ใครจะมารับเผือกร้อน คุมทีมชาติไทย ต่อจาก "นิชิโนะ"??

และแล้วก็ต้องขอกล่าวคำลาเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "ซาโยนาระ" ให้กับ "อากิระ นิชิโนะ" อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย ที่ถูกบอกเลิกสัญญาแบบฟ้าผ่าไปเมื่อคืนวานนี้ หลังจากพาทีมช้างศึกล้มเหลวในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกที่ผ่านมา ด้วยการตกรอบ 2 ไม่ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับผลงานของ อากิระ นิชิโนะ ในการคุมทีมชาติไทย ชุดใหญ่เฉพาะเกมอย่างเป็นทางการในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 2 ที่ผ่านมา ทั้งหมด 8 เกม ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 3 เก็บได้ 9 คะแนน จบด้วยอันดับรองบีวยของกลุ่มจี โดยเป็นรองทั้งเวียดนาม และมาเลเซีย เพื่อร่วมอาเซียนของเรา นอกจากนี้ยังได้คุมทีมชาติไทย ชุดยู 23 ลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ไทยเราเป็นเจ้าภาพเมื่อต้นปี 2020 ซึ่งก้สามารถะาทีมผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ แต่ก้ขอดเพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายหลังพ่ายซาอุดิอาระเบีย 1-0 ขณะที่อีกรายการคือการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2019 ก็พาทีมชาติไทย ตกรอบแรก ทั้งหมดคือผลงานของลุงโนะตลอดการเป็นกุนซือทีมชาติไทยกว่า 2 ปีเต็มๆ จากนี้ความน่าสนใจอยู่ที่ใครจะมารับเผือกร้อนทำหน้าที่แม่ทัพทีมช้างศึกคนต่อไป ในสถานการณ์ที่มีทั้งโควิด และผลงานที่น่าผิดหวังของทีมชาติเวลานี้ ซึ่งจากกระแสข่าวก็มีแนวโน้วที่จะเป็นไปได้ 2 แบบ นั่นคือกลับไปใช้บริการโค้ชคนไทยอีกครั้ง ซึ่งเราก็มีโค้ชดีๆ ระดับโปรไลเซนส์อยู่หลายคน หรือบางที่อาจจะเลือกใช้โค้ชต่างชาติเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือโค้ชชาวเกาหลีใต้ ที่มีข่าวพัวพันอยู่กับทีมชาติไทยก่อนหน้านี้ ซึ่งถ้าพูดถึงโค้ชคนไทย แน่นอนว่าต้องเป็นโค้ชที่ผ่านการอบรมโปรไลเซนส์และเคยผ่านงานระดับคุมทีมไทยลีก หรือมีประสบการณ์ในระดับนานาชาติมาก่อน ซึ่งเท่าที่ดูในรายชื่อโค้ชโปรไลเซนส์ของเราก็มีตัวเลือกอยู่สี่ส่า ห้าคน ที่พอจะมีชื่อและยังว่างงานอยู่ตอนนี้ คนแรกคือ "โค้ชจุ่น” จตุพร ประมลบาล โค้ชจอมเก๋าวัย 50 ปี ที่ผ่านงานคุมทีมมามากมาย ทั้งในไทยลีก และทีมชาติ ซึ่งก็เคยคุมทีมชุด ยู19 และ ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยมาแล้ว ปัจจุบันก็ทำหน้าที่เป็นวิทยากรของเอเอฟซี ในการอบรมดค้ชโปรไลเซนส์ของเมืองไทย คนต่อมาคือ "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย อดีตกุนซือขัดตาทัพทีมชาติไทย ช่วงสั้นๆ ก่อนที่ อากิระ นิชิโนะ จะมาคุมทีมชาติไทย ซึ่งถ้าพูดถึงโปรไฟล์อาจจะไม่ได้สวยหรู เพราะยังไม่เคยคุมทีมใหญ่ๆ มาก่อน แต่ช่วงที่ขัดตาทัพทีมชาติไทยแทนที่ ราเยวัช ในเอเชี่ยน คัพ 2019 ก็ถือว่าทำได้ดี คนที่สาม "โค้ชโย่ง" วรวุฒิ ศรีมะฆะ อดีตโค้ชทีมชาติไทย ชุดยู23 ชุดแชมป์ซีเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย และเป็นอดีตศูนย์หน้าระดับตำนานของทีมชาติไทย ซึ่งตอนนี้ก็ว่างงานอยู่ แต่ดูแล้วพี่โย่งน่าจะอยากอยู่เฉยๆ ดีกว่าตอนนี้ อีกคนที่มีโปรไลเซนส์ นั่นคือ อิสระ ศรีทะโร อดีตโค้ชทีมชาติไทย ชุดยู19 และเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์โค้ชของ อากิระ นิชิโนะ ล่าสุดด้วย แต่ก็ยังไม่น่าจะเป็นโค้ชหระที่ขึ้นมาคุมทีมชาติไทยในเวลานี้ ส่วนโค้ชไทยคนอื่นๆ ที่มีโปรไลเซนส์และมีประสบการณ์เหมาะจะคุมทีมชาติไทย แต่มีต้นสังกัดอยู่แล้วก็หลายคนอย่าง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่คุมทีมฮองอันห์ ยาลาย อยู่ที่เวียดนาม ซึ่งไม่มาคุมทีมชาติไทยตอนนี้แน่นอน นอกจากนี้ยังมี "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือทรู แบงค็อก และ "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ที่อดีตก็เคยเป็นกุนซือทีมชาติไทย ตอนนี้นั่งแท่น ผอ.บีจี ปทุมฯ ก็น่าจะสบายกว่า รายชื่อของโค้ชไทยก็น่าจะประมาณนี้กับความเป็นไปได้ ส่วนโค้ชชาวต่างชาติเท่าที่มีข่าวก็มีแต่โค้ชชาวเกาหลีใต้ คนแรกคือคนที่มีชื่อหลุดออกมาว่าได้มีการพูดคุยเบื้องต้น รวมไปถึงได้แสดงวิสัยทัศน์แผนงานต่างๆ ในการคุมทีมชาติไทยกับสมาคมฟุตบอลไปแล้ว ซึ่งมีหนังสือดังกล่าวหลุดออกมาทางโลกโซเชี่ยล แต่ทั้งหมดก็ยังเป้นแค่ข่าวลือ โค้ชคนนั้นคือ ลี ลิม เซียง อดีตกองหลังทีมชาติเกาหลีใต้ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันอายุ 49 ปี ทีมล่าสุดที่คุมคือ ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์ ในเคลีก เมื่อปี 2019-2020 ส่วนอีกสองคนมาจากสายของ "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่ยื่นโปรไฟล์มาทางอดีตกองหน้าระดับตำนานทีมชาติไทย ว่าสนใจจะคุมทีมช้างศึก หนึ่งคือ "ฮอง เมียง โบ" กุนซือชาวเกาหลีใต้ วัย 52 ปี ที่ถือเป็นอดีตนักเตะทีมโสมขาวระดับตำนาน ปัจจุบันคุมทีมอุลซาน ฮุนได มอเตอร์ส ในบ้านเกิด เคยคุมทีมชาติเกาหลีมาตั้งแต่ชุดเล็กยันชุดใหญ่ และเป็นโค้ชทีมชาติเกาหลีใต้ในศึกฟุตบอลโลก 2014 อีกด้วย และคนสุดท้ายคือ จุง แฮ ซอง วัย 63 ปี อดีตเพื่อนร่วมทีมของ "เดอะตุ๊ก" สมัยค้าแข้งกับลัคกี้ โกลด์สตาร์ อดีตผู้ช่วยโค้ชของ กุส ฮิดดิ้งค์ ในทีมชาติเกาหลีใต้ชุดฟุตบอลโลก 2002 ทีมล่าสุดคือโฮจิมินห์ ซิตี้ ในวีลีก เวียดนาม เมื่อปี 2019-2020 ทั้งหมดนี้คือบรรดารายชื่อกุนซือที่มีโอกาสจะเข้ามาคุมทีมชาติไทย ต่อจาก อากิระ นิชิโนะ ซึ่งก็ต้องย้ำว่าเป็นเพียงการคาดการณ์จากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้เท่านั้น ส่วนจริงๆ แล้วใครจะมานั่งกุนซือทีมชาติไทยคนใหม่ เร็วๆ นี้เราคงได้รู้กัน