกลางความดีใจ กลับซ่อนดราม่าที่กลายเป็นรอยร้าวระหว่าง ซาดิโอ มาเน่ กับ เจอร์เก้น คล็อปป์

เพราะหลังจบเกม แดงเดือด .. เจอร์เก้น คล็อปป์ เดินเข้าไปดีใจแท็คมือและกอดยินดีกับลูกทีม แต่ในจังหวะที่เดินไปหา มาเน่ กลับถูกนักเตะรายนี้ ชักสีหน้าไม่พอใจ และ เดินหนีอย่างไม่ใยดี เนื่องจาก ดาวเตะทีมชาติเซเนกัล ไม่พอใจที่ตัวเองได้ลงเล่นเป็นแค่สำรอง และ อยู่ในสนามไม่ถึง 20 นาที

ถึงแม้ว่าชัยชนะครั้งนี้ จะเป็น 3 แต้มสำคัญของ ลิเวอร์พูล แต่กระแสดราม่าของ มาเน่ กับ คล็อปป์ มันสะท้อนอะไรบางอย่างออกมา โดยเฉพาะอนาคตของ ซาดิโอ มาเน่ และ 

- ไม่มีความสุขกับบทบาทสำรอง

"เมื่อก่อนเคยสำคัญ แต่ปัจจุบันอาจไม่มีที่ยืน" ประโยคนี้กำลังหลอกหลอน ซาดิโอ มาเน่ เพราะจากที่เขาเคยเป็นนักเตะที่ หงส์แดง จะขาดไปไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นว่า ณ ตอนนี้ เริ่มโดนลดบทบาท มีสถานะเป็นตัวสำรอง ซึ่งทุกอย่างมันมีที่มา โดยเฉพาะเรื่องฟอร์มการเล่น จากการที่ มาเน่ แปรสถานะเป็นหัวหอกตีนบอด ยิงไปเพียงแค่ 9 ประตู ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ พร้อมกับมีช็อตพลาดโอกาสทองมากมาย ทำให้ผู้คนเริ่มพูดถึงฟอร์มการที่ตกลงไปเหมือนเล่น "บันจี้จั๊มพ์" และ นั่นเป็นที่มาของการเริ่มถูกจับดรอปเป็นสำรอง เพราะ เจอร์เก้น คล็อปป์ มี ดิโอโก้ โชต้า อีกคน ที่สามารถลงมาเล่นทดแทนได้อย่างไร้ที่ติ ยิ่งในเกมสำคัญอย่าง แดงเดือด เป็นแมตช์ที่ ลิเวอร์พูล ต้องการ 3 แต้ม เพื่อต่อลมหายใจลุ้นพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลับกลายเป็นว่า มาเน่ ไม่ได้ถูกรับเลือก สร้างความหงุดหงิดให้กับเขามากขึ้นทวีคูณ เพราะก่อนหน้านี้ ตอนที่ แดงเดือด ต้องเลื่อนการแข่งขัน มาเน่ ยังมีชื่อเป็นตัวจริง แต่กลับหลุดทีมไปซะอย่างนั้น เมื่อ มาเน่ ไม่พอใจ เขาเลยระเบิดอารมณ์ใส่ เจอร์เก้น คล็อปป์ หลังจบเกมชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด เพื่อแสดงให้เห็นเลยว่าเขาไม่มีความสุขกับบทบาทการเป็นสำรอง แต่มันกลับกลายว่าผิดที่ผิดทาง เพราะมันแสดงออกมาต่อหน้าสาธารณะ เหมือนอารมณ์แบบขอตัดขาด เพราะปกติถ้าคุณไม่แฮปปี้ ก็ควรจะไปขอคำอธิบายกันแบบส่วนตัว  ไม่รู้ว่าพฤติกรรมนี้ของ มาเน่ จะส่งผลกระทบต่ออนาคตในทีมมากแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่า มาเน่ เริ่มไม่มีความสุขกับสถานะของตัวเองในทีม ลิเวอร์พูล เพราะมันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ที่เขาจะต้องนั่งสำรองในทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ อย่างแน่นอน

- คิดย้ายทีมแบบจริงจัง

ถ้าคุณเริ่มไม่แฮปปี้ ทางออกยอดฮิต คือการเก็บกระเป๋าย้ายออกจากทีม โดยนักเตะโปรไฟล์ระดับ มาเน่ ไม่จำเป็นจะต้องพิสูจน์ฝีเท้าให้ใครได้เห็นอีกแล้ว เขาโชว์ให้เห็นเป็นขวัญตามาตลอดกับ หงส์แดง ในการเป็นคนสำคัญพาสโมสร คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากผลงานของ มาเน่ ทำให้มียักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด จ้องตาเป็นมัน อยากจะได้ตัวไปเสริมทัพ โดยเฉพาะ ซีเนอดีน ซีดาน เฮดโค้ช "ราชันชุดขาว" ที่ดูจะโปรดปรานนักเตะรายนี้ เป็นพิเศษ แต่กระนั้นก็มีกระแสมาตลอดว่า มาเน่ ไม่ต้องการย้ายไปไหนทั้งนั้น และ อยากจะอยู่ค้าแข้งช่วย หงส์แดง ต่อไปยาวๆ ตอนนั้น มาเน่ อาจจะรู้สึกแฮปปี้ แต่อย่างที่บอก สถานะของเขากับ ลิเวอร์พูล มันเปลี่ยนไปเยอะ หากเทียบกับ 1-2 ปีก่อน ดังนั้นเมื่อปัจจัยหลายๆอย่างมันถาโถม ทั้งเรื่องความสัมพันธ์, เรื่องฟอร์มการเล่น อาจจะทำให้ มาเน่ คิดย้ายทีมแบบจริงจังก็เป็นได้ เพราะความสำเร็จที่ มาเน่ สร้างมากับ ลิเวอร์พูล ก็สามารถคว้าโทรฟี่รายการใหญ่ๆมาครองได้แล้ว บางทีการย้ายทีมก็อาจจะเป็นการไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ความท้าทายใหม่ๆ ไม่ต้องมานั่งเจออะไรที่มันจำเจ ดูอึดอัด ต้องรอดูกันว่าจากกระแสดราม่าที่ไม่พอใจ เจอร์เก้น คล็อปป์ มันจะเอฟเฟ็กต์ทำให้ มาเน่ คิดย้ายทีมจริงจังเลยหรือไม่ 

- ใต้ร่มเงา ซาลาห์

ท่ามกลางความสำเร็จที่ ลิเวอร์พูล สร้างขึ้น นักเตะที่มักเป็นตัวเด่น ถูกเชิดชูมากที่สุด คงหนีไม่พ้น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ หรือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดังนั้นเรื่องนี้คงจะไปสกิดรบกวนหัวใจของ ซาดิโอ มาเน่ เหมือนกัน ไม่มากก็น้อย ไม่ว่า มาเน่ จะทำงานหนัก หรือ โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมมากแค่ไหน แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วมักจะได้รับคำชม และ การยกย่องน้อยกว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าเพื่อนร่วมทีม อยู่ดี เอาง่ายๆแค่รางวัลส่วนตัว ส่วนใหญ่ก็จะเป็น "อียิปต์ คิง" ที่ซิวโทรฟี่ไปครอง ทั้งๆที่เขาก็เป็นคนสำคัญช่วยให้ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน อารมณ์คล้ายๆสมัย เนย์มาร์ วาดลวดลายอยู่กับ บาร์เซโลน่า เขาไม่อาจสลัดร่มเงา ลิโอเนล เมสซี่ ได้เลย ต่อให้ทำผลงานยอดเยี่ยมแค่ไหนก็ตาม จึงมีการตัดสินใจเรื่องการย้ายทีมจาก บาร์เซโลน่า ไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกับเคสของ มาเน่ โดยเกมที่บุกไปตบ ปีศาจแดง 4-2 ถึงถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เหมือนเป็นการตอกย้ำ มาเน่ ไปในตัวว่า เขาดูมีความสำคัญน้อยกว่า ซาลาห์ จริงๆ เพราะถูกจับนั่งสำรอง ขณะที่ บังโม ได้รับโอกาสลงตัวจริง ในเกมใหญ่ๆอย่าง "แดงเดือด" และ ที่สำคัญยิงประตูได้อีกด้วย เชื่อว่ารอยร้าวมันมีมานานแล้ว เหมือนอย่างเหตุการณ์ที่ มาเน่ เคยระเบิดอารมณ์ใส่ ซาลาห์ จากนิสัยชอบเล่นบอลชายเดี่ยว อารมณ์ประมาณว่า "มึงจะเด่นคนเดียว" ไปถึงไหน ถึงแม้จะมีการเคลียร์ใจกันแล้ว แต่มันคงเป็นปมเล็กๆที่ติดอยู่ในความรู้สึกของ มาเน่ ว่าเขาไม่เคยสลัดให้พ้นร่มเงา ซาลาห์ ได้เลย

ฮาย ฮาวดี้

logoline